แชร์วิธีการขึ้นรถไฟญี่ปุ่นแบบเข้าใจง่าย Step by Step

แชร์วิธีการขึ้นรถไฟญี่ปุ่นแบบเข้าใจง่าย Step by Step

Taking the train in Japan

- August, 2019 -

มีใครยังปวดหัวกับเรื่องการเดินทางในญี่ปุ่นอยู่หรือเปล่าคะ?

ไม่ว่าจะเป็นการไปญี่ปุ่นครั้งแรก หรือแม้กระทั่งคนที่ไปมาหลายครั้งอย่างเราเอง บางทีก็ยังงงๆ อ๊องๆ หรือแม้แต่คนญี่ปุ่น บางทีขึ้นถูกขึ้นผิดก็มี ตอนเราไปยืนรอรถไฟ มีคนญี่ปุ่นมาถามว่าขบวนนี้ไปไหนก็หลายครั้ง เพราะรถไฟเนี่ยถือว่าเป็นระบบคมนาคมหลักของแดนปลาดิบเลย แถมยังมีรถไฟหลายแบบ หลายบริษัทอีกต่างหาก อ้ะ .. แล้วรถไฟญี่ปุ่นมีกี่แบบกันแน่? มีวิธีการขึ้นยังไง? .. มะ! โพสต์นี้เราจะมาแชร์วิธีการขึ้นรถไฟญี่ปุ่นแบบเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ให้รู้กันไปเลยว่าการเดินทางในญี่ปุ่นนั้นยากกว่าปลอกกล้วยแค่นีสเดียววว : )

ก่อนจะว่ากันถึงเรื่องวิธีการขึ้นรถไฟ ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ‘รถไฟญี่ปุ่นมีอยู่กี่แบบกันแน่ และแต่ละแบบนั้นแตกต่างกันยังไง?’ โดยรถไฟในญี่ปุ่นหลักๆ จะแบ่งออกเป็น 4 แบบค่ะ ซึ่งแต่ละแบบก็จะแตกแยกย่อยลงไปอีก และจะมีชื่อเรียกตามบริษัทที่ควบคุมดูแล เช่น JR ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ยักษ์ของรถไฟญี่ปุ่น เป็นต้น

1.รถไฟ (มีรางอยู่บนพื้นถนน)
ส่วนใหญ่ใช้สำหรับเดินทางออกนอกเมือง (เหมือนรถไฟไทยนั่นแล) แต่บางเมืองก็ใช้เดินทางภายในพื้นที่ได้ โดยเฉพาะเมืองใหญ่ๆ เช่น โตเกียว เป็นต้น

2.รถไฟใต้ดิน
ใช้เดินทางภายในตัวเมืองหรือจังหวัด ไม่ได้มีให้บริการในทุกจังหวัดนะคะ ส่วนใหญ่จะมีในจังหวัดที่ค่อนข้างใหญ่ และมีความเจริญมากแล้ว เช่น ฟุกุโอกะ เกียวโต โอซาก้า ฯลฯ

** จังหวัดใหญ่ๆ จะมีทั้งรถไฟ และรถไฟใต้ดิน **

3.รถราง
ใช้เดินทางภายในตัวเมืองหรือจังหวัด * ซึ่งมีใช้งานในบางเมืองเท่านั้น * ส่วนใหญ่จะเป็นจังหวัดเล็กๆ ที่คงไว้ซึ่งความคลาสสิก เช่น ฮาโกดาเตะ ฮิโรชิมา เป็นต้น

4.รถไฟความเร็วสูง (Shinkansen)
ใช้สำหรับเดินทางออกนอกเมือง ราคาแพง แต่รวดเร็ว จุดประสงค์ก็เพื่อย่นระยะเวลาการเดินทางนั่นเองค่ะ




หลายคนคงคุ้นหูชื่อ ‘รถไฟ JR’ ซึ่งเป็นบริษัทรถไฟยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นที่มีรถไฟให้บริการครอบคลุมทั้งประเทศเลย แต่ JR ก็ไม่ใช่รถไฟเจ้าเดียวในญี่ปุ่นนะคะ เพราะแต่ละจังหวัดก็จะมีบริษัทเอกชนอื่นๆ ให้บริการในชื่อขบวนที่ต่างไป เช่น Hankyu Railways ที่ให้บริการในเขตภูมิภาคคันไซ เป็นต้น

เอาละ ทีนี้เรามาดูวิธีการขึ้นรถไฟญี่ปุ่นแบบเข้าใจง่าย Step by Step กันเลย

1. เช็ควิธีการเดินทางหรือวางแผนการเดินทางล่วงหน้าจากเว็บไซต์ Hyperdia โดยพิมพ์ต้นทาง – ปลายทาง เว็บจะขึ้นวิธีการเดินทางมาให้เลือกว่าสามารถขึ้นรถไฟสายไหนได้บ้าง ราคาเท่าไร และใช้เวลาในการเดินทางนานแค่ไหน

2.ไปที่สถานีเพื่อซื้อตั๋ว ถ้าเป็นการเดินทางภายในเมือง สามารถใช้ IC Card ต่างๆ เช่น Suica ฯลฯ ผ่านเข้าสถานีได้เลย แต่ถ้าเป็นการเดินทางไปเมืองอื่นๆ ให้ดูจาก Hyperdia ว่าเป็นรถไฟที่ต้องจองที่นั่งไหม ถ้าต้องจองก็ต้องไปซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์ สิ่งที่สำคัญสำหรับการเดินทางด้วยรถไฟคืออย่าลืมดูให้ดีๆ ว่ารถไฟที่จะนั่งเป็นขบวนแบบไหน โดยรถไฟของญี่ปุ่นนั้นจะถูกแยกย่อยออกเป็น 5 แบบตามระดับความเร็ว คือ

  • Local : รถไฟหวานเย็น ช้าสุด เพราะจอดทุกสถานี แต่ราคาถูกที่สุด
  • Rapid : เร็วขึ้นมาอีกนิด เพราะจะไม่แวะจอดบางสถานี
  • Express : รถด่วน เร็วขึ้นมาอีกนีส
  • Limited Express : รถด่วนกว่า จอดน้อยสถานีกว่ารถด่วน Express
  • Super Express : รถโคตรด่วน หรือเราจะรู้จักกันในชื่อ “ชินคันเซ็น” นั่นเองค่ะ




ถ้าใครมี JR Rail Pass หลังจากทำการแลกพาสมาแล้ว สามารถจองตั๋วรถไฟล่วงหน้าได้โดยการพริ้นต์ตารางการเดินทางของรถไฟขบวนที่ต้องการจากเว็บไซต์ Hyperdia ไปยื่นให้เจ้าหน้าที่เพื่อทำการจองที่นั่งได้เลยนะคะ ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงวันเดินทางก่อนแล้วค่อยไปจองน้า เพราะบางขบวนที่นั่งเต็มเร็วมากค่ะ สำหรับการตัดสินใจว่าจะซื้อพาสหรือไม่ซื้อดี เอาไว้ว่างๆ เราจะมาแชร์ประสบการณ์ให้ในอีกโพสต์นึงน้า : )

รถไฟแต่ละขบวนจะมีป้ายระบุประเภทความเร็วอยู่ ลองสังเกตดีๆ ก่อนขึ้นนะคะ เช่น รูปด้านล่างเป็นขบวนแบบ Local รถไฟประเภทนี้จะจอดทุกสถานี ใช้เวลาเดินทางนานที่สุดจ้า

ขบวนนี้เป็นแบบ Limited Exp. อ่อ รถไฟญี่ปุ่นตรงเวลามากนะคะ แนะนำให้มายืนรอที่ชานชาลาก่อนถึงเวลารถออก เราเคยแวะเข้าห้องน้ำแค่แปบเดียว ออกมาจากห้องน้ำได้ยินเสียงรถไฟฉึกฉึก รีบวิ่งไปที่ชานชาลา อ้าว รถไฟไปแล้วจ้าาา ช้าไปแค่ 1 นาทีเอง อารมณ์ตอนนั้นคือเฟว้งฟ้างมาก มีลมพัดผ่านเบาๆ พร้อมเสียงการ้อง หยั่งกะในหนัง 555 เพราะสถานีนั้นเป็นสถานีชนบท คนน้อย รถไฟจอดน้อย สรุปวันนั้นต้องทิ้งแผนไปเลย เพราะกว่าขบวนถัดไปจะมาคือรอ 2-3 ชั่วโมงจ่ะ

3. สอดตั๋วเพื่อเข้าไปขึ้นรถไฟ และมองหาชานชาลา โดยตรงทางเข้าจะมีป้ายขนาดใหญ่เพื่อบอกข้อมูลของรถไฟสายต่างๆ ให้ไล่สายตาหาชื่อขบวนรถไฟของเราโดยดูจากตั๋ว ป้ายก็จะบอกว่าต้องไปรอขึ้นรถไฟที่ชานชาลาไหน (Track) รถไฟมาเวลาเท่าไร (Time) รวมถึงระบุว่ารถไฟแต่ละขบวนมีที่นั่งแบบไม่จอง (Non-Reserved) หรือเปล่า ถ้ามี อยู่ที่โบกี้ (Car No.) ไหนบ้าง

4. เมื่อถึงชานชาลาจะมีป้ายไฟเล็กๆ ให้เช็คโบกี้ (Car No.) ที่เราต้องไปยืนรออีกที ถ้าตั๋วของเราเป็นแบบจองที่นั่ง ในตั๋วจะระบุหมายเลขโบกี้ไว้แล้ว ให้ไปยืนรอได้เลย แต่ถ้าเดินทางด้วยตั๋วแบบไม่จองที่นั่ง ต้องไปนั่งให้ถูกตู้ ไม่งั้นถ้าพนักงานมาตรวจตั๋วอาจจะโดนไล่ให้ลงได้ ฉะนั้นไปยืนรอให้ถูกโบกี้นะ

เห็นไหมว่าบนป้ายจะระบุไว้ตรง Remarks เลยว่าตู้สำหรับตั๋วที่ไม่จองที่นั่ง (Non-Reserved) อยู่ที่โบกี้ไหนบ้าง หรือบางขบวนที่ต้องจองตั๋วอย่างเดียวก็จะระบุไว้เลยว่า Reserved Seats Only

รถไฟชินคันเซ็นบางสถานีจะมีป้ายบอกโบกี้แบบนี้เลย 

บางสถานีก็จะไฮเทคน้อยลงมาหน่อย

หลายคนที่เพิ่งไปญี่ปุ่นครั้งแรกจะกังวลเรื่องการเดินทาง กลัวหลง กลัวขึ้นรถไฟผิด เราอยากบอกว่าจริงๆ แล้วมันไม่ได้ยากขนาดนั้น แค่เราต้องรู้จักสังเกตป้ายดีๆ ตั้งสติก่อนสตาร์ท ลองได้ขึ้นแค่ 1-2 ครั้ง ต่อๆ ไปก็เป็นเรื่องง่ายแล้ว เพราะถึงแม้รถไฟญี่ปุ่นจะมีอยู่หลายแบบ หลายชื่อ หลายขบวน แต่เอาจริงๆ ก็อิงจากวิธีเดียวกัน เดาได้ ไม่ยากเลย ยิ่งเดี๋ยวนี้มีภาษาอังกฤษกำกับหมดแล้ว บางสถานีมีภาษาไทยด้วย ง่ายกว่าแต่ก่อนเยอะเลยละค่า

วิธีการเดินเข้าชานชาลาคือสอดตั๋วรถไฟแล้วรอรับตั๋วด้วยนะคะ ถ้าเป็นตั๋วแบบไม่จองที่นั่ง ส่วนใหญ่จะระบุแค่ต้นทาง – ปลายทาง ไม่มีหมายเลขที่นั่ง และหมายเลขขบวน

ถ้าเป็นตั๋วแบบจองเหมือนในรูปด้านล่าง จะมีระบุไว้หมดเลยว่าเราต้องไปขึ้นที่โบกี้ไหน (Car : 04) รวมไปถึงหมายเลขที่นั่ง (Seat : 04 D) กรณีที่ไม่แน่ใจชื่อขบวนรถไฟเพราะในตั๋วมีแต่ภาษาญี่ปุ่น ให้ยึดจาก “เวลารถออก” ได้เลยค่ะ เทียบเวลาในตั๋วกับเวลาบนป้ายไฟ เท่านี้ก็จะรู้ข้อมูลของรถไฟขบวนที่เราจะต้องนั่งแล้วละค่า

พอเดินมาถึงโบกี้แล้วไม่แน่ใจว่าถูกไหม ลองก้มดูบนพื้นนะ จะมีป้ายบอกหมายเลขโบกี้ (Car No.) และชื่อขบวนรถที่จะจอดระบุไว้ตรงประตูทางเข้ารถไฟเลย

โบกี้สำหรับผู้หญิง Women Only ก็มี ตู้นี้ผู้ชายห้ามขึ้นนะจ๊ะ

5. ต่อแถวรอขึ้นรถไฟ ปกติก่อนจอดสถานีต่างๆ จะมีประกาศบนรถ ฉะนั้นอย่าลืมฟังเด้อ นั่งเพลินเลยสถานีจะเสียเวลาและอ๊องมากจ้า ~

** สำหรับรถไฟชินคันเซ็นก็จะมีวิธีการขึ้นคล้ายๆ กับรถไฟทั่วไปเลย เพียงแต่จะมีชานชาลาสำหรับชินคันเซ็นโดยเฉพาะ ราคาของชินคันเซ็น ปกติจะแพงกว่ารถไฟอยู่แล้ว แต่ชินคันเซ็นก็จะมีตู้แบบไม่จองที่นั่งเหมือนกันค่ะ ถ้าเป็นที่นั่งแบบไม่จองราคาจะถูกกว่า แต่ควรหาข้อมูลเรื่องต้นทาง ปลายทางก่อนสักนิดว่าสถานีที่เราจะขึ้นนั้นคนเยอะหรือเปล่า บางขบวนคนเต็มเอียดในตู้แบบไม่จอง อาจต้องยืนยาวเป็นชั่วโมงตลอดการเดินทางเลยก็ได้นาจา **




ปล. สำหรับวิธีการขึ้นรถไฟใต้ดิน และรถราง อาจจะมีวิธีการแตกต่างออกไปนิดหน่อย ซึ่งจะยุ่งยากน้อยกว่า เอาไว้ว่างๆ เราจะมาแชร์วิธีการขึ้นรถไฟใต้ดิน และรถรางของญี่ปุ่นให้นะ ถ้าใครมีคำถามหรือสงสัยอะไรเกี่ยวกับการเดินทางในญี่ปุ่นก็หลังไมค์มาคุยกันได้เสมอจ้า : )

Niichiiz *
Niichiiz *https://movearound-journey.com
IG : https://www.instagram.com/niichiiz13

Related Stories

Discover

วิธีขึ้นรถไฟความเร็วสูงประเทศจีน สำหรับเดินทางข้ามเมือง

หลังจากจีนฟรีวีซ่าให้คนไทยได้เข้าไปเที่ยวประเทศจีนอย่างสะดวกโยธินมากยิ่งขึ้นแล้ว เชื่อว่ามีสายเที่ยวหลายคนที่กำลังเมียงมองประเทศจีนไว้เป็นหนึ่งใน Destination List อาจจะตั้งคำถามว่า เที่ยวจีนด้วยตัวเองยากมั้ย? เราอยากจะย้ำความมั่นใจให้ว่า "เที่ยวจีนด้วยตัวเองไม่ยากอย่างที่คิด" เลยค่ะ โพสนี้เราก็เลยอยากมาแชร์ วิธีขึ้นรถไฟความเร็วสูงประเทศจีน ไว้ให้เป็นข้อมูล สำหรับคนที่มีแพลนอยากไปเที่ยวจีนด้วยตัวเอง อยากจะบอกว่าการเดินทางไปเมืองใกล้เคียงด้วยรถไฟความเร็วสูงนั้นเป็นวิธีที่คนจีนใช้กันเป็นเรื่องปกติมากๆ...

รีวิว ซัวเถา (Shantou) กิน เที่ยว มู รับเฮงปีมังกร 3 วัน...

ยินดีกับนักท่องเที่ยวไทยทุกคนที่กำลังจะมีประเทศฟรีวีซ่าให้เที่ยวเพิ่มอีกหนึ่งประเทศแล้ววว นั่นก็คือ “ประเทศจีน” นั่นเอง โพสนี้ก็เลยจะขอพาไปเปิดม่านเมือง "ซัวเถา" บ้านเกิดของคนไทยเชื้อสายจีนในอดีตที่โล้สำเภาเดินทางแบบเสื่อผืนหมอนใบมาตั้งรกรากในประเทศไทย จะขอพาไป กิน เที่ยว มู ในเมืองซัวเถา และแต้จิ๋ว หนึ่งในที่เที่ยวเมืองจีนที่เหมาะสำหรับคนที่เริ่มต้นเที่ยวเมืองจีนด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกแบบเราที่สุด...

รีวิว Sea Season Pool Villas ที่พักสวยติดทะเลพัทยา

วันหยุดว่างๆ ทีไร เราล่ะชอบพาตัวเองไปพักผ่อนชิลๆ ที่พัทยามากจริงๆ อาจเพราะเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปไม่ไกล ก็ได้นั่งมองทะเลสวยๆ แล้ว โพสนี้ก็เลยอยากมารีวิวที่พักติดทะเลพัทยาที่เพิ่งไปมาแล้วชอบมากอย่าง Sea Season Pool Villas Pattaya...

รีวิว เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) อัพเดทมุมถ่ายรูปชิค

นี่คือการมาเที่ยว “เซี่ยงไฮ้” ประเทศจีน เป็นครั้งแรกในชีวิตของเรา อยากจะบอกว่าเปิดมุมมองมากกก เซี่ยงไฮ้เป็นเมืองไวบ์ดีกว่าที่คิด ไลฟ์สไตล์ของที่นี่ก็ชิลสุดอะไรสุด บ้านเมืองสะอาดสะอ้าน มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เยอะ ที่สำคัญคือเป็นประเทศจีนที่เที่ยวง่ายมากค่ะ มีรถไฟใต้ดินหลายสาย การเดินทางไม่ซับซ้อน คนจีนที่นี่ส่วนใหญ่สื่อสารภาษาอังกฤษง่ายๆ...

แผนเที่ยวฟุกุอิ (Fukui) ดื่มด่ำธรรมชาติ ย่ำรอยประวัติศาสตร์ ในเมืองสุดอันซีนของญี่ปุ่น

แผนเที่ยวฟุกุอิ เล่มนี้ จะพาคุณนั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปสูดกลิ่นอายอดีต ย่ำรอยประวัติศาสตร์ที่น่าค้นหาของแดนปลาดิบ พร้อมดื่มด่ำกับธรรมชาติให้ฉ่ำปอด ในจังหวัดสุดอันซีนที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทรงเสน่ห์อย่าง ‘ฟุกุอิ’ ฟุกุอิ เป็นจังหวัดที่มีเสน่ห์หลายหลากซุกซ่อนไว้อย่างคาดไม่ถึง ที่นี่เป็นที่ตั้งของศูนย์กลางการวิจัยฟอสซิลไดโนเสาร์ ซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง ‘Fukui Prefectural Dinosaur Museum’...

รีวิว ZHotel The Somekh Building โรงแรมสวยใน “เซี่ยงไฮ้”

ใครที่กำลังแพลนไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้ แล้วอยากหาที่พักสวยๆ ได้ไวบ์ยุโรป มาที่นี่เลยค่ะ ZHotel The Somekh Building มีมุมระเบียงที่ถ่ายรูปสวยมองเห็น "หอไข่มุก" ที่เป็นแลนด์มาร์คด้วย ที่นี่ตั้งอยู่ภายในย่าน The Bund...

Popular Categories

Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่