หลับฝันในม่านหมอก แล้วตื่นเช้าออกไปนับแกะ
The Cotswold Villa ; Cingjing Farm [Taiwan]
- December, 2017 -

ที่พักอบอุ่นน่ารักบนระดับความสูงกว่าพันเมตรจากระดับน้ำทะเล
สูงเฉียดฟ้าจนรู้สึกเหมือนล่องลอยอยู่กลางทุ่งเมฆ
เย็นย่ำนั่งชมทะเลหมอกจากในห้องนอน
ตกดึกขดตัวใต้ผ้าห่มไฟฟ้าแล้วหลับฝันหวาน
ตื่นเช้าทำเนียนเป็นวิ่งผ่านน้ำแบบด่วนจี๋
แล้วออกไปเดินเล่น นับแกะที่ “Cingjing Farm”
.. ที่พูดมาทั้งหมด คือ “The Cotswold Villa”
ที่พักสไตล์ยุโรปในไต้หวัน ในวันที่หนาวกายนัก
แต่แสนอบอุ่นหัวใจ : )

เคยสัญญาเอาไว้ในแผนเที่ยวของ “Cingjing Farm” ว่าจะรีบมารีวิวที่พักน่ารักที่เรามีโอกาสได้ไปซุกกายมาหนึ่งคืน ซึ่งอันที่จริงแล้วบนชิงจิ้ง ฟาร์ม มีที่พักให้เลือกอยู่เรียงรายตลอดเส้นทาง ส่วนใหญ่จะนิยมพักกันแถวๆ โรงแรมสุดหรูชื่อดังอย่าง “Old England” ที่ราคาสูงจนคนธรรมดาอย่างเราเอื้อมไม่ถึง โดยข้อดีของการเลือกพักแถวนั้นคือจะอยู่ใกล้สุดถ้านั่งรถบัสขึ้นมาจากด้านล่าง แต่ตรงจุดนั้นจะค่อนข้างไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง “ฟาร์มแกะ Green Green Grasslands” ฉะนั้นถ้าจะไปเที่ยวฟาร์มแกะก็จะต้องนั่งรถบัสต่อขึ้นไปค่อนข้างไกลอยู่เหมือนกัน

"ฟาร์มแกะ Green Green Grasslands" สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของ Cingjing Farm

ขอเกริ่นเพิ่มเติมอีกนิดว่า ชิงจิ้ง ฟาร์ม ตั้งอยู่ใน “เมืองหนานโถว” ซึ่งเป็นเมืองเดียวกับสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของไต้หวันอย่าง “ทะเลสาบสุริยันจันทรา (Sun Moon Lake)” ฉะนั้นถ้ามาจากไทเป ควรจัดทริปชิงจิ้ง ฟาร์ม เอาไว้เป็นรูทเดียวกับ Sun Moon Lake เลย โดยจะไป Sun Moon Lake ก่อน หรือมาเที่ยวชิงจิ้ง ฟาร์ม ก่อนก็ได้ เพราะสองที่นี้มีวิธีการเดินทางคล้ายกัน ต่างกันแค่นั่งรถบัสแยกไปลงคนละที่เท่านั้นเอง หรือจะเลือกเที่ยวที่ใดที่หนึ่งก็ได้นะ ถ้ามีเวลาน้อย แต่ส่วนตัวแล้วเราว่าไม่ควรพลาดทั้งสองที่ด้วยประการทั้งปวง จัดเป็นทริปเที่ยวนอกเมืองจากไทเป แล้วนอนที่ Sun Moon Lake หนึ่งคืน ต่อด้วย ชิงจิ้ง ฟาร์ม อีกหนึ่งคืน รับรองว่าต้องประทับใจ .. แล้วเราจะรีบทำรีวิวของ Sun Moon Lake มาฝากกันนะ ^^
จองที่พักราคาพิเศษในเมืองหนานโถว

เอาละ กลับเข้าเรื่องต่อ … อีกหนึ่งอุปสรรคในการหาที่พักบนชิงจิ้ง ฟาร์ม คือโรงแรมส่วนใหญ่ต้องโทรจอง ไม่ก็มีเงื่อนไขการจองที่ค่อนข้างยุ่งยาก เช่น ต้องอีเมลไปจองแล้วโอนเงินจำนวนครึ่งหนึ่งก่อน เราจึงใช้เวลานานอยู่เหมือนกันกับการหาที่พักที่ถูกใจและไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการจอง เพราะคาดหวังกับทริป 2 วัน 1 คืน บนชิงจิ้ง ฟาร์มมากก อยากไปแล้วได้ความทรงจำดีๆ กลับมา จนสุดท้ายก็มาลงเอยที่ “The Cotswold Villa” เพราะสามารถจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตได้ ซึ่งสิ่งที่ค่อนข้างวัดใจคือที่นี่ยังไม่เคยมีใครรีวิวเอาไว้เลย ฉะนั้นเราขอเอารีวิว The Cotswold Villa มาฝากไว้เผื่อใครที่กำลังมองหาที่พักบนชิงจิ้ง ฟาร์มอยู่นะ : )

ก่อนอื่นขอบอกข้อด้อยของ The Cotswold Villa ก่อน เพราะข้อด้อยของที่นี่กลับกลายเป็นข้อดีเมื่อได้ไปสัมผัสมาจริงๆ เนื่องจากทำเลที่ตั้งที่ค่อนข้างอยู่ห่างไกลกว่าชาวบ้าน แน่นอนว่าไม่ได้ตั้งอยู่ในโซนที่พักยอดฮิตใกล้ๆ โรงแรม Old England แต่อยู่เลยจากฟาร์มแกะ Green Green Grasslands ไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ฉะนั้นจึงกลายมาเป็นข้อดีว่าจากที่พักเราสามารถเดินไปถึงฟาร์มแกะได้โดยที่ไม่ต้องนั่งรถบัสหรือโบกแท็กซี่เลย

อีกหนึ่งข้อดีที่ทำให้รู้สึกว่าเลือกถูกก็คือด้วยความที่ตั้งอยู่สูงกว่าชาวบ้าน ทำให้เรามีโอกาสได้เห็นวิวดีกว่า เนื่องจากช่วงที่เราไปเป็นช่วงเปลี่ยนฤดู อากาศค่อนข้างแปรปรวนมาก มีทั้งละอองฝนและหมอก ตรงโซนโรงแรม Old England ที่อยู่ต่ำกว่าจึงถูกหมอกกลืนไปจนแทบจะกลายเป็นหนังเรื่อง The Mist ส่วนจากที่พักของเรากลับได้เห็นวิวทะเลหมอกกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาแทน ก็เลยตระหนักได้ทันทีว่า “ยิ่งสูง ยิ่งหนาว แต่ยิ่งสวย!”



นอกจากบรรยากาศภายนอกจะดี ทำเลเด่นแล้ว บรรยากาศภายในห้องพักก็ชวนฟินไม่แพ้กัน ด้วยความที่ชิงจิ้ง ฟาร์ม ได้รับฉายาว่า “สวิตเซอร์แลนด์แดนไต้หวัน” ทำให้ที่พักที่นี่ส่วนใหญ่มีสไตล์การออกแบบแนวยุโรป — The Cotswold Villa ก็เช่นกัน ให้ฟีลความเป็นยุโรปตั้งแต่ภายนอกยันภายในเลยทีเดียว

มีเจ้าตูบสองตัว คอยต้อนรับ และเทคแคร์แขกด้วยยย

ห้องพักที่เราจองเป็น Type แบบราคาถูกที่สุด ราคา ณ ตอนที่จองคือ 3,400 NT$ พร้อมอาหารเช้า

ภายในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้พร้อมสรรพ ยกเว้นแอร์และฮีตเตอร์ ซึ่งโรงแรมส่วนใหญ่ที่ชิงจิ้ง ฟาร์ม จะไม่มีแอร์อยู่แล้ว เพราะอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี แล้วโรงแรมแทบทุกโรงแรมในไต้หวันก็จะไม่มีฮีตเตอร์ เพราะฤดูหนาวบ้านเขาไม่ได้หนาวเย็นถึงขั้นติดลบอะไร แต่ที่ The Cotswold Villa มีผ้าห่มไฟฟ้านะ ซึ่งสามารถช่วยได้มากทีเดียว เพราะตอนกลางคืนหนาวมากกกก คืนที่เราไปเป็นคืนแรกที่บนภูเขา Hehuanshan หิมะตก เสียดายสุดๆ ที่ไม่ได้วางแผนขึ้นไป แต่ปักหมุดไว้แล้วว่าคราวหน้าต้องไปไฮกิ้งที่ Hehuanshan ให้จงได้!
ปล. Hehuanshan คือ ภูเขาที่สูงที่สุดของประเทศไต้หวัน เป็นสถานที่เดียวที่มีหิมะตกในช่วงฤดูหนาว ประมาณเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ ส่วนใหญ่คนที่มาเที่ยวชิงจิ้ง ฟาร์ม แบบค้างคืน จะนิยมซื้อทัวร์ขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้น แต่ต้องออกจากชิงจิ้งตั้งแต่ประมาณตี 3-4 หรือจะซื้อ Half Day Tour ขึ้นไปไฮกิ้งหรือเดินเล่นในช่วงเช้าก็ได้ ทัวร์จะออกจากชิงจิ้งประมาณ 7-8 โมง แล้วกลับมาถึงชิงจิ้งประมาณเที่ยง สามารถติดต่อสอบถามเรื่องทัวร์จากที่พักได้เลย

ไฮไลท์ของห้องพักที่เราประทับใจมากคือ มุมมุ้งมิ้งริมหน้าต่าง แม้ห้องที่นี่จะไม่มีระเบียง แต่จะมีหน้าต่างกระจกแบบเปิดโล่งเอาไว้ให้นั่งชมวิวดูหมอกแทน ซึ่งเจ้าของที่พักบอกว่า เช้าวันไหนที่อากาศดีๆ จะสามารถชมพระอาทิตย์จากห้องพักได้เลย แต่เสียดาย เช้าที่เราพัก อากาศค่อนข้างแปรปรวน มีหมอกสลับละอองฝนตั้งแต่เช้ามืด ก็เลยอดเห็นพระอาทิตย์ขึ้นจากห้องพักไปโดยปริยาย
แต่ไม่เป็นไร .. เพราะวิวที่ได้มานั้นสามารถทดแทนกันได้แบบคุ้มค่า เป็นวิวทะเลหมอกสุดลูกหูลูกตา ชนิดที่ว่าไม่คิดเลยว่าจะได้สัมผัสโมเมนต์แบบนี้ที่ประเทศไต้หวัน

วิวที่เห็นจากหน้าต่างห้องพัก รู้สึกเหมือนอยู่บนสวรรค์เลย : )

สุดท้ายแล้ว .. อีกหนึ่งข้อดีของที่นี่ก็คือ เจ้าของที่พักสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ แล้วก็เป็นคนไนซ์มาก แนะนำทุกอย่างเกี่ยวกับชิงจิ้ง ฟาร์ม ไม่ว่าจะเป็นที่เที่ยว ที่กิน แม้กระทั่งรถรา รวมไปถึงเอื้อนเอ่ยชมประเทศไทยไม่หยุด บอกว่าเคยมาเที่ยวสมุยครั้งหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะร้อนก็แต่ก็ชอบมาก
ก็คงเหมือนเรานะ ที่รู้สึกว่าที่นี่สวยมาก ถึงแม้ว่าจะหนาวกายแต่ก็ทำให้อบอุ่นหัวใจเหลือเกิน : )

วิธีการเดินทางสู่ The Cotswold Villa
ก่อนมาชิงจิ้ง ฟาร์ม เราแวะไปนอนที่ Sun Moon Lake ก่อนหนึ่งคืน แล้วเดินทางมาถึงโรงแรมด้วย Shuttle Bus ของ KKDay จองผ่านเว็บไซต์ KKDay.com เพราะอยากยิงยาวไปที่ชิงจิ้ง ฟาร์มเลย เนื่องจากถ้านั่งรถบัสจะต้องไปเปลี่ยนรถที่ Puli ก่อน แต่ Shuttle Bus ของ KKDay สามารถบอกชื่อโรงแรมให้คนขับรถไปส่งหน้าที่พักได้เลย แต่ราคาก็จะสูงกว่านั่งรถบัสมากพอตัว ฉะนั้นถ้าใครสะดวกมาด้วยรถบัสจากสถานี Taichung ให้กดลงที่ป้ายถัดจาก Green Green Grasslands หนึ่งป้าย วิธีสังเกตคือ พอถึงฟาร์มแกะ Green Green Grasslands ก็เตรียมลงได้เลย ป้ายรถเมล์ตรงนั้นจะมีปั๊มน้ำมัน และร้านอาหารอยู่ ที่พักจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ Green Green Grasslands ส่วนตอนขากลับ สามารถเดินออกมาโบกรถที่ป้ายรถเมล์เดิม ซึ่งตั้งอยู่หน้าปั๊มน้ำมันได้เลย สะดวกสุดๆ ไม่ต้องหอบกระเป๋าไกล ^^