
กลับมา เที่ยวฮ่องกง อีกครั้ง หลังจากผ่านไป 7 ปี ทริปนี้ตื่นเต้นเหมือนตอนมาฮ่องกงครั้งแรกไม่มีผิด เพราะฮ่องกงเวอร์ชั่นหลังกลับมาเปิดประเทศอีกครั้งมีอะไรให้อัปเดตเยอะแยะมากมาย ของกินก็ยังละลานตา ทั้งยังคงตำแหน่งประเทศเที่ยวง่าย เดินทางสะดวกเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีจุดถ่ายรูปชิคๆ ให้มาตามรอยเพียบ! ส่วนจะมีอะไรเปลี่ยนไปบ้างนั้น มาอัปเดตไปพร้อมๆ กันในโพสนี้เลยนะ : )


สำหรับมาตรการเข้าฮ่องกงล่าสุด จากประสบการณ์ส่วนตัว คือไม่ตรวจอะไรแล้วค่ะ ตม. ถามแค่สองคำถามคือ มากับใคร และมากี่วัน แต่เราก็เตรียมพวกเอกสารหลักฐานการฉีดวัคซีน ใบจองที่พัก และแผนเที่ยวคร่าวๆ ไปเผื่อด้วย ถ้าใครกังวล แนะนำเตรียมเอกสารพวกนี้ไปด้วยก็ดีค่ะ เผื่อ ตม. ถามหรือขอดู จะได้มีทุกอย่างพร้อม ไม่ต้องกังวลอะไรค่า

รีวิว ‘เที่ยวฮ่องกง’ เวอร์ชั่นวิดีโอ
การเดินทางในฮ่องกง (Hong Kong)
สำหรับการเดินทางในฮ่องกง ส่วนใหญ่เรานั่งรถไฟใต้ดินสลับกับรถบัส (สองชั้น) โดดขึ้นแท็กซี่บ้างแต่น้อยค่ะ น่าจะครั้งเดียว เพราะค่าแท็กซี่เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ใครไปฮ่องกงก็แนะนำให้ซื้อบัตร Octopus เป็นเหมือนบัตรเติมเงินสำหรับใช้ขึ้นรถสาธารณะ รวมถึงซื้อของในมินิมาร์ทก็ได้เช่นกัน บัตร Octopus ราคา 150 HKD สามารถใช้ได้ 100 HKD เป็นค่ามัดจำ 50 HKD ถ้าเงินหมด สามารถเติมเงินได้นะคะ จะเติมเองตามสถานีรถไฟใต้ดินหรือเติมที่ 7-11 ก็ได้ สะดวกมากๆ ค่า

รีวิว ‘เที่ยวฮ่องกง’ ยังมีอีกนะ
Choi Hung Estate

เตรียมตัวพร้อมแล้ว ก็ไปเริ่มที่แรกกันเลยดีกว่า! ทริปนี้ตั้งใจมาตามหามุมถ่ายรูปยอดฮิตในไอจีโดยเฉพาะ แน่นอนว่ามุมแรกที่ห้ามพลาดก็น่าจะเป็นที่นี่ล่ะนะ สนามบาสที่ “Choi Hung Estate” นั่นเอง ใครที่เล่นไอจี ไถดูโลเคชั่นฮ่องกง ยังไง๊ยังไงก็ต้องคุ้นตาสนามบาสสีสีนสดใสแห่งนี้กันบ้างล่ะ โดย Choi Hung Estate นั้นเป็นสนามบาสสาธารณะที่มีคนมาออกกำลังกายจริง แต่โด่งดังขึ้นเพราะไปปรากฎอยู่ในมิวสิควิดีโอหลายเพลง รวมถึงเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ทั้งหลายที่พากันแวะมาถ่ายรูปเช็คอินที่นี่เนี่ยล่ะค่า

Choi Hung Estate ตั้งอยู่บนลานจอดรถ สามารถนั่งรถไฟใต้ดิน MTR ลงสถานี Choi Hung ทางออก C4 แล้วเดินอีกนิดเดียว สนามบาสจะอยู่บนลานจอดรถ ต้องเดินขึ้นบันไดไป แต่หาไม่ยาก เพราะมีคนมาถ่ายรูปกันไม่ขาดสาย แนะนำให้ไปช่วงเช้าหรือก่อนบ่าย คนจะน้อยกว่าค่า


Lok Wah South Estate

พาไปต่อกันที่อีกมุมถ่ายรูปในไอจียอดฮิตไม่แพ้สนามบาส ที่นี่คือ “Lok Wah South Estate” นั่นเองค่า ตั้งอยู่ชั้นบนสุดของลานจอดรถเหมือนสนามบาส Choi Hung Estate เลยค่ะ สถานที่จริงอาจจะดูเล็กๆ เหมือนไม่มีอะไรเท่าไร แต่เอาเข้าจริง ก็เป็นมุมที่ถ่ายรูปสนุกอยู่เหมือนกันนะ เพราะกำแพงสีฟ้าที่มีวงกลมตรงกลางซ้อนกันนี่ละ ที่ทำให้สามารถครีเอทท่าโพสได้หลายแอ็คเลย


การเดินทางมา Lok Wah South Estate แนะนำให้นั่งรถบัสสาย 28 สามารถขึ้นได้จากป้าย Star Ferry Tsim Sha Tsui ซึ่งเป็นต้นสายมาลงที่ป้าย Lok Wah South Estate Car Park ไกลนิดนึงนะคะ แต่ถ้าเป็นสายถ่ายรูปลงไอจี ยังไงก็ห้ามพลาดเด้อ
Yue Po Chai Antique Co.

อีกมุมถ่ายรูปไอจียอดฮิตตั้งอยู่ที่แถวๆ ย่าน Central ตรงถนนฮอลลีวูด ตรงข้าม Man Mo Temple เลยค่ะ มุมนี้มีอินสตาแกรมเมอร์มาถ่ายรูปกันเยอะมาก ซึ่งจริงๆ เป็นประตูร้านขายพวกเครื่องปั้นของฮ่องกง แต่ที่ฮิตน่าจะเป็นเพราะประตูทรงกลมสีแดงที่ดูฮ่องก๊งฮ่องกงนี่ล่ะค่า
วิธีการเดินทาง : แนะนำให้นั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานี Sheung Wan ทางออก A2 จะใกล้ที่สุด เดินประมาณ 400 เมตรค่ะ
พิกัด : https://goo.gl/maps/L5R2By7d55pmRjRV9
Sir Cecil’s Ride (Braemar Hill)

ตามรอยมุมถ่ายรูปในไอจีครบที่ต้องการ เราก็ขอเปลี่ยนจากกางเกงยีนส์ขายาวมาใส่ขาสั้นพร้อมจับเสื้อเชิ้ตฮาวายแมทช์คู่หมวกบักเก็ตจาก Mc Jeans แล้วไปเดิน Hiking ขึ้นเขาที่ฮ่องกงเพื่อเปลี่ยนฟีลกันบ้างค่ะ เหตุผลนึงที่ทำให้เรารู้สึกชอบฮ่องกงก็เพราะสัดส่วนของธรรมชาติที่น่าจะเท่าๆ กับตึกสูงระฟ้าที่เรียงรายกันอยู่ในเมืองนี่ล่ะ เป็นประเทศที่คนชอบสีสันของความเป็นเมืองก็เที่ยวได้ แถมยังมีเทรลสวยๆ ให้คนรักธรรมชาติได้มาไฮกิ้งอยู่หลายเทรลเลย

ตอนมาฮ่องกงครั้งแรก เราก็ไปไฮกิ้งเหมือนกันค่ะ ตอนนั้นเดินเส้นทาง Lion Rock และ Dragon’s Back ส่วนทริปนี้จะขอพาไปขึ้น Braemar Hill อีกหนึ่งเทรลยอดฮิตของฮ่องกงที่สามารถมองวิว Cityscape ได้แบบสวยงามมากเลยทีเดียว

การเดินทางมาที่นี่ อาจจะงงๆ นิดนึงนะคะ เพราะมีทางเข้าหลายทาง แต่ไม่ยากเกินเข้าใจค่ะ เริ่มต้นแนะนำให้นั่ง MTR ลง Causeway Bay แล้วต่อ Minibus สาย 25 หรือนั่งแท็กซี่ลงป้าย Braemar Hill Bus Terminus แล้วเดินมาอีกนิดจะเจอทางเข้าหลักอยู่ข้างๆ โรงเรียน จากนั้นเดินมาตามพิกัดด้านล่างนี้ได้เลย จะมาเจอมุมถ่ายรูปลับๆ ที่รู้กันเฉพาะในกลุ่มอินสตาแกรมเมอร์ฮ่องกงค่ะ

มุมนี้เลยค่า เห็นคนฮ่องกงลงไอจีกันไม่ยอมเช็คอินพิกัด แต่เราก็ไปตามหามาจนได้ เขาเรียกกันว่า Sir Cecil’s Ride จากมุมนี้มองเห็นวิวเมืองฮ่องกงได้รอบเลยยย

เราอยู่จนถึงช่วงค่ำที่เมืองเริ่มเปิดไฟ จะได้อีกบรรยากาศนึงเลยค่ะ ตอนกลับอาจจะมืดหน่อยนะ เปิดไฟฉายจากไอโฟนช่วยได้เยอะค่า

รีวิวที่พัก Attitude On Granville

ได้รูปมุมที่ตั้งใจอยากมาถ่ายสมใจแล้วก็กลับที่พักกัน ทริปนี้เรานอนที่ “Attitude On Granville” ตั้งอยู่ในย่านจิมซาจุ่ยเลยค่ะ รายล้อมไปด้วยแหล่งช็อปปิ้งและของกิน แถมยังเดินทางไป – กลับจากสนามบินสะดวกด้วย สามารถนั่งรถบัส A21 ลงป้าย Kimberley Road, Nathan Road ได้เลย ล็อบบี้จะอยู่ชั้น 5 นะคะ กดลิฟต์ขึ้นมาแล้วไปเช็คอินกันเลย

เราพักห้อง Urban Double ขนาดห้องอาจจะเล็กหน่อย ตามสไตล์ที่พักฮ่องกง แต่ถ้าคนเคยไปญี่ปุ่นบ่อยๆ ก็จะชินค่ะ เท่านี้ก็คือโอเคแล้ว มีห้องน้ำในตัว แอร์เย็นฉ่ำ ถ้าอยากได้ห้องใหญ่ขึ้นอีกก็มีไทป์อื่นให้จองนะคะ ส่วนห้องนี้เราจองได้ในราคาประมาณ 3,4xx บาท/คืน ถือว่าราคาโอเคเมื่อเทียบกับทำเลที่อยู่ใจกลางย่านจิมซาจุ่ยแบบนี้ค่า
สนใจจองที่พัก Attitude On Granville สามารถคลิกลิงค์ด้านล่างได้เลยนะคะ


Hon Fat Noodle (Sham Shui Po)

มาถึงฮ่องกงทั้งที ห้ามพลาดอาหารเช้าสไตล์ฮ่องกงเลยนะ ป่ะ! เดี๋ยวจะพาไปกินบะหมี่ร้านดังของฮ่องกงที่ “Hon Fat Noodle” กันค่ะ รู้สึกว่าจะมีหลายสาขาอยู่นะ แต่เรามาที่สาขา Sham Shui Po มาเช้าหน่อย คนยังไม่เยอะเท่าไร แต่ถ้ามาช่วงเที่ยงเป็นต้นไป เห็นในรูป คนต่อแถวกันยาว ถึงกับต้องมีเครื่องกดคิวหน้าร้านเลยล่ะค่ะ ส่วนวิธีการเดินทางก็สามารถนั่งรถไฟใต้ดินลงสถานี Sham Shui Po ทางออก A2 แล้วเดินอีกประมาณ 500 เมตรค่า

เมนูเด็ดของร้าน แน่นอนว่าคือบะหมี่ มีให้เลือกหลายแบบค่ะ เพิ่มเกี๊ยวกุ้งก็ได้ หรือบะหมี่ตับก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ฮิตมากๆ เช่นกัน เส้นบะหมี่เขาเหนียวนุ่มดีจริงๆ

อีกหนึ่งเมนูที่ฮิตมากๆ เช่นกัน เพราะเป็นอาหารเช้าสไตล์ฮ่องกงด้วย นั่นก็คือ โทสต์ นั่นเอง ของร้านนี้เขาจะเอาขนมปังสองแผ่นทาเนยถั่วประกบกัน ชุบไข่ แล้วเอาไปทอด ราดด้วยนมข้น ท็อปมาด้วยเนยอีกชั้น คือแค่ดมก็น้ำหนักขึ้นแล้ว แต่ยอมมม

West Kowloon Art Park

ขอปิดท้ายทริปฮ่องกงกันที่ “West Kowloon Art Park” จุดเช็คอินชิลๆ แบบอัปเดทสุดๆ ของชาวฮ่องกง ช่วงเย็นๆ จะมีคนมากางเต็นท์ นั่งปิคนิคกันเต็มไปหมดเลยค่ะ บริเวณรอบๆ ยังมี Food Truck ขายอาหารด้วย รู้สึกเป็นฮ่องกงในมุมใหม่ๆ ที่เราไม่เคยสัมผัสเมื่อ 7 ปีที่แล้ว กลับมาคราวนี้ ฮ่องมีอะไรให้อัปเดทเยอะขึ้นจริงๆ นะเนี่ย

West Kowloon Art Park ตั้งอยู่ริมน้ำ อยู่ฝั่งเกาลูนตามชื่อเลยค่ะ ปกติเราเห็นคนไปฮ่องกงจะชอบไปถ่ายรูปวิวตึกที่ริมอ่าววิคตอเรียกัน แต่เราเคยไปมาแล้วเลยอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศมาที่เช็คอินใหม่ๆ ของฮ่องกงบ้าง ซึ่งตรงนี้ก็สามารถถ่ายรูปวิวตึกฮ่องกงได้สวยไม่แพ้ริมอ่าววิคตอเรียเลยค่ะ คนฮ่องกงเขานิยมมาดูพระอาทิตย์ตกกัน เสียดาย ช่วงที่เราไปฝุ่นเยอะไปหน่อย เลยมองเห็นตึกได้ไม่ค่อยชัด แต่บรรยากาศดีมากๆ ลมเย็นสบายเลยค่า


ที่นี่ชิลมาก นั่งอยู่จนดึกเลยค่ะ มาถึงฮ่องกงก็ต้องดูแสงไฟเมืองฮ่องกงอ่ะเนาะ ใครยังไม่เคยไปก็อยากแนะนำให้ลองบินไปสัมผัสบรรยากาศแบบนี้สักครั้งจริงๆ ฮ่องกง เป็นประเทศที่เที่ยวง่าย ไม่ต้องลางานนาน แค่ 3 วัน 2 คืน ก็เที่ยวได้แล้วค่ะ สำหรับเราคือเป็นประเทศที่ให้กลับไปเที่ยวอีกสักกี่ครั้งก็ยังอยากกลับไปเสมอค่า
