
ที่เกาะสมุยมันมีอะไร ทำไมตอนนี้ใครๆ ก็ไปเช็คอินที่สมุย!!
ถามหาที่เที่ยวที่ฟีเวอร์ที่สุด ณ ตอนนี้ คงต้องยอมยกให้ “เกาะสมุย” ครองตำแหน่งไปเลยจ้ะแม่ ~ ก็ไม่ว่าจะเลื่อนฟีดใน Facebook หรือ IG เป็นต้องเห็นคนเช็คอินที่เกาะสมุยกันเพียบ แล้วเกาะสมุยมันมีอะไรล่ะ ที่ทำให้เรานั้นต้องอยากไป ... เอาจริงๆ ก็ไม่มีอะไรมากหรอก ก็แค่ช่วงนี้ สมุยมีแต่ความเงียบสงบ ไร้ความวุ่นวาย น้ำทะเลสวย ฟ้าใส มีคาเฟ่ชิคๆ ให้ถ่ายรูป เช็คอิน ยิ่งตอนนี้บินไปเที่ยวต่างประเทศไม่ได้ แต่แค่ไปเกาะสมุยก็ได้ฟีลเหมือนเที่ยวเมืองนอกแล้ว!

แล้วจะคิดอะไรอีกล่ะลูกกก รีบจัดพร็อพหอบบิกินีไปเที่ยวเกาะสมุยกันดีกว่า โพสต์นี้เราจะชวนไปนั่งชิคๆ กันที่คาเฟ่บรรยากาศเก๋ แล้วพาไปยืนเท่ ถ่ายรูปสวยๆ กันที่มุมลับๆ ในเกาะสมุย อ้อ แอบบอกไว้ก่อนว่าทริปนี้ไม่ได้ไปเกาะหมูน้า เผื่อใครอยากได้ไอเดียเที่ยวสมุยแบบไม่ข้ามไปเที่ยวเกาะอื่น เชิญมาปักหมุดกันได้ตามใจเลยจ้า : )
การเดินทางมาเกาะสมุย
อันที่จริงการเดินทางไปเกาะสมุยนั้นสามารถบินตรงไปลงที่เกาะได้เลย แต่ค่าตั๋วเครื่องบินแพงมากจ้าแม่ เราก็เลยนั่งเครื่องมาลงที่สนามบินสุราษฎร์แล้วเช่ารถขับไปแทนค่ะ ถ้าใครไม่เช่ารถขับก็สามารถซื้อตั๋วรถบัสพร้อมตั๋วเรือที่สนามบินเลยก็ได้ แต่เราจองเรือผ่านเว็บไซต์ Seatran Ferry ไปก่อนแล้ว เพราะไม่อยากเสี่ยงไปรอนาน ช่วงนี้คนไม่เยอะก็จริงค่ะ แต่จองไปก่อนสบายใจกว่าจ้า

ราคาค่าเรือเฟอร์รี่ข้ามไปเกาะสมุย สำหรับรถยนต์ 4 ล้อ (นับรวมคนขับ 1 คน) 400 บาท + ผู้โดยสาร 120 บาท/คน เท่ากับค่าเดินทางข้ามเกาะจะอยู่ที่ 520 บาท/เที่ยว (เราไปกันสองคน) ใช้เวลาเดินทางไปเกาะประมาณชั่วโมงกว่าๆ ค่ะ เรือลำใหญ่ มีที่นั่งเยอะ แบ่งโซนเอาท์ดอร์ และห้องแอร์ มีมินิมาร์ทขายของด้วย ขาไปคนไม่เยอะ แต่ขากลับคนค่อนข้างเยอะค่า

ที่พักบนเกาะสมุย
ทริปนี้เราพักที่ SALA Samui Chaweng Beach เป็นรีสอร์ทที่สวยปังทุกมุมมอง! คือพอเข้ามาพักแล้วแทบไม่อยากจะออกไปไหนเลย ยิ่งห้องที่เราจองเป็น Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวด้วย แฮปปี้ดี๊ด๊ามาก ทั้งว่ายน้ำ ทั้งอ่านหนังสือริมสระแบบไม่กลัวดำ เพราะกักตัวอยู่บ้านมานาน เจอแดดแบบนี้ไม่วิ่งหนีหรอก ร้อนแค่ไหนพี่สู้ตายเลยจ้า

แต่ถึงจะสู้ตายกับแดดแค่ไหน ก็อย่าเผลอทำร้ายผิวนะคะ ถ้าใครอยากอาบแดดหรือมีกิจกรรมที่ต้องออกไปเจอแดดนานๆ แนะนำให้ทาน้ำมันมะพร้าวก่อน จะช่วยบำรุงผิวหลังจากถูกแดดเผาให้กลับมาชุ่มชื่นได้ เพราะในน้ำมันมะพร้าวมีวิตามินอี ช่วยคงความชุ่มชื่นให้ผิวได้ แถมยังช่วยปกป้องเซลล์ผิวให้แข็งแรงด้วย เรียกว่าเป็นไอเท็มที่ควรพกติดตัวไปทะเลด้วยเลยละ
แอบแนะนำ Virgin Coconut Certified Organic Oil ของ Bath&Bloom เพราะเป็นน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ที่ผ่านการรับรองจาก USDA ประเทศสหรัฐอเมริกา ขวดนี้ 170 ML. แต่ใช้ได้นานมาก พกไปใช้ได้หลายทริปเลย

Virgin Coconut Certified Organic Oil ตัวนี้ นอกจากจะช่วยบำรุงผิวหลังโดนแสงแดดให้กลับมาชุ่มชื่นแข็งแรงแล้ว ยังสามารถนำมาใช้เช็ดเครื่องสำอางและมาสคาร่าหรือใช้ชะโลมเส้นผมเพื่อเพิ่มความเงางามได้อีกด้วยน้า หรือบางทีเราก็เอามานวดผ่อนคลายในวันที่อยากพักผ่อนแบบสบายๆ ใช้นวดบริเวณผิวตามข้อ เช่น หัวเข่า ตาตุ่มไปจนถึงส้นเท้า และข้อศอกเป็นประจำ ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ทั้งยังช่วยแก้ปัญหาความหมองคล้ำและหยาบกร้านได้เป็นอย่างดีเลยละค่า
สามารถหาซื้อได้ที่ Shop Bath&Bloom ทุกสาขาตามนี้เลยจ้า > Click <

หาดบางปอ : นี่สมุยหรือโบลิเวีย!?
ช่วงนี้ที่สมุยน้ำลงตอนเช้าค่ะ ใครไปสมุยช่วงนี้ก็ขอแนะนำให้ขับรถหรือแว้นมอเตอร์ไซค์ไปที่ “หาดบางปอ” ตั้งอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือหน้าทอน ตอนช่วงประมาณ 10-11 โมง น้ำทะเลแถวนั้นสวยใส แอบได้ฟีลคล้ายๆ ทะเลเกลือที่โบลิเวียเลย เพราะน้ำลงจนลงไปเดินเล่นกลางทะเลได้ ยิ่งมีแสงแดดส่องกระทบน้ำทำให้เกิดเงาสะท้อนทั้งตัวเราและก้อนเมฆ สวยมากกก ทนร้อนสักนิด ไปแอ๊คท่าสวยๆ รับรองได้รูปแจ๋วๆ มาอัพโซเชียลจ้า



หาดหน้าทอน : ซากเรือเก่ากลางทะเล
ท่าเรือของเกาะสมุยจะตั้งอยู่ตรงหาดหน้าทอนค่ะ ฉะนั้นปราการด่านแรกของสมุยก็คือ “หาดหน้าทอน” นี่แหละ หลายคนอาจจะคิดว่าตรงท่าเรือมันจะไปสวยอะไร อยากจะบอกว่าหาดหน้าทอนนี่คือจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดจุดหนึ่งบนเกาะสมุยเลยน้า แถมตรงนั้นยังมีกิมมิคเล็กๆ อย่าง “ซากเรือเก่า” ที่ตั้งอยู่กลางทะเลด้วย เวลาน้ำลงจะสามารถเดินไปจนถึงเรือได้เลยค่ะ


ตรงนี้เราเห็นคนมาถ่ายรูปกันเยอะมาก ใครชอบถ่ายรูปเก็บแสงเย็น ปักหมุดลงไว้ในแพลนได้เลย ได้รูปสวยแน่นอน คอนเฟิร์มเลย!



มุมถ่ายรูป : แอ่งน้ำข้างหินตาหินยาย
เขาบอกว่ามาสมุยแล้วไม่มาแลแลนด์มาร์คของเกาะสมุยอย่าง “หินตาหินยาย” อาจโดนหาว่ามาไม่ถึงเกาะสมุยก็เป็นได้ แต่ถ้าใครไม่ใช่สายแลนด์มาร์ค อยากได้รูปมุมแปลกใหม่ที่อาจจะค่อนข้างลับสายตาคนทั่วไป แนะนำให้เดินไปทางซ้ายของหินตาหินยายจะเจอแอ่งน้ำเล็กๆ อยู่ เราว่าถ่ายรูปสวยไปอีกแบบค่ะ ส่วนตัวแอบรู้สึกว่ามันสวยแปลกตาดี แต่ถ้าไปตอนกลางวันก็จะร้อนมากหน่อย แต่เพื่อรูปสวยๆ ศรีทนได้อยู่แล้วล่ะโนะ ^^



Little Green Cafe
คาเฟ่บรรยากาศน่ารักอบอุ่น แถมยังร่มรื่นสมชื่อ “Little Green” คาเฟ่ตั้งอยู่ติดกับท่าเรือซีทรานเฟอร์รี่เลยค่ะ จะแวะมาจิบกาแฟเพิ่มพลังตอนที่มาถึงเกาะสมุยก็ได้ หรือจะแวะไปนั่งเมาท์มอยกันระหว่างรอเรือขากลับก็ได้เช่นกัน ที่นี่ถึงแม้จะเป็นคาเฟ่ขนาดกลางๆ ไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีมุมให้ถ่ายรูปอยู่เยอะทีเดียว



ร้านนี้มีทั้งที่นั่งอินดอร์ และเอาท์ดอร์ค่ะ แต่ถ้ามาตอนกลางวัน อากาศร้อนๆ แบบนี้ เราขอนั่งตากแอร์ข้างในชิลๆ ดีกว่าจ้า


เครื่องดื่มดีงามมากค่ะ เราสั่งกาแฟเฉาก๊วย รสชาติเข้มข้น ได้ความหวานจากเฉาก๊วยมาเติมให้ไม่ขมเกินไป ราคาไม่แพงมาก แนะนำเลยค่า

Summer by Coco Tam’s
เห็นหลายคนไปสมุยจะต้องไปเช็คอินกันที่ Coco Tam’s แต่ถ้าใครอยากได้ความแตกต่าง ลองเดินมาเช็คอินที่ร้านข้างๆ อย่าง “Summer by Coco Tam’s” ก็จะได้ภาพแบบสไตล์บาหลีๆ หน่อย ร้านนี้ตกแต่งสวย บรรยากาศดีค่ะ ระหว่างนั่งรออาหาร มองไปรอบๆ รู้สึกเหมือนอยู่ที่บาหลียังไงยังงั้น



มีที่นั่งริมทะเลด้วย เหมือนที่ Coco Tam’s เลยค่ะ แต่เช่นเดิม ถ้ามาตอนกลางวันก็ขอนั่งหลบแดดอยู่ข้างบนดีกว่า แต่ร้านนี้ไม่มีแอร์นะคะ เน้นให้สูดลมทะเลกันแบบเต็มปอดดดด


เมนูก็มีทั้งคาวหวาน รสชาติอาหารใช้ได้เลย แต่ส่วนตัวแอบรู้สึกว่าราคาค่อนข้างสูงไปหน่อยสำหรับคนไทยค่า

Cocoon Samui
คาเฟ่ลับจับตัวยากที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน ร้านนี้ตั้งอยู่บนเขาเลยค่ะ วิวดีมากกกก เครื่องดื่มราคาหลักร้อยแต่วิวหลักล้านจริงๆ ร้านตั้งอยู่ใกล้สนามบินสมุยเลย ระหว่างนั่งรอเครื่องดื่มก็ดูเครื่องบินเทคออฟ / แลนด์ดิ้งไปพลาง เพลินดีไม่น้อยค่ะ



แอบเดาเอาเองว่าเจ้าของร้านน่าจะเป็นคนต่างชาติ เมนูก็เลยแอบไม่ค่อยหลากหลายค่ะ แต่ร้านวิวดี มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูป ซึ่งวันที่เราไปนั้น … มีเด็กๆ (น่าจะเป็นลูกเจ้าของร้าน) นั่งจองที่นั่งแบบไม่ขยับไปไหนเลย พอน้องลุกไปหาแม่ เราทำท่าจะไปนั่งถ่ายรูป น้องรีบวิ่งเข้ามาจองที่นั่งตรงนั้นต่อทันที 5555 เราก็เลยต้องยอมแพ้เด็ก ได้แต่ถ่ายรูปบรรยากาศมาฝากแทนค่า


จากคาเฟ่จะมองเห็นเกาะมัดหลังด้วย เห็นเขาว่าเวลาน้ำลงจะสามารถเดินเท้าไปถึงได้เลย

จุดชมวิวตลิ่งงาม : ชมอาทิตย์ลับเส้นขอบฟ้า
พิกัดนี้ แอบตามเพจ หลง ทาง – Lost in my way ไป เพราะเห็นในรูปคือพระอาทิตย์ตกสวยมากกกก แต่ดันไม่เจอมุมเดียวกับที่เจ้าของเพจนั้นไปถ่าย เพราะมีจุดที่สามารถไปหยุดชมวิวได้ 2 จุด ซึ่งอาจจะไปยากสักนิดนึงค่ะ เพราะเราขับรถยนต์ไป ต้องเอาไปจอดไว้ที่ตีนเขาแล้วเดินขึ้นไปต่อ ไม่สามารถขับรถขึ้นไปได้ เพราะชันมากกกกกกกก ชันแบบเดินตัวเอียงเลย แต่คนที่มาออกกำลังกายแถวนั้นบอกว่า ถ้าขับมอเตอร์ไซค์มา จะสามารถขับขึ้นไปถึงจุดที่เพจหลง ทาง – Lost in my way ไปได้ แต่เราหลงจ้า เดินขึ้นไปอีกจุดที่อยู่สูงกว่า ก็เลยได้มุมนี้มาแทนค่ะ

ไฮไลท์ของจุดชมวิวตลิ่งงามคือเราจะได้มองพระอาทิตย์ลับเส้นขอบฟ้าจากมุมสูง จากจุดนี้จะสามารถมองเห็นเกาะเชือก เกาะส้ม และเกาะนกเภา อยู่ตรงหน้าด้วย อยากจะบอกว่าเวลาหลงทางหรือไปไม่ถึงจุดหมายที่ตั้งไว้ ไม่ต้องไปเสียใจนะคะ เพราะบางครั้งเราอาจจะค้นพบมุมที่เหมาะกับเรามากกว่าก็ได้ สำหรับการเดินทางนั้นไม่มีอะไรขาดทุน เพราะทุกอย่างจะกลายมาเป็นความทรงจำที่ดีให้เราได้นึกถึงอยู่เสมอค่ะ : )


“Half the fun of travel is the esthetic of lostness.” – Ray Bradbury