แผนเที่ยว “เกียวโต” ฉบับ นั่งรถไฟสายโรแมนติกชมใบไม้เปลี่ยนสี

เกียวโต เป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีชื่อเสียงเรื่องใบไม้แดงหรือใบไม้เปลี่ยนสีติดอันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่น ฉะนั้นช่วงเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน จึงนับเป็นไฮซีซั่นของเกียวโต มีทั้งคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกแวะมาชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติ ซึ่งเราเคยแนะนำแผนเที่ยวเกียวโต 1 วันในแถบอาราชิยามะ และวัดทองไปแล้ว คราวนี้ขอพาไปเปลี่ยนฟีล เพิ่มความชิล เติมความหวานเข้าไปอีกเล็กน้อย ด้วยการแนะนำไอเดียการทำแผนเที่ยวย่านอาราชิยามะด้วยการนั่ง รถไฟสายโรแมนติก หรือ Sagano Romantic Train รถไฟสายพิเศษชื่อดังของเกียวโต แนะนำว่าควรวางแผนไปเที่ยวช่วงใบไม้เปลี่ยนสีนะ รับรองว่าทริปนี้จะอบอวลไปด้วยความโรแมนติกมากเลยทีเดียว : )

Plan-arashiyama-resize11

ทำความรู้จัก รถไฟสายโรแมนติก (Sagano Romantic Train)

❤️ Sagano Romantic Train เป็นรถไฟท่องเที่ยวสายพิเศษซึ่งมีเส้นทางแยกออกจากสายรถไฟปกติ
❤️ มีทั้งหมด 4 สถานี โดยสามารถเริ่มต้นจาก สถานี Kameoka Torokko (Plan 01) หรือ สถานี Saga Torokko (Plan 02) ก็ได้
❤️ รถไฟใช้เวลาเที่ยวละ 25 นาที แต่ถ้าซื้อตั๋วไป – กลับ จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
❤️ ราคา ผู้ใหญ่ 620 เยน เด็ก 310 เยน (ต่อเที่ยว)
❤️ รถไฟมีทั้งหมด 5 ตู้ โดยตู้ที่ 1-4 เป็นตู้นั่งปกติ ต้องมองวิวผ่านกระจก ส่วนตู้ที่ 5 เป็นตู้พิเศษแบบเปิดโล่ง หลังคาเป็นกระจกใส ฉะนั้นจึงสามารถมองวิวได้กว้างกว่าตู้ 1-4
❤️ ตู้ที่ 1-4 สามารถจองล่วงหน้าผ่านเคาท์เตอร์จองตั๋วของ JR West ได้ (แนะนำว่าถ้าไปช่วงใบไม้เปลี่ยนสีควรจองเป็นอย่างยิ่ง)
❤️ ตู้ที่ 5 ต้องไปจองที่สถานีในวันเดินทางเท่านั้น
❤️ ตั๋วมีทั้งตั๋วนั่งและตั๋วยืน ถ้าไปจองหน้างานแล้วช้าก็อาจจะได้ตั๋วยืนซึ่งขาดทุนสุดๆ (โดนมาแล้ว T^T) เพราะต้องอัดแน่นกันและไม่สามารถเห็นวิวได้ชัดเจนเหมือนตั๋วนั่ง
❤️ เวลาเปิดให้บริการของรถไฟสายโรแมนติกคือ 1 มีนาคม – 29 ธันวาคม ของทุกปี

Plan-arashiyama-resize1

เริ่มต้นวางแผนเที่ยวเส้นทาง รถไฟสายโรแมนติก

สำหรับการวางแผนนั่งรถไฟสายโรแมนติกนั้น ตามหลักแล้วนักท่องเที่ยวทั่วไปจะนิยมนั่งรถไฟ JR มาลงที่สถานี JR Saga-Arashiyama แล้วเริ่มต้นนั่งรถไฟจากต้นสายที่สถานี Saga Torokko (ดูแผนที่ประกอบจะเข้าใจมากยิ่งขึ้นน้า) ซึ่งสามารถซื้อตั๋วแบบเที่ยวเดียวไปลงที่สถานีปลายทาง (Kameoka Torokko) แล้วนั่งรถไฟกลับโอซาก้าหรือไปเที่ยวต่อยังสถานที่อื่นๆ ในเกียวโตก็ได้ หรือจะซื้อตั๋วแบบไป – กลับ เพื่อย้อนกลับมาเที่ยวต่อในเขตอาราชิยามะก็ได้ แต่เราแอบมีอีกหนึ่งตัวเลือกซึ่งเป็นการเดินทางแบบแหกกฎนิดๆ คือ นั่งรถไฟ JR เลยไปตั้งต้นจากสถานีปลายทาง (Kameoka Torokko) แล้วซื้อตั๋วแค่เที่ยวเดียวย้อนกลับมาเที่ยวต่อในเขตอาราชิยามะ การวางแผนแบบนี้ บางคนบอกว่าจะมีโอกาสเจอคนน้อยกว่า เพราะส่วนใหญ่จะขึ้นที่ต้นทางกันหมด แต่จากประสบการณ์ส่วนตัวที่ไปมาในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี อยากบอกว่า เราเองก็เจอคนต่อแถวซื้อตั๋วเยอะจนได้ตั๋วยืนเหมือนกัน T^T แต่วิธีการเที่ยวด้วยรูทนี้จะช่วยประหยัดเวลา และค่าเดินทางได้มากกว่า เพราะเป็นการนั่งรถไฟแค่เที่ยวเดียว ไม่ต้องซื้อตั๋วไป – กลับ แถมยังได้กลับมาเที่ยวยังเขตอาราชิยามะอีกด้วย ฉะนั้นสรุปง่ายๆ คือ การวางแผนนั่งรถไฟสายโรแมนติกนั้นสามารถเลือกได้ 2 แผน คือ เริ่มต้นที่ปลายทาง สถานี Kameoka Torokko (Plan 1) และเริ่มต้นที่ต้นทาง สถานี Saga Torokko (Plan 2) ทั้งนี้จะเลือกเดินทางด้วยแผนไหน ลองดูรายละเอียดและตัดสินใจจากความต้องการส่วนบุคคลได้เลยนะ : )

PLAN 01

Start : Kameoka Torokko Station

Plan-arashiyama-resize

STEP 1 เดินทางจากโอซาก้า

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟ JR จากสถานี JR Osaka ลงสถานี JR Kyoto เพื่อเปลี่ยนสายรถไฟเป็น JR Sagano Line ลงสถานี JR Umahori
ใช้เวลา : ประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ
ค่าเดินทาง : 1,140 เยน

เมื่อถึงสถานี Umahori เดินออกจากสถานีแล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที เพื่อไปตั้งต้นเริ่มเส้นทางของรถไฟสายโรแมนติกที่สถานี Kameoka Torokko ใครที่ยังไม่ได้จองตั๋วล่วงหน้ามาหรือต้องการนั่งรถไฟตู้พิเศษ (ตู้ที่ 5) เพื่อชมวิวแบบเปิดโล่งสามารถซื้อตั๋วรถไฟได้ที่สถานี แนะนำว่าควรรีบไปแต่เช้าตรู่ โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีเพราะที่นั่งเต็มเร็วมว๊ากกกก! อาจทำให้ได้ตั๋วเที่ยวบ่ายหรือเย็น ไม่ก็จำใจต้องซื้อตั๋วยืนซึ่งโอกาสเห็นวิวน้อยนิดกว่าตั๋วนั่งยิ่งนัก

Plan-arashiyama-resize10
Plan-arashiyama-resize9
Plan-arashiyama-resize8
Plan-arashiyama-resize7

STEP 2 เดินทางจากสถานี Kameoka Torokko

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟ Sagano Romantic Train จากสถานี Kameoka Torokko ลงสถานี Arashiyama Torokko
ใช้เวลา : 25 นาที
ค่าเดินทาง : 620 เยน

การเที่ยวด้วยแผนนี้จะเริ่มต้นจากสถานี Kameoka Torokko ถ้าดูจากแผนที่ (ด้านบน) จะเป็นการนั่งรถไฟ JR เลยสถานี Saga Torokko เพื่อไปเริ่มต้นที่สถานีสุดท้ายปลายทางแล้วนั่งรถไฟสายโรแมนติกย้อนกลับมา ซึ่งส่วนใหญ่คนที่เที่ยวด้วยแผนนี้จะนิยมลงที่สถานี Arashiyama Torokko เพื่อเดินเที่ยวชม “ป่าไผ่ซากาโนะ” ต่อด้วย “วัดเท็นริวจิ” และยังสามารถเดินไปจนถึง “สะพานโทเง็ตสึเคียว” ก่อนจะไปเที่ยวต่อยังสถานที่อื่นๆ ในเกียวโตหรือเดินทางกลับโอซาก้า ซึ่งขึ้นอยู่กับแผนของแต่ละคนเลยน้า ^^

Plan-arashiyama-resize6
รถไฟจะวิ่งเป็นระยะทาง 7.3 กิโลเมตร เลียบแม่น้ำโฮสุ ฉะนั้นระหว่างทางก็จะได้เห็นวิวแม่โฮสุพร้อมกับใบไม้เปลี่ยนสีเหลืองแดงไปตลอดเส้นทาง : )

PLAN 02

Start : Saga Torokko Station

Plan-arashiyama-resize12

STEP 1 เดินทางจากโอซาก้า

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟ JR จากสถานี JR Osaka ลงสถานี JR Kyoto เพื่อเปลี่ยนสายรถไฟเป็น JR Sagano Line ลงสถานี JR Saga-Arashiyama
ใช้เวลา : 1 ชั่วโมง
ค่าเดินทาง : 970 เยน

เมื่อถึงสถานี Saga-Arashiyama แล้ว เดินออกจากสถานีจะมีทางเชื่อมต่อไปยังสถานี Saga Torokko ซึ่งเป็นต้นทางของรถไฟสายโรแมนติก ใครยังไม่ได้จองตั๋วก็สามารถซื้อตั๋วได้ที่สถานี Saga Torokko ได้เลยนะ

Plan-arashiyama-resize4
Plan-arashiyama-resize5

STEP 2 เดินทางจากสถานี Saga Torokko

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟ Sagano Romantic Train จากสถานี Saga Torokko ไปจนถึงสถานี Kameoka Torokko แล้วรอรถไฟวนกลับมาลงสถานี Arashiyama Torokko
ใช้เวลา : 1 ชั่วโมง
ค่าเดินทาง : 1,240 เยน (ไป-กลับ)

การเที่ยวด้วยแผนนี้ ส่วนใหญ่จะซื้อตั๋วแบบไป – กลับ เพื่อนั่งรถไฟสายโรแมนติกไปถึงสถานี Kameoka Torokko และนั่งกลับมายังสถานี Arashiyama Torokko เพื่อเดินเที่ยวชม “ป่าไผ่ซากาโนะ” ต่อด้วย “วัดเท็นริวจิ” และสถานที่อื่นๆ ในอาราชิยามะเช่นเดียวกับ Plan 01 หรือใครที่มีทุนในกระเป๋าสตางค์หนาหน่อยก็อาจจะซื้อตั๋วไปเที่ยวเดียว แล้วกลับทางเรือพายล่องมาตามเส้นทางของแม่โฮสุก็ได้เช่นกันนะ

Plan-arashiyama-resize3
Plan-arashiyama-resize2

ปล. ถ้าให้แนะนำว่าควรไปแบบแผนไหนดี เราแนะนำว่า Plan 01 จะสามารถประหยัดทั้งค่าเดินทางและเวลาได้มากกว่านะ เพราะในความเป็นจริงแล้วช่วงที่ไปอาจจะเจอคนแน่นจนกลายเป็นรถไฟสายไม่โรแมนติกไปเลยก็ได้ (เหมือนเรา T^T) ฉะนั้นถ้าคิดว่าอยากไปช่วงใบไม้เปลี่ยนสีชัวร์ๆ ก็ควรจองตั๋วล่วงหน้าเพื่อให้ได้ตั๋วนั่ง จะมีโอกาสได้เห็นวิวทิวทัศน์และสัมผัสความโรแมนติกได้มากกว่า แล้วก็นั่งแค่เที่ยวเดียวจากสถานีปลายทางย้อนกลับมาเที่ยวต่อที่ป่าไผ่ซากาโนะ และสถานที่อื่นๆ ในอาราชิยามะก็พอ เท่านี้ก็ประหยัดค่าเดินทาง และเวลาไปได้พอประมาณเลย : )

Niichiiz *
Niichiiz *http://www.movearound-journey.com
IG : https://www.instagram.com/niichiiz13

Related Stories

Discover

เที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ 3 วัน 2 คืน ในนางาซากิ คิวชู

เราเคยไปเที่ยวคิวชูมาทั้งหมดสามครั้ง แต่ไม่เคยเห็นนางาซากิอยู่ในสายตา ล่าสุดเลยลองแวะไปนอนเล่นสัก 2-3 คืน ไปแบบไม่มีแผนเที่ยว อะไรในหัว นอนตื่นสายๆ เดินเล่นไปเรื่อยๆ เปื่อยๆ เมื่อยก็ขึ้นรถราง กระโดดขึ้นรถเมล์บ้าง ถ่ายรูปบ้านเมืองที่ลดหลั่นเป็นเอกลักษณ์ หาคาเฟ่นั่งพักกินกาแฟแล้วเดินเล่นต่อ...

ไอเดียเที่ยวเกียวโต 2 วัน 1 คืน เดินทางชิลๆ เปลี่ยนฟีลจากโอซาก้า

เกียวโต เมืองหลวงเก่าแห่งวัฒนธรรมของภูมิภาคคันไซ ได้ลองไป เที่ยวเกียวโต อีกครั้งก็ยังชอบ เพราะเป็นเมืองที่มีเสน่ห์มากจริงๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนักท่องเที่ยวถึงแน่นมหาศาลตลอดกาล เพราะมีดีทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรมเลย เรามีโอกาสได้ลองไปเที่ยวเกียวโตมาสองฤดู คือ ช่วงซากุระ และใบไม้เปลี่ยนสี สวยได้ฟีลคนละแบบเลยค่ะ แต่อากาศใกล้เคียงกันอยู่นะ...

นั่งรถไฟเที่ยว Kamakura-Enoshima อีกหนึ่งที่เที่ยวใกล้โตเกียวที่มองเห็นฟูจิซัง!

ใครกำลังมองหาที่เที่ยวใกล้โตเกียว ลองจัดแพลนชิลๆ สักครึ่งวัน นั่งรถไฟไปเที่ยวจังหวัดคานางาวะ (Kanagawa) กันดีกว่า ฟังจากชื่ออาจจะไม่ค่อยคุ้นหูใช่ไหมคะ แต่อันที่จริง คานางาวะคือจังหวัดที่หลายคนคุ้นเคยมากเลยนะ เพราะคานางาวะเป็นจังหวัดที่ตั้งของเมืองฮาโกเน่ (Hakone) และโยโกฮามา (Yokohama) สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของญี่ปุ่นนั่นเอง...

Mojiko Retro เมืองท่าบรรยากาศยุโรป อีกหนึ่งเมืองถ่ายรูปสวยในคิวชู

ใครที่กำลังมองหาแพลนเที่ยว One Day Trip ชิลๆ จากฟุกุโอกะ แนะนำให้ปักหมุดที่เมืองนี้เลยค่ะ Mojiko Retro เมืองท่าที่บรรยากาศโรแมนติกแบบเกินเบอร์! ตั้งอยู่ในเมืองคิตะคิวชู (Kitakyushu) ซึ่งอยู่ห่างจากฟุกุโอกะเพียงนิดเดียวเท่านั้น สามารถนั่งรถไฟมาเที่ยวแบบเช้า...

รวม 9 มุมถ่ายรูปภูเขาไฟฟูจิ แบบสวย Unseen ไม่ซ้ำใคร

เคยมีคำถามกับตัวเองตอนไปญี่ปุ่นครั้งแรกว่า “ทำไมคนเขาถึงตื่นเต้นกับภูเขาไฟฟูจินักหนานะ” ถึงกับพูดกันปากต่อปากว่า ถ้าไปญี่ปุ่นครั้งแรกแล้วได้เห็นฟูจิซัง ก็จะได้ไปญี่ปุ่นซ้ำอีก ทำไมภูเขาไฟลูกนี้ถึงสำคัญกับคนญี่ปุ่นมากขนาดยกให้เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่เปรียบเสมือนศูนย์รวมพลังใจของประเทศญี่ปุ่น .. เราไม่เคยเข้าใจ จนกระทั่งได้ไปเห็นภูเขาไฟฟูจิด้วยตาตัวเอง จากคนที่เคยมีคำถามมากมายในวันนั้น รู้สึกตัวอีกที เราก็กลายมาเป็นคนที่ตามล่าหามุมถ่ายรูปภูเขาไฟฟูจิแบบ Unseen เหมือนช่างภาพคนญี่ปุ่นบางคนที่ทุ่มเททั้งชีวิตถ่ายแต่รูปฟูจิซังแล้วล่ะโพสต์นี้ก็เลยอยากมาแชร์...

วิธีลงทะเบียน Visit Japan Web แบบละเอียด พร้อมอัพเดทขั้นตอนเข้าประเทศญี่ปุ่น

กลับมาทวงบัลลังก์ "ประเทศในฝันของคนไทย" หลังจากเริ่มกลับมาเปิดประเทศและเปิดฟรีวีซ่าให้คนไทยอีกครั้ง "ญี่ปุ่น" ก็กลายเป็นประเทศที่หลายคนปักหมุดไว้อย่างรวดเร็ว! แต่ถึงแม้ว่าจะกลับมาเปิดฟรีวีซ่าให้คนไทย 15 วัน เหมือนเดิม แต่ก็มีอะไรที่เพิ่มเติมมาจากเดิมเยอะเลยนะ โพสต์นี้เราก็เลยจะมาอัพเดทมาตรการการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นหลังกลับมาฟรีวีซ่าให้แบบละเอี๊ยดละเอียด ทุกขั้นตอนแบบ Step by...

Popular Categories

Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่