เชียงใหม่ .. ในมุมที่ไม่มีใคร
a peaceful day in Chiang Mai
- October, 2018 -

Hello October ~ ตุลามาแล้ว เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าถึงเวลาปลายฝนต้นหนาวที่แท้ทรู เป็นที่รู้กันว่า “ได้เวลาหาที่เที่ยวปลายปีแล้วจ้าาาา” .. และถ้าจะถามหาสถานที่ยอดฮิตประจำช่วงปลายปี เชื่อว่าคงไม่มีใครเอาชนะพี่เขาได้ พี่เขากินขาดทุกปี ตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้ยาวไปจนถึงต้นปีหน้าเลยเชียว แน่นอนว่าจะเป็นที่อื่นใดไปไม่ได้ นอกจาก “เจียงใหม่” นั่นเองจ้าวว หนึ่งในจังหวัดสร้างชื่อของประเทศไทย โด่งดังไกลไปทั่วโลกหล้า เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะต้องตามมาและหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยก็คือ ความวุ่นวาย โดยเฉพาะในตัวเมืองนี่ อื้มหื่มมมม รถติดยิ่งกว่ากรุงเทพฯ บางแยกอีกแจ้ .. วันนี้เราก็เลยเอาไอเดีย “เชียงใหม่ ในมุมที่ไม่มีใคร” มานำเสนอให้กับคนที่อยากมองหามุมเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย ไว้สำหรับแวะไปพักกาย พักใจในช่วงปลายปีนี้ แน่นอนว่าจะไม่มีผู้คนล้นหลามเหมือนที่ดอยอินทนนท์ แต่เราจะพาเลี่ยงฝูงชนมานั่งเล่นชมวิวชิลๆ ที่ “อุทยานแห่งชาติออบหลวง” แวะจิบกาแฟที่ “Young Folk Bean&Brew” คาเฟ่สไตล์บ้านทุ่งอีกสักหน่อย ปล่อยให้มันเป็นวันเหงาๆ สักวัน .. ไปด้วยกันนะ ไปนั่งโง่ๆ คุยกับตัวเองที่เชียงใหม่กัน : )

Young Folk Bean&Brew

ระหว่างทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปอุทยานแห่งชาติออบหลวง จะผ่านคาเฟ่น่ารักสไตล์บ้านทุ่ง ตั้งอยู่ที่อำเภอจอมทอง นั่นก็คือร้าน “Young Folk Bean&Brew” ซึ่งตัวร้านตั้งอยู่ในซอย ฉะนั้นถ้าขับรถไปน่าจะสะดวกกว่า เราเองไปเชียงใหม่คราวนี้ก็เช่ารถขับ เพราะอิสระกว่า อยากแวะไหน จอดไหนก็ได้ตามใจ เหมือนกับที่ได้แวะคาเฟ่น่ารักแห่งนี้ระหว่างทาง ถึงแม้จะอัดคาเฟอีนมาแล้วอย่างเต็มพิกัดจากคาเฟ่นับสิบที่เรียงรายกันอยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่ แต่ Young Folk ให้ความรู้สึกที่แตกต่าง ร้านนี้มีบรรยากาศที่น่ารัก สบายๆ แถมราคายังเป็นมิตรอีกต่างหาก ฉะนั้นถ้าใครมีแพลนไปอุทยานแห่งชาติออบหลวงหรือต้องขับรถผ่านอำเภอจอมทอง อย่าลืมแวะจิบกาแฟสักแก้ว เป็นอีกร้านที่คอกาแฟน่าจะชอบเหมือนกันนา



อุทยานแห่งชาติออบหลวง

อุทยานแห่งชาติออบหลวง ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ราว 100 กิโลเมตร เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีขนาดกว้างใหญ่พอสมควร โดยครอบครองพื้นที่ของ อำเภอจอมทอง อำเภอฮอด และอำเภอแม่แจ่ม รวมกันเอาไว้ด้วยธรรมชาติที่ยังคงบริสุทธิ์อยู่มาก เพราะไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเท่าไรนัก ฉะนั้นที่นี่จึงค่อนข้างเงียบสงบ แต่ก็ไม่ร้างนักท่องเที่ยวจนทำให้รู้สึกเดียวดายนะ

สายแคมป์ปิ้งที่อยากดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่างเต็มที่จะนอนค้างที่อุทยานสักคืนก็ได้นะ ที่อุทยานมีเต็นท์ให้เช่าด้วย รู้สึกจะคืนละ 50 บาท จ้า


ที่นี่มีลำน้ำสำคัญอย่างลำน้ำแม่แจ่มไหลผ่านกลางพื้นที่ของอุทยานซึ่งเป็นหนึ่งในทางน้ำที่จะไหลลงสู่แม่น้ำปิง จุดเด่นคือ ช่องแคบเขาขาดซึ่งเป็นผาหินขนาดใหญ่ที่ขนาบข้างลำน้ำแม่แจ่ม มองไกลๆ ดูคล้ายคนจูบกัน โดยมีสะพานไม้ที่เขาเรียกกันว่า “สะพานวัดใจ” (เพราะเดินผ่านแล้วเสียวจิ๊บหายย) ทอดผ่านให้นักท่องเที่ยวเดินข้ามไปยังเส้นทางศึกษาธรรมชาติและจุดชมวิว


เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่นี่มีระยะทางไม่ไกลมาก เหมาะสำหรับคนที่ไม่เคยไฮกิ้งหรือเดินป่าไกลๆ เพราะเดินไม่นาน และไม่สูงไม่ชันมากก็จะมาถึงยัง “จุดชมวิวผาช้าง” ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่แม้จะมีความสูงไม่มากนัก แต่ก็สวยงามมากทีเดียว แถมระหว่างทางยังมีภาพเขียนสีโบราณที่สลักอยู่บริเวณเพิงผาช้าง รวมถึงหลุมฝังศพมนุษย์โบราณให้แวะชมพลางสูดกลิ่นอายประวัติศาสตร์ของเจ้าของถิ่นดั้งเดิมอย่าง ‘ธรรมชาติ’ ก่อนมนุษย์จะเข้ามาจับจองพื้นที่ด้วย


รู้สึกดีเวลาเห็นผืนป่ากว้างใหญ่ของเมืองไทย อยากให้ทุกคนช่วยกันรักษาธรรมชาติที่สวยงามของบ้านเราเอาไว้นะ : )

เรานั่งรับลมเย็นๆ ใต้ร่มเงาของต้นไม้ที่เปรียบเสมือนหลังคาบังแดดของอุทยานแห่งนี้อยู่นานพอตัว ได้ยินเสียงเพื่อนนักเดินทางวนเวียนขึ้นมาแม้ไม่เยอะแต่ก็ไม่ขาดสาย ได้ทักทายคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักคุ้นเคยด้วยคำทักทายง่ายๆ อย่างการยิ้มหรือสวัสดี นับเป็นสิ่งที่ป่าไม้มี แต่ป่าคอนกรีตไม่ค่อยมี เพราะเดินสวนทางกับใครที่มุมตึกในเมือง ไม่เคยได้พูดจาทักทายใคร เว้นเสียแต่บังเอิญเจอคนรู้จัก แต่ในพื้นที่ที่แทรกขึ้นด้วยต้นไม้นับร้อยนับหมื่นแทนตึกรามบ้านช่องอย่างป่าไม้ มิตรภาพง่ายๆ กลับเกิดขึ้นรายทาง นั่นอาจเป็นหนึ่งในเหตุผลง่ายๆ ที่ทำให้เราชอบเดินป่า เพื่อไปหาที่นั่งโง่ๆ คุยกับตัวเองในบางวันที่มันเกิดความรู้สึกว่าตัวตนของเราอาจหล่นหายไป : )
ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติออบหลวง
ผู้ใหญ่ คนละ 40 บาท / เด็ก 20 บาท
เวลาเปิด – ปิด : 6.00 – 18.00 น.



" .. Get lost in nature and you’ll find yourself .. "
