ภูเก็ต ไปกี่ทีก็เด็ดสะระตี่
Phuket Travel Guide
- April, 2018 -

“ภูเก็ต” ชื่อนี้เด็ดโดยไม่ต้องร่ายความยาวสาวความยืดเรื่องชื่อเสียงออกมาพูดกันให้มากความ แต่มันอาจจะเด็ดกว่า ถ้าได้ลองใช้เวลาแบบเต็มแม็กซ์อยู่ในจังหวัดภูเก็ตแบบที่ไม่ต้องนั่งปวดหัวหาทัวร์ออกไปเที่ยวเกาะให้วุ่นวาย เพราะจังหวัดเด่นทางใต้ของไทยอย่างภูเก็ตนั้นมีเรื่องราวมากมายให้ค้นหาจนทำให้เรารู้สึกว่าที่นี่แม่งไม่ธรรมดา! เพราะถ้าลองเที่ยวลึกลงไปให้ถึงแก่นแล้ว ภูเก็ตมีวัฒนธรรมที่ค่อนข้างแตกต่างและยูนีคสุดๆ โดยเฉพาะของกิน!! ฉะนั้นอย่าเพิ่งเบือนหน้าหนีถ้านี่จะเป็นอีกหนึ่งรีวิวของภูเก็ต เพราะจังหวัดเนี่ย .. แม่งไปกี่ทีก็เด็ดสะระตี่จริงๆ นะจ๊ะนายยย

การเดินทางสู่จังหวัดภูเก็ต

แน่นอนว่ามีเที่ยวบินตรงสู่จังหวัดภูเก็ตมากมาย ราคาก็ตั้งแต่หลักพันต้นๆ ยันหลักพันกลางๆ แล้วแต่ว่าจะไปขวนขวายหาราคาโปรฯ กันมาได้เท่าไร รวมถึงมีสายการบิน Low Cost อีกมากมายให้เลือกสรร ฉะนั้นคนกรุงฯ อย่างเราก็ไม่ต้องทนเมื่อยตรูดขับรถจากกรุงเทพฯ ลงไปแล้วละ ซึ่งหลังจากเท้าเหยียบผืนแผ่นดินภูเก็ตแล้วจะเลือกเดินทางด้วยรถสาธารณะต่างๆ เช่น รถโพถ้อง (รถสองแถวของเมืองภูเก็ต) หรือจะเช่ารถขับก็ตามแต่กำลังเลย ส่วนตัวเราเลือกเช่ารถขับ เพราะมันอิสระ ไปไหนมาไหนสะดวกดี ราคาก็มีให้เลือกตั้งแต่ 1,xxx บาท/วัน ขึ้นไป หรือจะซื้อโปรฯ รถเช่าตอนงานเทศกาลท่องเที่ยวทั้งหลายก็อาจจะได้ราคาหลักร้อยปลายๆ แต่ถ้าใครไม่มีบัตรเครดิตหรือวงเงินน้อย ลองเสิร์จ google.com พิมพ์หา รถเช่า ภูเก็ต ก็จะมีเว็บไซต์เช่ารถของคนในพื้นที่ขึ้นมาเพียบ แต่อย่าลืมสแกนความคิดเห็นด้วยการพิมพ์ชื่อเว็บไซต์รถเช่า ต่อท้ายด้วย pantip ก่อนก็ดี เพราะบางทีสภาพรถพวกนี้อาจไม่ใหม่เท่ากับเจ้าใหญ่ๆ ดังๆ ขับไปเดี๋ยวใจมันจะพังเอาเปล่าๆ นาจา : D
ที่เที่ยวโคตรเด็ดในจังหวัดภูเก็ต

ไปภูเก็ตทั้งที ทำไมมีแต่คนหาทางออกทะเล ทั้งที่ทะเลฝั่งภูเก็ตนี่ก็เด็ดไม่แพ้เกาะแก่งต่างๆ เลย ถึงแม้น้ำทะเลจะไม่ใสเวอร์วัง แต่สีมันก็สวย เทอควอยซ์อยู่นะเฮ้ย รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวก็มีมากมายหลากหลายฟีล เอาเป็นว่า ถ้าเคยคิดว่าไปภูเก็ตแล้วจะต้องจองทัวร์ออกไปเที่ยวเกาะเท่านั้น มามะม่ะมาทางนี้ .. เราจะแชร์ไอเดียสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตให้เอง ดีไม่ดี ภูเก็ตรอบหน้า อาจจะอยากใช้เวลาอยู่บนฝั่งภูเก็ตทั้งทริป โดยไม่ต้องออกทะเลไปง้อเกาะเลยก็ได้นะนายหั๊วววว
ไม่ได้ออกเกาะก็ไม่ท้อ ไปเดินย่ำน้ำทะเลให้ครบทุกหาดไปเล้ย!

มีชายหาดมากมายในฝั่งภูเก็ตให้เราได้ไปเดินย่ำเอาเท้าจุ่มน้ำ พร้อมส่องซิกแพคฝรั่งหล่อๆ แฮร่ ไม่ช่ายยย .. โดยหาดยอดฮิตก็คงหนีไม่พ้น “หาดป่าตอง” และ “หาดกะตะ” ซึ่งก็จะค่อนข้างล้นหลามไปด้วยผู้คนมากเป็นพิเศษ ฉะนั้นถ้าอยากไปส่องผู้ ส่องชะนี เชิญสองหาดนี้ได้เลยแจ้ แต่ถ้าคร่ำครวญหาความเงียบสงบ อยากไปนอนสลบกลางแดดอยู่เงียบๆ แนะนำ “หาดกะตะน้อย” หรือ “หาดกมลา” เพราะนอกจากจะเงียบสงบกว่าแล้ว ทรายจะค่อนข้างขาวละเอียด แล้วน้ำก็ใส เทอควอยซ์กว่าด้วย หรือว่าจะแวะไป “หาดยะนุ้ย” ก็โคตรสงบและแปลกตา แต่ถ้าเป็นหาดที่คนภูเก็ตเขาแนะนำมาว่าชอบมากที่สุดก็คงต้องยกให้ “หาดในยาง” ชายหาดที่อยู่ใกล้สนามบินภูเก็ตมากที่สุด จึงสามารถมองเห็นเครื่องบินเทคออฟ และแลนดิ้งได้แบบชิดติดขอบทีเดียวเชียว

หาดในยางยามเย็น นั่งมองพระอาทิตย์ตกพร้อมกับเครื่องบินที่ผลัดกันเทคออฟ แลนดิ้งตลอดเวลา

ถ้าชอบความเงียบสงบก็ต้องยกให้หาดกะตะน้อยละ : )

จุดชมวิวสามอ่าว อีกหนึ่งจุดที่สามารถมองเห็นวิวได้ถึงสามอ่าวคือ หาดกะตะน้อย หาดกะตะ และหาดกะรน

เยือนเมืองเก่า ถ่ายรูป เช็คอิน ท่ามกลางบรรยากาศตึกรามสไตล์ชิโนโปรตุกีส

จะบอกว่าที่นี่เป็นแลนด์มาร์กอีกจุดของจังหวัดภูเก็ตก็ไม่น่าผิด เพราะไม่ว่าใครผ่านไปผ่านมาภูเก็ตก็ต้องแวะมาถ่ายรูป เช็คอินกัน ซึ่งบริเวณนี้นับเป็นย่านเมืองเก่า ฉะนั้นบรรยากาศบ้านเรือนแถวนี้จึงเต็มไปด้วยเสน่ห์ โดยเฉพาะสถาปัตยกรรมสไตล์ชิโนโปรตุกีสซึ่งมีความเก่าแก่และทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างมากล้น .. ที่นี่แหละที่ทำให้เรารู้สึกว่าวัฒนธรรมของภูเก็ตช่างยูนีคนัก เพราะสามารถผสมผสานศิลปะตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกันได้อย่างกลมกล่อมหอมหวาน อีกทั้งยังเป็นย่านที่อัดแน่นไปด้วยร้านอาหารเด็ดๆ มากมาย จะมาฝากท้องก็ได้ จะมาถ่ายรูปก็เก๋!

ตรงบริเวณย่านเมืองเก่ามีถนนเส้นหลักคือ “ถนนถลาง” ที่เราบอกว่าเรียงรายด้วยร้านค้า ร้านอาหารนั่นแหละ ซึ่งทุกวันอาทิตย์ประมาณค่ำๆ เขาจะปิดถนนเส้นนี้ แล้วเปิดเป็นถนนคนเดินชื่อ “หลาดใหญ่” เต็มไปด้วยของกิน ของขาย ของฝากเก๋ๆ มากมาย แถมยังมีการแสดงเปิดหมวกให้ชมกันด้วย ถ้าใครไปประจวบกับวันอาทิตย์พอดีอย่าลืมแวะไปเดินนะ เพราะเป็นถนนคนเดินที่คึกคักและมีสีสันมากทีเดียวเชียว


ไปถ่ายรูปเล่นแบบฮาๆ ที่บ้านตีลังกา (The UpsideDown House)

ถ้าแดดมันร้อนนนนน ไม่อยากโดนแผดเผาตอนกลางวัน แต่ก็เบื่อเดินห้างหรือนอนอืดอุตุอยู่ในโรงแรม ลองไปถ่ายรูปเล่นแบบฮาๆ ที่ “บ้านตีลังกา” ดูสิ เราว่ามันก็เพลิดเพลินและช่วยฆ่าเวลาตอนแดดร้อนๆ ได้ดีเหมือนกันนะ ถึงแม้ว่าข้างในจะไม่ได้ใหญ่โตมากมาย แต่กว่าจะคิดไอเดียถ่ายรูปให้มันดูกลับหัวแบบสมจริงที่สุดนี่ก็กินเวลาไปนานเอาการอยู่

รอเดี๋ยว .. ลืมเครื่องสำอาง ขอลอยไปหยิบแป๊บ ; p

ซึ่งข้างในเราสามารถเดินถ่ายรูปได้แบบฟรีสไตล์ แต่จะมีพนักงานคอยดูแลอยู่ห่างๆ ถ้าคิดท่าไม่ออก นึกไอเดียไม่ได้ ก็เดินไปสะกิดบอกพนักงานได้เลย ถามว่าไอ้ตรงเนี่ย พี่ควรจะเก๊กยังไงดีหน่อง มันถึงจะออกมาหัวทิ่มหัวต่ำได้สมใจ พนักงานก็จะช่วยสอนเราแอ๊คท่าพร้อมกดถ่ายรูปให้อีกด้วยเอ้า ใครอยากมีรูปฮาๆ ไว้โพสขึ้นโซเชียลแบบขำๆ ก็ลองไปโดนกันได้เด้อ ค่าเข้าอยู่ที่ ผู้ใหญ่ 350 บาท เด็ก 190 บาท ส่วนพิกัดก็ตามนี้เลย > 7.938853, 98.379735
ร้านอาหาร และคาเฟ่เก๋ๆ ในภูเก็ต
สำหรับเรา ขอยกให้เรื่องกินเป็นเรื่องเด็ดที่สุดในภูเก็ต! เพราะจังหวัดที่ดูเหมือนจะมีแต่อาหารทะเลให้กิน แท้จริงแล้วกลับมีอาหารพื้นเมืองอื่นๆ อีกมากมายให้ลองลิ้มชิมรสกันแบบแปลกลิ้นแต่อร่อย รวมไปถึงคาเฟ่เก๋ไก๋ก็มีให้นั่งแช่เมาท์มอยกับเพื่อนเพื่อหลบแดดตอนร้อนๆ อีกหลายร้าน จนอดประหลาดใจไม่ได้ว่าภูเก็ตมีคาเฟ่เด็ดๆ เป็นของดีประจำจังหวัดไม่แพ้เชียงใหม่ขนาดนี้เลยหรือนี่!?
ลกเที้ยน ศูนย์รวมอาหารพื้นเมืองภูเก็ต

เอาจริงๆ ก่อนไปภูเก็ต เราก็มีความรู้เท่ากับคนกรุงเทพทั่วไปว่าไปทะเลก็ต้องกินอาหารทะเลดิแว้! ปรากฏว่าพอหาข้อมูลลึกเข้า ลึกเข้า กลับพบว่าภูเก็ตมีอาหารพื้นเมืองมากมายหลายเมนูที่ทำเอาอึ้งไปเลยว่าทั้งที่อยู่ในประเทศเดียวกันแท้ๆ แต่เหมือนมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันถึงเพียงนี้เลยหรือนี่ และสำหรับคนที่ไม่สายแหลกบวกกับขี้เกียจไปตระเวนชิมเมนูพื้นเมืองเด็ดๆ ตามร้านที่เขาแนะนำ ขอให้รีบตรงปรี่มาที่นี่ “ลกเที้ยน” หรือศูนย์รวมอาหารพื้นเมืองภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็นเมนูเด็ดที่เขาแนะนำว่าต้องกินสักกี่เมนูก็มีรวบรวมมาให้กินที่นี่ที่เดียว!

บรรยากาศของลกเที้ยนเหมือนกับศูนย์อาหารสมัยเรียน หรือจะเรียกให้เห็นภาพขึ้นมาอีกนิดก็คือฟู้ดคอร์ดนั่นแล เพียงแต่ไม่ได้อยู่ในห้องแอร์เท่านั้นเอง แต่ด้วยความที่มันเรียงรายไปด้วยร้านอาหารหลายร้าน ตั้งแต่ของคาวยันของหวาน จึงทำให้เราสามารถกินทุกเมนูพื้นเมืองของภูเก็ตได้ครบจบได้ภายในมื้อเดียว ไม่ว่าจะเป็น บี้หุ้น ปอเปี๊ยะฮกเกี้ยนสด หมี่ฮกเกี้ยน หมี่เช็ค โลบะ หรือของหวานยอดฮิตอย่าง โอ้เอ๋ว ก็มีให้ตบท้ายมื้ออร่อยโดยไม่ต้องขยับตัวไปไหนเลยยย อ้อ ที่สำคัญอาหารที่นี่ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 40 บาทเท่านั้น ฉะนั้นรับประกันว่าจะเป็นมื้อที่ อิ่ม อร่อย แถมประหยัดแน่นวล!

พิกัดของลกเที้ยน : หัวมุมตรงสี่แยกระหว่างถนนดีบุก และถนนเยาวราช สามารถจอดรถริมถนนได้ แต่ต้องวนหลายรอบหน่อย หยุดทุกวันอังคารเด้อ
โกปี้เตี่ยม


มาถึงภูเก็ต ถ้าไม่ได้มานั่งร้านเก่าแก่ ดั้งเดิม สไตล์โรงเตี๊ยมแบบโบราณคงต้องโดนหาว่ามาไม่ถึงภูเก็ตแน่ แล้วร้าน “โกปี้เตี่ยม” ก็เป็นหนึ่งในร้านเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงคับแก้วในถิ่นถลางแห่งนี้ทีเดียว บรรยากาศของร้านมีความเรียบง่าย สบายๆ ให้ความรู้สึกเหมือนที่นี่ถูกหยุดเวลาเอาไว้ในอดีตกาลเลยละออเจ้า ซึ่งเราชอบนะ เพราะมันดูเรียบง่ายและสามารถเข้าถึงวิถีชีวิตของเขาได้อย่างแท้จริง เหมือนได้ย้อนเวลากลับมานั่งอยู่ในสภากาแฟที่ผู้เฒ่าผู้แก่รุ่นพ่อรุ่นแม่ของเราเขาเอาไว้เป็นแหล่งพบปะสังสรรค์กัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันแบบเห็นหน้าคร่าตา จะว่าไปก็อาจจะคล้ายกับเว็บบอร์ด เฟซบุ๊ก หรือโซเชียลทั้งหลายแหล่ในสมัยนี้ ซึ่งแม้จะสามารถเข้าถึงกันได้รวดเร็วและสะดวกกว่า แต่ก็ไม่ทำให้รู้สึกใกล้ชิดสนิทใจเหมือนนั่งมองหน้าคุยกันแน่นอน #ใครอายุเหยียบเลขสามคงรู้สึกเหมือนกัน : )

หมี่ฮกเกี้ยน อาหารพื้นเมืองของภูเก็ต ไปถึงถิ่นแล้วต้องลอง


พิกัดของโกเปี้เตี่ยม : ตั้งอยู่ย่านเมืองเก่าริมถนนถลาง ร้านหยุดทุกวันอาทิตย์
ทุ่งคา - กาแฟ

อยากกินอาหารรสเด็ดพร้อมมีจุดชมวิวเบ็ดเสร็จในที่เดียว ขอแนะนำให้พุ่งตรงมาร้านนี้ “ทุ่งคา-กาแฟ” ร้านอาหารและเครื่องดื่มบนเขารัง อีกหนึ่งจุดชมวิวที่แม้จะไม่สูงนักแต่ก็สามารถมองวิวเมืองภูเก็ตได้แบบเต็มตา สามารถขับรถขึ้นไปได้เลย ไม่ชันมาก ด้านบนจะเป็นทั้งจุดชมวิว สวนสาธารณะย่อมๆ สำหรับออกกำลังกาย และเป็นมุมพักผ่อนสำหรับชาวเมืองภูเก็ตด้วย .. ภายในร้านทุ่งคา-กาแฟกว้างขวางพอสมควร มีที่นั่งให้เลือกหลายโซน แม้จะมีโซนนอกร่ม แต่ก็ไม่ร้อนเพราะที่ร้านปลูกต้นไม้เยอะก็เลยร่มรื่น ประกอบกับมีลมเย็นๆ พัดมาตลอด ฉะนั้นถ้าวันไหนแดดไม่ร้อนก็จะชิลมากเลยเชียว อ้อ แต่คนในเน็ตส่วนใหญ่เขาแนะนำให้มาช่วงเย็นๆ นะ เพราะจะได้เห็นพระอาทิตย์ตกด้วย เห็นเขาบอกว่าโรแมนติกพอตัวเลย เอาเป็นว่า สะดวกตอนไหนก็มาตอนนั้นเด้อออ

พิกัดของทุ่งคา – กาแฟ : ตั้งอยู่บนจุดชมวิวเขารัง สามารถนำรถขึ้นไปจอดได้เลย ร้านเปิดทุกวันถึงประมาณห้าทุ่ม
Cafe'in - Thaihua Museum

เรามาร้านนี้ด้วยวัตถุประสงค์เดียวคือตามล่าหา “โอ้เอ๋ว” เวอร์ชั่น 4.0 .. อ้ะ อย่าเพิ่งงงฮะ ที่บอกว่าเวอร์ชั่น 4.0 ก็คือเป็นโอ้เอ๋วที่อัพเกรดสูตรมาแล้วจากดั้งเดิมซึ่งใส่น้ำเชื่อม น้ำแดง แบบทั่วไป กลายร่างมาเป็น “โอ้เอ๋ว ฮันนี่ เลมอน” หวานนิด เปรี้ยวหน่อย แต่กินแล้วเย็นชื่นใจสะไภ้ไฮโซมากเลยนายหั่วววว ซึ่งร้าน “Café’in” เป็นร้านเดียวที่เสิร์ฟโอ้เอ๋วเวอร์ชั่น 4.0 นี้นะฮ้า ฉะนั้นถ้าอยากกินโอ้เอ๋วเวอร์ชั่นดั้งเดิมก็สามารถหากินได้ตามร้านทั่วไปในภูเก็ต แต่ถ้าอยากกินโอ้เอ๋วเด็ดๆ แบบอัพเกรดแล้วก็ต้องพุ่งมาที่ร้านนี้ ซึ่งนอกจากเมนูเด็ดอย่างโอ้เอ๋วน้ำผึ้งมะนาวแล้ว บรรยากาศของร้านยังมีความชิคๆ คูลๆ อยู่ จะใช้เป็นโลเคชั่นในการถ่ายรูป เช็คอิน อัพเดทโปรไฟล์ก็เริ่ดอยู่ไม่น้อยจ๊ะนายย

พิกัดของ Cafe’in : ตั้งอยู่ข้างพิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว ร้านหยุดทุกวันจันทร์
หนัง (สือ) ๒๕๒๑


อีกหนึ่งคาเฟ่ดีๆ ที่หนอนหนังสือต้องหลงรัก! แม้ใครต่อใครเขาจะพับเก็บหนังสือลงกรุกันไปหมดแล้ว แต่ที่นี่ยังคงมีหนังสือมากมายให้เลือกอ่าน เลือกซื้อ รวมไปถึงเครื่องดื่มและขนมหวานอีกหลายเมนูด้วย แถมมีมุมอาร์ตๆ ให้เหล่าฮิปสเตอร์สายแชะได้ถ่ายรูปลงโลกโซเชียลอยู่หลายมุมอีกต่างหาก .. จะว่าไปก็ครบสูตร ‘Coffee Time’ แฮะ เพราะมีทั้ง หนังสือ ขนมหวาน และกาแฟ สามสิ่งที่จะยังคงละมุนอยู่ในใจอดีตคนทำ Magazine อย่างเราตลอดไป : )



พิกัดของร้านหนังสือ : ตั้งอยู่ย่านเมืองเก่าริมถนนถลาง เปิดทุกวัน
a.dessert.moments

อยู่เมืองร้อน! ก็ต้องกินของหวาน! ยิ่งโดนแดดแผดเผามาเท่าไร ร่างกายยิ่งต้องการน้ำตาลเท่านั้น ฉะนั้นถ้ามาถึงถนนถลาง จุดศูนย์กลางที่รวบรวมทุกความอร่อยของเมืองภูเก็ตแล้ว ลองเลี้ยวเข้าร้าน “a.dessert.moments” เพื่อเติมความหวานกันสักหน่อยจะเป็นไร เขาตกแต่งร้านได้น่ารัก สไตล์เลซี่บีชสุดๆ ชนิดที่สาวไหนเดินผ่านก็ต้องสะกิดแขนแฟนให้แวะ .. เพื่อถ่ายรูป แฮร่! ไม่ใช่แค่ถ่ายรูปสิ เพราะเมนูในร้านมีให้เลือกเยอะแยะ ทั้ง ไอศกรีม น้ำแข็งไส วาฟเฟิล หรือโทสต์ สั่งมาเล้ย! อย่าได้กลัวอ้วน อย่าพยายามฝืนชะตาฟ้าลิขิตที่กำหนดมาแล้วว่าผู้หญิงกับของหวานเป็นของคู่กัน ก่อนกินก็ถ่ายรูป อัพลง IG โอ๊ย แก่นเสี้ยวเปรี้ยวซ่าจะตายย เนอะ ; p


พิกัดของ a.dessert.moments : ตั้งอยู่ย่านเมืองเก่าริมถนนถลาง หยุดทุกวันอังคาร
B Cat Cafe


สารภาพว่าเป็นคนนึงที่ไม่ได้เครซี่การเข้าคาเฟ่แมว ทั้งที่ความจริงเราเป็นคนรักหมา รักแมวมากนะ เพียงแต่ประสบการณ์การเข้าคาเฟ่แมวที่เกาหลีมันไม่ค่อยสมอย่างที่ใจหวังเท่าไร เพราะคนเยอะ ไม่พอดีกับประชากรแมวที่ไม่ค่อยได้สนใจมนุษย์อยู่แล้วถ้าไม่มีผลประโยชน์อย่างอาหารมาล่อ 555 แต่วันที่มีโอกาสได้แวะเข้าไปนั่งใน “B Cat Cafe” เนี่ย เปลี่ยนความรู้สึกของเราที่มีต่อคาเฟ่แมวไปพอสมควรเลยนะ เพราะแมวที่นี่ค่อนข้างมีความสนใจมนุษย์ แม้จะไม่มีอาหารมาล่อ นางก็มานั่ง มาอ้อนบนโต๊ะว่ะเฮ้ย อาจเพราะวันที่ไปไม่ค่อยมีคนด้วย ก็เลยได้นั่งเล่นกันแบบสบายๆ

ร้านนี้เขาจะแบ่งเป็นสองโซน คือโซนร้านอาหารกับคาเฟ่ ถ้าจะเล่นกับแมวต้องเข้ามานั่งในโซนคาเฟ่ ส่วนกฎก็เหมือนกับคาเฟ่แมวทั่วไปคือต้องสั่งขนมและเครื่องดื่มตามกำหนด เป็นอีกร้านที่สามารถหลบร้อนเข้ามานั่งชิลๆ ได้ ยิ่งถ้าใครรักแมวเราว่าน่าจะเพลิดเพลินอยู่มากทีเดียวเชียว

พิกัดของ B Cat Cafe : ตั้งอยู่ตรงถนนเทพกษัตรี หยุดทุกวันพุธ