พาเที่ยว "Sirince" หมู่บ้านน่ารักกลางหุบเขาในตุรกีที่เคยติดโผ หนึ่งในสถานที่รอดพ้นวันสิ้นโลก!
Selcuk, Turkey
- June, 2018 -
คำเตือน : โพสนี้อาจมีเนื้อหาที่เป็นการเช็คอายุ ; p
วัยรุ่นยุค 90 คงจดจำตำนานอันลือลั่นของ วันที่ 21 เดือน 12 ค.ศ. 2012 ได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นหนึ่งในวันประวัติศาสตร์ที่มีการทำนายกันว่า มันคือวันสิ้นโลก!! ยุคนั้นพวกเรายังต้องต่ออินเทอร์เน็ตด้วยโมเด็มที่กว่าจะต่อติดทีนึง เล่นเอาหลับไปหนึ่งตื่น แถมยังมีเสียงตืดดดดดดังไปเจ็ดบ้าน แปดบ้าน (แอบพ่อเล่นไม่เคยสำเร็จเบย 555) ตอนนั้นจดหมายลูกโซ่ทางอินเทอร์เน็ตฮิตมากกก แถมด้วยอีเมลลวงโลกทั้งหลาย ส่งต่อกันมาเถอะ ส่งมากี่เรื่องๆ ตูก็เชื่อด้วยนะ 555 กลายเป็นเรื่องเมาท์ที่โรงเรียนได้อีกหลายวัน แต่มีอยู่เรื่องนึงที่โด่งดังเวอร์ เพราะเขาลือกันให้แซ่ดว่า โลกของเรากำลังจะถึงกาลอวสาน!!! Oh my goodness! สารภาพมาซะดีๆ ใครที่เกิดทันเรื่องนี้ว่าตอนนั้นตื่นตระหนกตกใจไปกับข่าวนี้หรือเปล่า? (บอกแล้วว่าเช็คอายุ ; p)
โดยคำกล่าวอ้างนั้นมาจากคำทำนายของปฏิทินมายัน ที่ว่ากันว่าโคตรมีความเที่ยงตรง เพราะชาวมายันเนี่ยเซียนเรื่องการทำนายระบบดวงดาวมาก ประกอบกับช่วงนั้นมีเหตุการณ์หลายอย่างที่ถูกนำมาใส่สีตีไข่เพิ่มเติมเพื่อชวนเชื่อ ก็เลยทำให้ผู้คนทั้งโลกค่อนข้างตื่นตัวกับข่าวนี้จนถึงขั้นสรรหาสถานที่ต่างๆ ที่เชื่อว่าสามารถใช้หลบภัยให้รอดพ้นจากภัยพิบัติวันสิ้นโลกในวันที่ 21.12.2012 ได้ ซึ่ง “Sirince” หมู่บ้านเล็กๆ ท่ามกลางหุบเขาใกล้เมืองเซลจุค (Selcuk) ของประเทศตุรกีก็เป็นหนึ่งในนั้นนั่นเอง
แม้ทุกวันนี้ กาลเวลาจะสามารถพิสูจน์ได้แล้วว่าตำนานวันสิ้นโลกไม่เป็นความจริง แต่นั่นกลับกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของความรุ่งเรื่องด้านการท่องเที่ยวของหมู่บ้าน Sirince เพราะจากข่าวลือ ทำให้ผู้คนรู้จักหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาแห่งนี้กันมากขึ้น จน Sirince กลายเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวน่าสนใจในประเทศตุรกีที่นักท่องเที่ยวหลายคนอยากแวะมาเที่ยว ฉะนั้นใครที่วางแผนมาเที่ยวเอฟิซัส (Ephesus) เราแนะนำให้ลองแวะมาเที่ยวที่นี่ด้วยก็ดีนะ เพราะตัวหมู่บ้านตั้งอยู่ห่างจากเมืองเซลจุคไม่ไกล ขับรถแค่ประมาณ 15-20 นาที ก็ถึงแล้ว
นอกจากตำนานวันสิ้นโลก หมู่บ้าน Sirince ยังมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน เพราะเป็นหมู่บ้านออร์โธดอกซ์เก่าแก่ สมัยก่อนนู้นที่มีผู้อพยพกลุ่มแรกมาตั้งรกราก เคยตั้งชื่อหมู่บ้านแห่งนี้ว่า ‘Cirkince’ เป็นภาษาตุรกี มีความหมายว่า ‘น่าเกลียด’ เพราะต้องการที่จะหลบหลีกจากกลุ่มคนไม่ดีที่อาจจะมาทำลายความสงบสุข จนกระทั่งภายหลังถึงได้มีการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ‘Sirince’ ซึ่งมีความหมายตรงกันข้ามกับชื่อเดิมอย่างสิ้นเชิง เพราะหมายความว่า สวยงาม น่ารื่นรมย์ นั่นเอง
เราไปถึงหมู่บ้านช่วงเย็นๆ ขับรถจากที่พักในเซลจุคไปประมาณเกือบ 20 นาที อยากจะบอกว่าระหว่างทางสวยมากเวอร์ เพราะเป็นทางขับเข้าไปในหุบเขา แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าท่ามกลางหุบเขาสูงใหญ่ขนาดนี้มีหมู่บ้านเล็กๆ ที่อบอุ่น น่ารัก ตั้งอยู่ด้วย
ถ้าใครขับรถมา แนะนำให้ขับฝ่าฝูงชนเข้าไปให้ลึกหน่อย จะมีที่จอดรถฟรีอยู่ด้านใน ซึ่งจริงๆ ตรงปากทางเข้าก็มีที่จอดรถนะ ซึ่งเราไม่แน่ใจว่าเสียตังค์หรือเปล่า แต่อ่านมาจากรีวิวอื่น เขาบอกว่าถ้าจอดตรงปากทางจะเดินไกล แต่ที่จอดรถด้านในจะอยู่ข้างๆ มุมถ่ายรูปสุดฮิตที่เขาถ่ายกันเลย ซึ่งก็คือรูปบ้านเรือนที่ตั้งลดหลั่นกันไปตามทิวเขาท่ามกลางธรรมชาติรูปนี้นี่เอง : )
กิจกรรมของการมาเยือนหมู่บ้าน Sirince ก็คือ ช็อปปิ้ง กับ กิน 5555 เพราะสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย ทั้งเสื้อผ้า และของที่ระลึก รวมไปถึงอัดแน่นด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านไอศครีมแบบตุรกีสไตล์ที่มีจุดขายอยู่ที่ความขี้เล่นของพ่อค้า (บางร้านแถมความหล่อของพ่อค้าด้วย แฮร่) โดยเขาจะหยอกล้อกับเราอยู่นาน จนเราเริ่มอุทานว่า “จะได้กินมั้ยวันนี้” เขาถึงจะยอมหยุด 555
โคนนึงราคา 10 ลีรา ไม่รู้ที่อื่นราคาเดียวกันไหม แอบรู้สึกว่าค่อนข้างแพง เพราะตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 70 บาทเชียวนา แต่รสชาติอร่อยใช้ได้เลยนะ เราสั่งรสนม เข้มข้นมากกก เนื้อไอศครีมจะออกเหนียวหนึบ ไม่ร่วนเหมือนไอศครีมบ้านเรา
ร้านอาหารมีอยู่หลายร้านมาก ถูกชะตากับร้านไหนก็ตรงเข้าร้านนั้นได้เลย เพราะส่วนใหญ่เมนูในร้านอาหารตุรกีแทบจะเหมือนๆ กัน คือมีข้าว (อันน้อยนิด) แล้วก็เนื้อสัตว์ให้เลือก พวกเนื้อไก่ เนื้อแกะ แต่ไม่มีหมูเด้อ เพราะคนตุรกีนับถือศาสนาอิสลาม แล้วทุกร้านก็จะต้องเปิดด้วยการเอาขนมปังที่แข็งบ้าง ไม่แข็งบ้าง มาวางไว้เป็นออเดิร์ฟ ซึ่งขนมปังที่เขาเสิร์ฟเนี่ย บางร้านใส่มาในตะกร้าอันใหญ่เวอร์ เยอะแบบกินได้ทั้งหมู่บ้านเลยมั้ยยย ใครลดความอ้วน ลดคาร์บอยู่นี่ต้องใจแข็งอย่างแรง เพราะเวลานั่งรออาหารมันจะไม่มีอะไรทำ พอมือมันว่างก็จะต้องหยิบขนมปังตรงหน้ามากินแกล้มไปพลาง เมาท์ไปพลาง รู้ตัวอีกที กลับมาไทย น้ำหนักขึ้นเลยแจ้ 5555
เราเดินเล่นอยู่ที่หมู่บ้านประมาณ 2-3 ชั่วโมง ซึ่งเอาจริงๆ ยังเดินได้ไม่ทั่วด้วยซ้ำ เพราะไปถึงตอนเย็นมากแล้ว นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยกันกลับ ร้านรวงก็เริ่มเงียบเหงา ฉะนั้นถ้าใครจะไป แนะนำให้เผื่อเวลาไว้สักหน่อยดีกว่า โดยเฉพาะคนที่ชอบช็อปปิ้ง หรือชอบเดินเล่นเรื่อยเปื่อย เพราะ Sirince เป็นหมู่บ้านที่น่ารักมากจริงๆ เหมาะสำหรับการมาเดินทอดน่องสักประมาณครึ่งวัน ลองมาสัมผัสบรรยากาศของสถานที่ที่เขาเคยทำนายว่าเป็นทางรอดของวันสิ้นโลกดูสักหน่อย แล้วลองทายกันเล่นๆ ดูสิว่าทำไม ที่นี่ถึงได้ติดโผ “หนึ่งในสถานที่รอดพ้นวันสิ้นโลก”
เฉลย : ลองใช้เมาท์ลากไฮไลท์ในบรรทัดถัดไป : )
คำตอบ : เหตุผลไม่แน่ชัดนัก แต่เชื่อกันว่า ใกล้ๆ กับหมู่บ้าน มีสถานที่ที่เชื่อว่าพระแม่มารีเคยไปพำนักในช่วงบั้นปลายชีวิต
