แผนเที่ยว “คาวากูจิโกะ” สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวใกล้โตเกียว วันเดียวก็เที่ยวได้สบายแฮ

ถ้าจะให้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวใกล้โตเกียวที่สามารถ One Day Trip ไปเที่ยวได้แบบสบายๆ แต่แถมด้วยออฟชั่นเสริมสุดพรีเมียมอย่างการได้เช็คอินในสถานที่ที่นับเป็นแลนด์มาร์กของประเทศญี่ปุ่นอย่างภูเขาไฟฟูจิ คงจะไม่สามารถแนะนำที่อื่นใดได้นอกจาก “ทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Kawaguchiko)” เมืองเล็กน่ารักริมทะเลสาบที่มีฟูจิซังตั้งอยู่เคียงข้าง เมืองนี้สามารถเดินทางไปเที่ยวแบบเช้า – เย็นกลับจากโตเกียวได้ แต่เราแนะนำว่าถ้ามีเวลาควรจองที่พักแบบเรียวกังริมทะเลสาบพักสักคืน มันก็จะเพิ่มความฟินขึ้นอีกเป็นสองสามเท่าตัวเลย!

มาทำความรู้จัก “ทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Kawaguchiko)” กันก่อนนะ

เดินทางจากโตเกียว
✍️ วิธีการเดินทาง : ขึ้นรถบัสที่ Shinjuku Expressway Bus Terminal ซึ่งตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟ JR Shinjuku ทางออก South Exit โดย Bus Terminal จะตั้งอยู่บนชั้น 4 สามารถซื้อตั๋วไปคาวากูจิโกะได้ที่นี่ หรือจองตั๋วล่วงหน้าผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้ที่ Click
⌚ ใช้เวลา : ประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที
⌨️ ค่าเดินทาง : ผู้ใหญ่ 1,750 เยน / เด็ก 880 เยน

เมื่อถึงสถานีคาวากูจิโกะ เดินเข้าไปในสถานีจะมี Information และช่องสำหรับขายพาส แนะนำว่าควรซื้อพาสนะเพราะคุ้มกว่าจ่ายแยกเป็นเที่ยวมากทีเดียว โดยพาสสำหรับท่องเที่ยวรอบทะเลสาบคาวากูจิโกะจะแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ

❤️  แบบเหมาจ่ายเฉพาะ Retro Bus (ใช้ได้ 2 วัน) ราคา 1,300 เยน
❤️  คาวากูจิโกะ R Coupon พาสนี้จะสามารถใช้ขึ้นกระเช้าเพื่อชมวิว และล่องเรือในทะเลสาบได้ฟรี รวมถึงใช้ขึ้น Retro Bus (ใช้ได้ 2 วัน) ราคา 2,360 เยน เป็นพาสสำหรับการท่องเที่ยวคาวากูจิโกะโดยแท้ แนะนำว่าซื้อพาสนี้จะคุ้มค่ามากที่สุดสำหรับคนที่ต้องการเที่ยวคาวากูจิโกะแบบ One Day Trip

เมื่อซื้อพาสสำหรับนั่ง Retro Bus เที่ยวรอบทะเลสาบแล้วก็รอขึ้นรถได้เลย (สามารถเช็คตารางเวลาได้ที่ Click โดยที่สถานีจะมีแผนที่ของสถานที่ท่องเที่ยวรอบทะเลสาบพร้อมข้อมูลไว้ให้หยิบฟรี สามารถเลือกลงเที่ยวตามป้ายต่างๆ ได้ตามสไตล์เลย แต่ถ้าให้เราแนะนำว่ามีป้ายไหนที่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจบ้าง เราขอแนะนำตามนี้ : )

❤️  ป้ายที่ 6 Yagisaki Koen
ไฮไลท์ของป้ายนี้คือ สวนลาเวนเดอร์ ใครที่ไปช่วง มิถุนายน – ประมาณกลางเดือนกรกฎาคมควรแวะป้ายนี้อย่างแรง เพราะเขาจะมีการจัดเทศกาลฟูจิคาวากุจิโกะ เฮิร์บ เฟสติวัล (Fujikawaguchiko Herb Festival) ซึ่งจะเป็นช่วงเดียวกันกับที่สวนยากิซากิแห่งนี้บานสะพรั่งไปด้วยดอกลาเวนเดอร์สีม่วงโดยมีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง!

❤️  ป้ายที่ 11 Yuransen Ropeway Iriguchi
ใครที่ซื้อ R Coupon สามารถแวะป้ายนี้เพื่อขึ้นกระเช้าลอยฟ้าคาชิคาชิ (Kachikachiyama Ropeway) ฟรีได้เลย โดยกระเช้าจะพาขึ้นไปสู่จุดชมวิวมุมสูงจากบนยอดเขาเท็นโจที่มีรูปปั้นกระต่ายกับทานุกิอยู่คู่กับฟูจิซัง พอชมวิวด้านบนเสร็จก็ลงมาต่อด้วยการล่องเรือในทะเลสาบโดยใช้ R Coupon ได้ฟรีที่ป้ายเดียวกันนี้เลยน้า

❤️  ป้ายที่ 17 Kawaguchiko Music Forest Museum
ป้ายนี้เป็นที่ตั้งของ Kawaguchiko Music Forest Museum พิพิธภัณฑ์เพื่อคนรักเสียงเพลง ภายในพิพิธภัณฑ์มีกล่องดนตรีน่ารักนับร้อยชิ้นนำมาจัดแสดงเอาไว้แบบอลังการทีเดียว

❤️  ป้ายที่ 22 Kawaguchiko Natural Living Center
สำหรับเราป้ายนี้เป็นไฮไลท์เลยทีเดียว แม้จะเป็นป้ายสุดท้ายแต่เด็ดสุดเพราะเป็นป้ายที่สามารถเห็นฟูจิซังได้แบบเต็มตาโดยไม่มีสิ่งใดมาขวางกั้นและเห็นได้แจ่มชัดที่สุดเลย ส่วนป้ายอื่นๆ อาจจะมีแนวภูเขามาบังบ้าง ฉะนั้นถ้าใครอยากถ่ายรูปฟูจิซังแบบใหญ่ๆ เต็มๆ เฟรม แนะนำป้ายนี้เลย เด็ด!

แนะนำจากใจ ถึงแม้คาวากูจิโกะจะเป็นเมืองที่สามารถวางแผนแบบ One Day Trip จากโตเกียวไปเที่ยวเช้า – เย็นกลับได้แบบสบาย แต่เราว่านอนค้างสักคืนจะได้ความรู้สึกที่เต็มอิ่มมากกว่านะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่หวังจะได้เห็นฟูจิซังแบบเต็มตาโดยที่ไม่มีเมฆหมอกมาบัง เพราะจริงๆ แล้วฟูจิซังเขาเป็นภูเขาไฟขี้อายนะ โอกาสที่จะได้เห็นนี่ไม่ใช่มีมากมาย จากประสบการณ์ที่เราไปแบบ 2 วัน 1 คืน วันที่เดินทางไป สภาพอากาศเลวร้ายแบบฝนตกไม่ลืมหูลืมตา แต่เช้ามาอากาศกลับสดใสไร้เมฆ ถ่ายรูปฟูจิซังจนสะใจเลย ฉะนั้นนอนค้างสักคืนก็จะยิ่งมีโอกาสเห็นฟูจิซังเพิ่มขึ้นไปอีกด้วยน้า โดยโรงแรมรอบทะเลสาบคาวากูจิโกะก็มีให้เลือกกันจนลายตาเลย ส่วนใหญ่จะเป็นแบบเรียวกัง มีออนเซ็นให้แช่ ห้องพักเป็นแบบดั้งเดิม ปูด้วยเสื่อทาทามิ พร้อมด้วยที่นอนแบบฟูตอง โรงแรมที่เราเคยไปพักคือ “New Century Hotel Kawaguchiko” โรงแรมจะอยู่ตรงกลางระหว่างป้ายที่ 12 และ 13 สามารถนั่ง Retro Bus ลงป้ายที่ 12 และเดินอีกนิดหน่อย ส่วนราคาก็เริ่มต้นประมาณ 3,400 บาทต่อคน / คืน

ภาพนี้คือวิวที่มองออกมาจากห้องพัก วันฟ้าใสก็จะสามารถเห็นฟูจิซังชัดแจ๋วเลย