
เกียวโต เมืองหลวงเก่าแห่งวัฒนธรรมของภูมิภาคคันไซ ได้ลองไปเที่ยวเกียวโตอีกครั้งก็ยังชอบ เพราะเป็นเมืองที่มีเสน่ห์มากจริงๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนักท่องเที่ยวถึงแน่นมหาศาลตลอดกาล เพราะมีดีทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรมเลย เรามีโอกาสได้ลองไปเที่ยวเกียวโตมาสองฤดู คือ ช่วงซากุระ และใบไม้เปลี่ยนสี สวยได้ฟีลคนละแบบเลยค่ะ แต่อากาศใกล้เคียงกันอยู่นะ ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี อากาศอาจจะหนาวมากกว่าช่วงซากุระอยู่นิดหน่อย ถ้าเน้นเดินเล่น เย็นสบาย เราว่าไปช่วงซากุระอาจจะชิลกว่า แต่ในโพสต์นี้จะแชร์ไอเดีย ที่เที่ยวเกียวโต ที่เหมาะสำหรับทั้งสองฤดูกาลเลย : )

สำหรับพยากรณ์ซากุระปี 2023 คาดว่าเกียวโตน่าจะบานช่วงประมาณ 27 มี.ค. – 4 เม.ย. ถ้าใครแพลนไปช่วงซากุระ ยังไงลองติดตามอัพเดทใกล้ชิดนะคะ เผื่ออากาศเปลี่ยนแปลงก็อาจจะบานช้าหรือเร็วขึ้นกว่าที่พยากรณ์เล็กน้อย สามารถเช็คพยากรณ์ดอกซากุระบานแบบอัพเดทได้ที่นี่เลย > Cherry Blossom Forecast 2023 <

นอกจากธรรมชาติที่สวยงาม รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่มีเสน่ห์ของเกียวโตแล้ว อีกหนึ่งเหตุผลที่หลายคนนิยมมาเที่ยวเกียวโต อาจเพราะเป็นเมืองที่เดินทางมาจากโอซาก้าได้ง่ายดายและรวดเร็ว เรียกได้ว่าถ้าใครปักหลักเที่ยวที่ภูมิภาคคันไซ ก็ต้องปักหมุดเกียวโตด้วยอย่างแน่นอน โดยการเดินทางจากโอซาก้านั้นก็ไม่ยุ่งยากเลยค่ะ สามารถนั่งรถไฟ JR Tokaido Sanyo Line จากสถานี Osaka มาลงที่สถานี Kyoto โดยใช้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น หลังจากนั้นก็สามารถนั่งรถไฟใต้ดินหรือรถเมล์เที่ยวในเมืองเกียวโตได้แบบชิลๆ เลย
แนะนำ Pass สำหรับเที่ยวเกียวโตและจังหวัดรอบๆ
Kansai Thru Pass


Kansai Thru Pass เป็นบัตรเดินทางแบบเหมาจ่าย สำหรับโดยสารรถไฟใต้ดิน รถไฟเอกชน และรถบัสในพื้นที่แถบคันไซรวมทั้งเกียวโต โอซาก้า โกเบ สามารถนั่งรถไฟ Nankai Airport Express จากสนามบินคันไซเข้าตัวเมืองโอซาก้าได้ บัตรนี้ใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง มีให้เลือกแบบ 2 วันและ 3 วัน (ไม่จำเป็นต้องใช้บัตรในวันติดกัน) บัตรนี้สามารถใช้เดินทางผ่านเมืองท่องเที่ยวยอดฮิตสำคัญๆ หลายเมือง เช่น โอซาก้า เกียวโต นารา โกเบ วากายาม่า เป็นต้น บัตร Kansai Thru Pass เหมาะสำหรับคนที่ไม่รีบร้อนเรื่องการเดินทาง เที่ยวแบบชิลๆ เพราะบัตรนี้ไม่สามารถนั่งชินคันเซ็นและรถไฟของบริษัท JR ได้ ทำให้เวลาข้ามเมืองอาจต้องต่อรถไฟหลายสาย ส่วนคนที่ไม่อยากเสียเวลาเดินทางแนะนำให้ซื้อพาส JR Kansai WIDE Area Pass เลยค่ะ สามารถนั่งรถด่วนและชินคันเซ็นข้ามเมืองในแถบคันไซได้เลย
• สนใจซื้อบัตร Kansai Thru Pass 2 หรือ 3 วัน ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
JR Kansai Wide Area Pass


JR Kansai Wide Area Pass เป็นบัตรเดินทางแบบเหมาจ่ายในภูมิภาคคันไซ 5 วัน สามารถขึ้นรถไฟ JR (รวมทั้งรถไฟ Shinkansen และ limited express แบบไม่จองที่นั่ง) และรถบัสของบริษัท JR WEST ได้หมดในเส้นทางที่กำหนดในภูมิภาคคันไซ โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง สามารถเริ่มใช้ได้ตั้งแต่รถไฟด่วน Haruka จากสนามบินคันไซเข้าเมืองโอซาก้าได้เลย บัตร JR Kansai Wide Area Pass นี้ครอบคลุมพื้นที่หลายเมือง เช่น โอซาก้า เกียวโต นารา ฮิเมจิ โอคายาม่า ทตโตริ วากายาม่า ชิกะ ฟุกุอิ สามารถนั่งรถได้ในเส้นทางได้ไม่จำกัดเที่ยว ทั้งรถไฟชินคันเซ็น รถไฟด่วนพิเศษ รถไฟธรรมดา และรถบัสประจำทาง ต้องใช้ติดต่อกันเป็นเวลา 5 วัน เรียกว่ามาทริปเดียวเก็บได้ทั่วภูมิภาคคันไซเลย ถ้าเดินทางข้ามเมืองซัก 2-3 ครั้งก็คุ้มค่าบัตรแล้ว
• สนใจซื้อบัตร JR Kansai Wide Area Pass (5 วัน) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
มีข่าวมาบอกจ้า เช่ารถขับเที่ยวญี่ปุ่นผ่านเว็บ ToCoo! วันนี้
เพียงใส่ Coupon Code : LMT4Y5 ได้รับส่วนลดทันที 1,000 เยน
เราเช่ารถผ่านเว็บนี้ประจำ สะดวกมากมีรถให้เลือกเยอะมากเลยค่ะ คูปองนี้มีเงื่อนไขนิดนึงคือ
• ต้องมีการจองที่มากกว่า 10,000 เยน • คูปองใช้ได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2023 นี้
Arashiyama

พูดถึงธรรมชาติของเกียวโต “อาราชิยามา” ต้องโผล่มาอยู่อันดับต้นๆ ในท็อปลิสต์แน่นอน เพราะเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดของเกียวโตเลย ส่วนตัวเราเคยมาที่นี่ 3 ครั้ง ทั้งช่วงซากุระ และใบไม้เปลี่ยนสี ตอนนั้นนั่งรถไฟสายโรแมนติกด้วย สามารถย้อนกลับไปอ่านรีวิวได้ที่นี่เลยน้า > Click < ส่วนครั้งล่าสุดที่ไปคือช่วงเดือนตุลาคมของปลายปี 2022 ที่ผ่านมานี่เองค่ะ บรรยากาศยังชิลเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน และก็ด้วยความที่เคยมาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้เราก็เลยเลือกที่จะใช้เวลาชิลๆ อยู่แค่ตรงบริเวณริมแม่น้ำ ไม่ได้แวะไปเที่ยวจุดอื่นๆ ซึ่งอันที่จริง อาราชิยาม่ายังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายจุดเลยนะคะ สามารถย้อนกลับไปอ่านรีวิวที่เราเคยไปมารอบก่อนได้ที่นี่เลยค่า > Click <

ครั้งนี้ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาเช่าจักรยานปั่นเที่ยวด้วย ชิลดีเหมือนกันน้า ใครแวะไปอาราชิยามาแล้วไม่อยากเดิน ลองเช่าจักรยานมาปั่นเหมือนเราก็ได้ค่ะ ร้านอยู่หน้าสถานี Hankyu-Arashiyama ค่าเช่า 2 ชั่วโมง 500 เยนค่ะ

วิธีการเดินทาง : มีรถไฟไปอาราชิยามา 2 สาย คือ
1. San’in Main Line ขึ้นจากสถานี Kyoto นั่งยาวไปลงสถานี Saga-Arashiyama ได้เลย
2. Hankyu Kyoto Line ถ้าขึ้นจากสถานี Kyoto ต้องเดินทางหลายต่อกว่า คือ นั่งรถไฟใต้ดินลงสถานี Shijo แล้วเดินไปขึ้นรถไฟ Hankyu Kyoto Line ที่สถานี Karasuma ไปลงสถานี Katsura แล้วเปลี่ยนไปนั่งขบวน Hankyu Arashiyama Line ลงสถานี Arashiyama
ทั้งสองวิธีใช้เวลาเดินทางใกล้เคียงกันคือประมาณ 35-40 นาทีค่า




พิกัด Arashiyama Park : https://goo.gl/maps/614G34kKTNHDpVXk8
Miyama Kayabuki no sato

ใครชอบเที่ยวหมู่บ้านโบราณฟีลเหมือนชิราคาวาโกะ อาจจะนึกไม่ถึงว่าเกียวโตเองก็มีบรรยากาศแบบนั้นให้สัมผัสด้วย โดยเฉพาะสายธรรมชาติที่อยากหลีกเลี่ยงนักท่องเที่ยวมหาศาลที่แออัดกันอยู่ในเมืองหรือตามวัดแลนด์มาร์คต่างๆ ลองเปลี่ยนฟีลมาเที่ยวที่นี่ดู รับรองจะต้องตกหลุมรักค่ะ เพราะว่านักท่องเที่ยวน้อยกว่าเยอะเลย ส่วนใหญ่เป็นคนญี่ปุ่นที่ขับรถมาเที่ยว เพราะที่นี่ต้องเดินทางจากตัวเมืองเกียวโตออกมาประมาณ 30 กิโล อาจจะใช้เวลาเดินทางนานนิดนึง แต่รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอนค่า

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟ JR Sagano Line จากสถานี Kyoto ลงสถานี Sonobe แล้วต่อรถไฟ JR San-In Line ลงสถานี Hiyoshi จากนั้นต่อรถบัส Nantan City Bus ลงที่ป้าย Miyama-Cho Kita (Kayabuki no Sato) ใช้เวลาเดินทางรวมทั้งหมดประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง หรือจะเช่ารถขับไปก็ได้ค่ะ จะเร็วกว่านั่งรถไฟแล้วต่อรถบัส ขับรถใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ ค่ะ


มาถึงที่นี่แล้ว จะสังเกตเห็นว่ามีสะพานอยู่ตรงด้านหน้าด้วย แนะนำให้เดินข้ามไปฝั่งตรงข้ามด้วยนะคะ จะได้เจอกับวิวที่ทำให้รู้สึกว่าชนบทของญี่ปุ่นนั้นน่ารักอบอุ่นมากจริงๆ

พิกัด Kayabuki no sato : https://goo.gl/maps/7DuR7Qb3Ucfk8jSs5
Panel Cafe

เป็นคนชอบดู Instagramer คนญี่ปุ่นของกินในญี่ปุ่นมากกก ยั่วน้ำลายได้ทุกครั้งไป และทุกครั้งที่เราไถไอจี เราก็จะเจอคลิปแพนเค้กของร้านนี้เป็นประจำ เป็นร้านที่ดังมากๆ ในไอจีสายกินของญี่ปุ่นเลย มีโอกาสได้ไปเกียวโตทั้งทีเลยไม่พลาด รีบไปตามรอยเลยค่ะ ร้านนี้ใกล้ย่าน Gion เดินจากสถานี Gion-Shijo ไปประมาณ 60 เมตรเอง ดูจากหน้าร้านอาจจะดูธรรมดา เดินเข้ามาถึงรู้ว่ามีโซนเอาท์ดอร์เป็นที่นั่งริมลำธารด้วย บรรยากาศชิลสุดอะไรชิลค่า

เมนูยอดฮิตแน่นอนว่าคือ แพนเค้กมัทฉะ เสิร์ฟมาพร้อมไอศครีมนม อร่อยดีค่ะ ที่ร้านยังมีอีกหลายเมนู ใครมีแพลนไปเที่ยวเกียวโตก็แวะไปได้ค่ะ มาถึงเกียวโตแล้วก็ต้องลองมัทฉะเกียวโตสิเน้อออ

พิกัด Panel Cafe : https://goo.gl/maps/jALgbLxDjbbD97tp6
Ninenzaka

ย้อนเวลาไปสัมผัสบรรยากาศของยุคเอโดะกันค่ะ สารภาพว่ามาเกียวโตหลายครั้งก็เพิ่งเคยมาที่นี่ครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วเอง ทั้งๆ ที่เป็นแลนด์มาร์คของเมืองเกียวโตแท้ๆ ครั้งนี้ได้ลองแวะมาก็รู้สึกไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงกลายเป็นจุดเช็คอินแลนด์มาร์คของเกียวโต เพราะมีทั้งเนินนิเนนซากะให้เดินช็อปปิ้ง ซื้อของกิน ของฝาก แถมยังสามารถเดินไปถ่ายรูปกับหอคอยยาซากะตรงวัดโฮคันจิ แลนด์มาร์คของเมืองเกียวโตได้อีกด้วย เรียกว่าเชื่อมต่อจุดท่องเที่ยวดังๆ หลายจุดในเมืองเกียวโตเลยก็ว่าได้ค่ะ

ใครจะมาย่านนี้แนะนำให้วางแผนมาแต่เช้านะคะ เพราะช่วงสายคนเยอะมาก เรามาถึงก่อน 10 โมง คนก็เริ่มมากันแล้วล่ะค่ะ




วิธีการเดินทาง : นั่งรถบัสสาย 206 จากสถานี Kyoto ลงป้าย Kiyomizumichi แล้วเดินประมาณ 5 นาที
พิกัด Nineizaka : https://goo.gl/maps/sJhz9n4M4bAmVdnn9
Pontocho

ใครแพลนมานอนค้างเกียวโต อาจจะคืนเดียวเหมือนเราหรือหลายคืนก็ตาม อยากแนะนำให้ออกมาเดินเล่นดูแสงสีของบรรยากาศคลาสสิคยามค่ำคืนที่ย่านนี้ค่ะ ตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำคาโมะเลย อาจจะแวะมาหาของอร่อยๆ กินเป็นมื้อค่ำก็ได้นะ เพราะมีร้านอาหารฟีลดั้งเดิมอยู่หลายร้านเลย เป็นบรรยากาศแสนคลาสสิคที่ทำให้เรารู้สึกว่า เออ นี่สินะ เกียวโต!

วิธีการเดินทาง : นั่งรถเมล์สาย 17, 125 จากสถานี Kyoto ลงป้าย Shijo Kawaramachi หรือรถไฟ
พิกัด Pontocho Park : https://goo.gl/maps/wy1yzuiHJWnsmwJz9
The Royal Park Canvas – Kyoto Nijo

สุดท้ายของบทความนี้ เราอยากมารีวิวโรงแรมที่เราไปพักแล้วชอบมากๆ เพราะห้องใหญ่จนแปลกใจว่านี่คือห้องพักที่ญี่ปุ่นจริงหรือป่าว 555 แถมไม่แพงด้วย ช่วงที่เราไป 1,235 บาท/คืนเอง แต่ช่วงนี้ราคาอาจจะเริ่มขึ้นแล้ว ยังไงลองเช็คก่อนจองอีกทีนะคะ โรงแรมนี้ตั้งอยู่ใกล้สถานี Nijo เลยค่ะ เดินประมาณ 3 นาทีเท่านั้น โรงแรมออกแบบได้ทันสมัยดีมาก พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้ดี เช็คอินรวดเร็ว ที่ชอบมากที่สุดก็เห็นจะเป็นขนาดของห้องพักนี่แหละ ค่อนข้างกว้างกว่าห้องพักมาตรฐานของญี่ปุ่นทั่วๆ ไปค่ะ
สนใจจองที่พัก The Royal Park Canvas – Kyoto Nijo สามารถคลิกลิงค์ด้านล่างได้เลยนะคะ


ข้างๆ เตียงมีมุมนั่งเล่นด้วยนะ มีหมอนให้หลายใบอีกต่างหาก ไอเลิฟฟฟฟ

สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันค่ะ มีกาต้มน้ำ มีแอร์ มีฮีทเตอร์ ครบตามมาตรฐานโรงแรมในญี่ปุ่นเลย ติดนิดเดียวคือห้องน้ำไม่มีอ่างแช่น้ำ แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ามากๆ สำหรับราคาประมาณนี้ค่า

พิกัด The Royal Park Canvas – Kyoto Nijo : https://goo.gl/maps/b63BMDDnr6goAmpb6

แอบสารภาพว่าเราเคยไปเกียวโตครั้งแรกแล้วไม่ค่อยประทับใจเท่าไร เพราะไปเที่ยวตามสถานที่แลนด์มาร์ค เจอนักท่องเที่ยวเยอะมากๆ มีโอกาสได้กลับไปอีกเลยมองหา ที่เที่ยวเกียวโต ในมุมอื่นๆ ดูบ้าง กลับหลงเสน่ห์เกียวโตเข้าเต็มเปาค่ะ นอกจากวัดวา ศาลเจ้าที่โด่งดังมากๆ ของเกียวโตแล้ว เมืองนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ ธรรมชาติที่เงียบสงบให้ได้สัมผัสนะคะ โดยเฉพาะตามแผนในโพสต์นี้ เป็นสถานที่ที่หลีกเลี่ยงคนเยอะๆ ได้พอสมควรเลย หวังว่าจะเป็นไอเดียที่มีประโยชน์ให้ได้มาตามรอยกันน้า
รีวิวที่เที่ยวเกียวโตยังมีอีกนะ
• แผนเที่ยว “เกียวโต” ฉบับ นั่งรถไฟสายโรแมนติกชมใบไม้เปลี่ยนสี
• แผนเที่ยว “เกียวโต” ฉบับ ปัดหมุดจุดแลนด์มาร์ก