แผนเที่ยวเกียวโต เส้นทาง รถไฟสายโรแมนติก ชมใบไม้เปลี่ยนสี

เกียวโต เป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีชื่อเสียงเรื่องใบไม้แดงหรือใบไม้เปลี่ยนสีติดอันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่น ฉะนั้นช่วงเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน จึงนับเป็นไฮซีซั่นของเกียวโต มีทั้งคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกแวะมาชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติ ซึ่งเราเคยแนะนำแผนเที่ยวเกียวโต 1 วันในแถบอาราชิยามะ และวัดทองไปแล้ว คราวนี้ขอพาไปเปลี่ยนฟีล เพิ่มความชิล เติมความหวานเข้าไปอีกเล็กน้อย ด้วยรีวิวการทำแผนเที่ยวย่านอาราชิยามะด้วยการนั่ง รถไฟสายโรแมนติก หรือ Sagano Romantic Train รถไฟสายพิเศษชื่อดังของเกียวโต แนะนำว่าควรวางแผนไปเที่ยวช่วงใบไม้เปลี่ยนสีนะ รับรองว่าทริปนี้จะอบอวลไปด้วยความโรแมนติกมากเลยทีเดียว

รถไฟสายโรแมนติก

ทำความรู้จัก รถไฟสายโรแมนติก (Sagano Romantic Train)

•  Sagano Romantic Train เป็นรถไฟท่องเที่ยวสายพิเศษซึ่งมีเส้นทางแยกออกจากสายรถไฟปกติ
•  มีทั้งหมด 4 สถานี โดยสามารถเริ่มต้นจาก สถานี Kameoka Torokko (Plan 01) หรือ สถานี Saga Torokko (Plan 02) ก็ได้
•  รถไฟใช้เวลาเที่ยวละ 25 นาที แต่ถ้าซื้อตั๋วไป – กลับ จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
•  ราคา ผู้ใหญ่ 620 เยน เด็ก 310 เยน (ต่อเที่ยว)
•  รถไฟมีทั้งหมด 5 ตู้ โดยตู้ที่ 1-4 เป็นตู้นั่งปกติ ต้องมองวิวผ่านกระจก ส่วนตู้ที่ 5 เป็นตู้พิเศษแบบเปิดโล่ง หลังคาเป็นกระจกใส ฉะนั้นจึงสามารถมองวิวได้กว้างกว่าตู้ 1-4
•  ตู้ที่ 1-4 สามารถจองล่วงหน้าผ่านเคาท์เตอร์จองตั๋วของ JR West ได้ (แนะนำว่าถ้าไปช่วงใบไม้เปลี่ยนสีควรจองเป็นอย่างยิ่ง)
•  ตู้ที่ 5 ต้องไปจองที่สถานีในวันเดินทางเท่านั้น
•  ตั๋วมีทั้งตั๋วนั่งและตั๋วยืน ถ้าไปจองหน้างานแล้วช้าก็อาจจะได้ตั๋วยืนซึ่งขาดทุนสุดๆ (โดนมาแล้ว T^T) เพราะต้องอัดแน่นกันและไม่สามารถเห็นวิวได้ชัดเจนเหมือนตั๋วนั่ง
•  เวลาเปิดให้บริการของรถไฟสายโรแมนติกคือ 1 มีนาคม – 29 ธันวาคม ของทุกปี

map sagano romantic train

เริ่มต้นวางแผนเที่ยวเส้นทาง รถไฟสายโรแมนติก

สำหรับการวางแผนนั่งรถไฟสายโรแมนติกนั้น ตามหลักแล้วนักท่องเที่ยวทั่วไปจะนิยมนั่งรถไฟ JR มาลงที่สถานี JR Saga-Arashiyama แล้วเริ่มต้นนั่งรถไฟจากต้นสายที่สถานี Saga Torokko (ดูแผนที่ประกอบจะเข้าใจมากยิ่งขึ้นน้า) ซึ่งสามารถซื้อตั๋วแบบเที่ยวเดียวไปลงที่สถานีปลายทาง (Kameoka Torokko) แล้วนั่งรถไฟกลับโอซาก้าหรือไปเที่ยวต่อยังสถานที่อื่นๆ ในเกียวโตก็ได้ หรือจะซื้อตั๋วแบบไป – กลับ เพื่อย้อนกลับมาเที่ยวต่อในเขตอาราชิยามะก็ได้ แต่เราแอบมีอีกหนึ่งตัวเลือกซึ่งเป็นการเดินทางแบบแหกกฎนิดๆ คือ นั่งรถไฟ JR เลยไปตั้งต้นจากสถานีปลายทาง (Kameoka Torokko) แล้วซื้อตั๋วแค่เที่ยวเดียวย้อนกลับมาเที่ยวต่อในเขตอาราชิยามะ การวางแผนแบบนี้ บางคนบอกว่าจะมีโอกาสเจอคนน้อยกว่า เพราะส่วนใหญ่จะขึ้นที่ต้นทางกันหมด แต่จากประสบการณ์ส่วนตัวที่ไปมาในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี อยากบอกว่า เราเองก็เจอคนต่อแถวซื้อตั๋วเยอะจนได้ตั๋วยืนเหมือนกัน T^T แต่วิธีการเที่ยวด้วยรูทนี้จะช่วยประหยัดเวลา และค่าเดินทางได้มากกว่า เพราะเป็นการนั่งรถไฟแค่เที่ยวเดียว ไม่ต้องซื้อตั๋วไป – กลับ แถมยังได้กลับมาเที่ยวยังเขตอาราชิยามะอีกด้วย ฉะนั้นสรุปง่ายๆ คือ การวางแผนนั่งรถไฟสายโรแมนติกนั้นสามารถเลือกได้ 2 แผน คือ เริ่มต้นที่ปลายทาง สถานี Kameoka Torokko (Plan 1) และเริ่มต้นที่ต้นทาง สถานี Saga Torokko (Plan 2) ทั้งนี้จะเลือกเดินทางด้วยแผนไหน ลองดูรายละเอียดและตัดสินใจจากความต้องการส่วนบุคคลได้เลยนะ : )

แนะนำบัตรโดยสาร รถไฟสายโรแมนติก Sagano Romantic Train แบบเที่ยวเดียว (เดินทางจากซากะหรือคาเมโอกะ) 

รถไฟสายโรแมนติก

เดินทางด้วยรถไฟสายโรแมนติก ที่ใช้เวลาเพียง 25 นาที จากสถานี Saga Torokko ไปยังสถานี Kameoka Torokko ดื่มด่ำกับวิวอันน่าทึ่งตลอดเส้นทาง โดยทั้งสองข้างทางจะมีวิวที่ต่างกันไปตามฤดูกาล เช่น พบกับดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ, ทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มในฤดูร้อน, ใบเมเปิ้ลญี่ปุ่นในฤดูใบไม้ร่วง และหิมะขาวโพลนในฤดูหนาว แต่ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหน ก็จะได้เห็นวิวของแม่น้ำโฮซูกาวะที่งดงามอยู่เสมอ

• สนใจซื้อบัตรโดยสาร รถไฟสายโรแมนติก ซากาโนะแบบเที่ยวเดียว คลิกที่นี่

PLAN 01

Start : Kameoka Torokko Station

Sagano Romantic Train

STEP 1 เดินทางจากโอซาก้า

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟ JR จากสถานี JR Osaka ลงสถานี JR Kyoto เพื่อเปลี่ยนสายรถไฟเป็น JR Sagano Line ลงสถานี JR Umahori
ใช้เวลา : ประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ
ค่าเดินทาง : 1,140 เยน

เมื่อถึงสถานี Umahori เดินออกจากสถานีแล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที เพื่อไปตั้งต้นเริ่มเส้นทางของรถไฟสายโรแมนติกที่สถานี Kameoka Torokko ใครที่ยังไม่ได้จองตั๋วล่วงหน้ามาหรือต้องการนั่งรถไฟตู้พิเศษ (ตู้ที่ 5) เพื่อชมวิวแบบเปิดโล่งสามารถซื้อตั๋วรถไฟได้ที่สถานี แนะนำว่าควรรีบไปแต่เช้าตรู่ โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีเพราะที่นั่งเต็มเร็วมว๊ากกกก! อาจทำให้ได้ตั๋วเที่ยวบ่ายหรือเย็น ไม่ก็จำใจต้องซื้อตั๋วยืนซึ่งโอกาสเห็นวิวน้อยนิดกว่าตั๋วนั่งยิ่งนัก

Sagano Romantic Train
Sagano Romantic Train
Sagano Romantic Train
Sagano Romantic Train

STEP 2 เดินทางจากสถานี Kameoka Torokko

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟ Sagano Romantic Train จากสถานี Kameoka Torokko ลงสถานี Arashiyama Torokko
ใช้เวลา : 25 นาที
ค่าเดินทาง : 620 เยน

การเที่ยวด้วยแผนนี้จะเริ่มต้นจากสถานี Kameoka Torokko ถ้าดูจากแผนที่ (ด้านบน) จะเป็นการนั่งรถไฟ JR เลยสถานี Saga Torokko เพื่อไปเริ่มต้นที่สถานีสุดท้ายปลายทางแล้วนั่งรถไฟสายโรแมนติกย้อนกลับมา ซึ่งส่วนใหญ่คนที่เที่ยวด้วยแผนนี้จะนิยมลงที่สถานี Arashiyama Torokko เพื่อเดินเที่ยวชม “ป่าไผ่ซากาโนะ” ต่อด้วย “วัดเท็นริวจิ” และยังสามารถเดินไปจนถึง “สะพานโทเง็ตสึเคียว” ก่อนจะไปเที่ยวต่อยังสถานที่อื่นๆ ในเกียวโตหรือเดินทางกลับโอซาก้า ซึ่งขึ้นอยู่กับแผนของแต่ละคนเลยน้า ^^

รถไฟสายโรแมนติก
รถไฟจะวิ่งเป็นระยะทาง 7.3 กิโลเมตร เลียบแม่น้ำโฮสุ ฉะนั้นระหว่างทางก็จะได้เห็นวิวแม่โฮสุพร้อมกับใบไม้เปลี่ยนสีเหลืองแดงไปตลอดเส้นทาง : )

มีข่าวมาบอกจ้า เช่ารถขับเที่ยวญี่ปุ่นผ่านเว็บ ToCoo! วันนี้
เพียงใส่ Coupon Code : LMT4Y5 ได้รับส่วนลดทันที 1,000 เยน

เราเช่ารถผ่านเว็บนี้ประจำ สะดวกมากมีรถให้เลือกเยอะมากเลยค่ะ คูปองนี้มีเงื่อนไขนิดนึงคือ
• ต้องมีการจองที่มากกว่า 10,000 เยน • คูปองใช้ได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2023 นี้

เช่ารถที่ญี่ปุ่น ToCoo!

PLAN 02

Start : Saga Torokko Station

Sagano Romantic Train

STEP 1 เดินทางจากโอซาก้า

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟ JR จากสถานี JR Osaka ลงสถานี JR Kyoto เพื่อเปลี่ยนสายรถไฟเป็น JR Sagano Line ลงสถานี JR Saga-Arashiyama
ใช้เวลา : 1 ชั่วโมง
ค่าเดินทาง : 970 เยน

เมื่อถึงสถานี Saga-Arashiyama แล้ว เดินออกจากสถานีจะมีทางเชื่อมต่อไปยังสถานี Saga Torokko ซึ่งเป็นต้นทางของรถไฟสายโรแมนติก ใครยังไม่ได้จองตั๋วก็สามารถซื้อตั๋วได้ที่สถานี Saga Torokko ได้เลยนะ

รถไฟสายโรแมนติก
Sagano Romantic Train

STEP 2 เดินทางจากสถานี Saga Torokko

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟ Sagano Romantic Train จากสถานี Saga Torokko ไปจนถึงสถานี Kameoka Torokko แล้วรอรถไฟวนกลับมาลงสถานี Arashiyama Torokko
ใช้เวลา : 1 ชั่วโมง
ค่าเดินทาง : 1,240 เยน (ไป-กลับ)

การเที่ยวด้วยแผนนี้ ส่วนใหญ่จะซื้อตั๋วแบบไป – กลับ เพื่อนั่งรถไฟสายโรแมนติกไปถึงสถานี Kameoka Torokko และนั่งกลับมายังสถานี Arashiyama Torokko เพื่อเดินเที่ยวชม “ป่าไผ่ซากาโนะ” ต่อด้วย “วัดเท็นริวจิ” และสถานที่อื่นๆ ในอาราชิยามะเช่นเดียวกับ Plan 01 หรือใครที่มีทุนในกระเป๋าสตางค์หนาหน่อยก็อาจจะซื้อตั๋วไปเที่ยวเดียว แล้วกลับทางเรือพายล่องมาตามเส้นทางของแม่โฮสุก็ได้เช่นกันนะ

รถไฟสายโรแมนติก
Sagano Romantic Train

ปล. ถ้าให้แนะนำว่าควรไปแบบแผนไหนดี เราแนะนำว่า Plan 01 จะสามารถประหยัดทั้งค่าเดินทางและเวลาได้มากกว่านะ เพราะในความเป็นจริงแล้วช่วงที่ไปอาจจะเจอคนแน่นจนกลายเป็นรถไฟสายไม่โรแมนติกไปเลยก็ได้ (เหมือนเรา T^T) ฉะนั้นถ้าคิดว่าอยากไปช่วงใบไม้เปลี่ยนสีชัวร์ๆ ก็ควรจองตั๋วล่วงหน้าเพื่อให้ได้ตั๋วนั่ง หรือซื้อตั๋วโดยสารจากเมืองไทยไปเลยก็ได้ >Click< จะสะดวกและสบายใจกว่าไปซื้อที่นู่น และมีโอกาสได้เห็นวิวทิวทัศน์และสัมผัสความโรแมนติกได้มากกว่า แล้วก็นั่งแค่เที่ยวเดียวจากสถานีปลายทางย้อนกลับมาเที่ยวต่อที่ป่าไผ่ซากาโนะ และสถานที่อื่นๆ ในอาราชิยามะก็พอ เท่านี้ก็ประหยัดค่าเดินทาง และเวลาไปได้พอประมาณเลย

Niichiiz *
Niichiiz *https://movearound-journey.com
IG : https://www.instagram.com/niichiiz13

Related Stories

Discover

แผนเที่ยวฟุกุอิ (Fukui) ดื่มด่ำธรรมชาติ ย่ำรอยประวัติศาสตร์ ในเมืองสุดอันซีนของญี่ปุ่น

แผนเที่ยวฟุกุอิ เล่มนี้ จะพาคุณนั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปสูดกลิ่นอายอดีต ย่ำรอยประวัติศาสตร์ที่น่าค้นหาของแดนปลาดิบ พร้อมดื่มด่ำกับธรรมชาติให้ฉ่ำปอด ในจังหวัดสุดอันซีนที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทรงเสน่ห์อย่าง ‘ฟุกุอิ’ ฟุกุอิ เป็นจังหวัดที่มีเสน่ห์หลายหลากซุกซ่อนไว้อย่างคาดไม่ถึง ที่นี่เป็นที่ตั้งของศูนย์กลางการวิจัยฟอสซิลไดโนเสาร์ ซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง ‘Fukui Prefectural Dinosaur Museum’...

รีวิว ZHotel The Somekh Building โรงแรมสวยใน “เซี่ยงไฮ้”

ใครที่กำลังแพลนไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้ แล้วอยากหาที่พักสวยๆ ได้ไวบ์ยุโรป มาที่นี่เลยค่ะ ZHotel The Somekh Building มีมุมระเบียงที่ถ่ายรูปสวยมองเห็น "หอไข่มุก" ที่เป็นแลนด์มาร์คด้วย ที่นี่ตั้งอยู่ภายในย่าน The Bund...

วิธีกรอกใบตม. ขาเข้าประเทศจีน (China Arrival Card)

อ้าแขนเตรียมต้อนรับ 'ประเทศฟรีวีซ่า' น้องใหม่ล่าสุดอย่าง 'ประเทศจีน' ที่กำลังจะเริ่มยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวไทยในวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป ด้วยการรีวิวขั้นตอนการผ่าน ตม. ซึ่งเป็นด่านแรกของการเดินทางท่องเที่ยวเมืองจีนด้วยตัวเอง หลายคนที่เพิ่งเคยไปเมืองจีนครั้งแรก อาจจะยังแอบกังวลว่าพอฟรีวีซ่าแล้วยังไงนะ?...

วิธีสมัคร Alipay และผูกบัตรเพื่อใช้จ่ายในจีน แบบละเอียด

เตรียมตัวไปเที่ยวประเทศจีนด้วยตัวเอง ขานรับ "ฟรีวีซ่า" เดินทางเข้าประเทศจีนแบบอิสระ ไม่ต้องเสียค่าวีซ่าเพิ่มอีกต่อไป! เชื่อว่าหลายคนที่ได้ยินข่าวฟรีวีซ่าจีนคงต้องมองหารีวิวเที่ยวจีนด้วยตัวเองอยู่แน่ๆ อยากจะบอกว่าการเที่ยวจีนด้วยตัวเองนั้นไม่ยากอย่างที่คิดเลยค่ะ เพียงแค่ต้องเตรียมตัวมากกว่าประเทศอื่นเล็กน้อย เพราะประเทศจีนเป็นสังคมไร้เงินสดแทบจะร้อยเปอร์เซ็นแล้ว ฉะนั้นการใช้จ่ายทุกสิ่งอย่างในจีนนั้นสามารถจ่ายผ่าน Alipay ได้ทั้งหมดเลย โพสนี้เราก็เลยอยากมาแนะนำวิธีสมัคร Alipay...

รวม 10 ที่เที่ยวที่พัก ฟุกุอิ (Fukui) เมืองสวยอันซีนของญี่ปุ่น

เอ่ยชื่อ ฟุกุอิ (Fukui) หลายคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูกันเท่าไรใช่ไหมคะ เพราะจังหวัดนี้คนไทยยังไปเที่ยวกันค่อนข้างน้อย แต่ฟุกุอิเนี่ย เป็นหนึ่งในจังหวัดยอดนิยมของคนญี่ปุ่นเลยน้า คนญี่ปุ่นไปเที่ยวกันเยอะมากกก เยอะจนเรายังแอบตกใจ เพราะไม่นึกว่าเมืองรองของญี่ปุ่นจะมีนักท่องเที่ยวเยอะขนาดนี้ แต่ก็ไม่แปลกใจเลย เพราะฟุกุอิเป็นจังหวัดที่มีเสน่ห์และน่าค้นหาแบบสุดๆ สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่ทำเอาเราอึ้งไปเลยว่า โอ้วว...

แผนเที่ยว Ishikawa 3 วัน 2 คืน พร้อมรีวิวที่พัก

เพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่นครั้งล่าสุด โดน “อิชิกาวะ” (Ishikawa) ตกไปแบบเต็มๆ หลงรักจังหวัดนี้เข้าเต็มเปาเลยค่ะ เป็นจังหวัดที่มีที่เที่ยวหลากหลายมาก ทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม พิพิธภัณฑ์ และมุมถ่ายรูปสวยๆ รู้สึกว่ามาแค่จังหวัดเดียวแต่เหมือนได้เที่ยวหลากหลายไวบ์ เลยไม่อยากโดนตกอยู่คนเดียว เดี๋ยวโพสนี้จะพาไปหลงเสน่ห์อิชิกาวะด้วยกันน้าหลายคนอาจจะไม่คุ้นชื่อ...

Popular Categories

Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่