The Ultimate Guide to travel Singapore : เปิดคัมภีร์ เที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเอง

เปิดคัมภีร์ เที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเอง

พร้อมแชร์ 3 จุดเช็คอินสุดพีคที่ต้องปักหมุดเมื่อไปสิงคโปร์!

The Ultimate Guide to travel Singapore

- January, 2019 -

ในขณะที่บนโลกใบนี้มีแลนด์มาร์กแห่งใหม่เกิดขึ้นมากมาย “สิงโตพ่นน้ำ” แลนด์มาร์กของประเทศสิงคโปร์ อาจถูกนักเดินทางรุ่นใหม่ลบลืมหรือมองข้ามไป แต่นักเดินทางยุค 90 อย่างเรา จดจำภาพสิงโตพ่นน้ำได้ชัดเจนเสมอ .. สิงคโปร์ เปรียบเสมือนโรงเรียนประถมสำหรับคนอยากเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก จำได้ว่าใครๆ ก็อยากบินไปแอ๊คท่าถ่ายรูปอ้าปากหรือสระผมใต้น้ำที่พ่นออกมาจากปากของสิงโตเมอร์ไลออน ฉะนั้นสิงคโปร์จึงกลายเป็นประเทศที่ถูกบัญญัติเข้าลิสต์ “ประเทศที่ต้องไป” ไปโดยปริยาย เราก็เลยอยากแชร์ข้อมูลการเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเองเอาไว้ให้นักเดินทางรุ่นต่อๆ ไปได้เก็บไว้ตามรอย .. ประเทศนี้เที่ยวเองไม่ยากเลย ใครที่กำลังคิดแบกเป้เที่ยวต่างประเทศครั้งแรก ต้องปักหมุดที่สิงคโปร์!

เหตุผลง่ายๆ ที่ควรไปเที่ยวสิงคโปร์

สิงคโปร์ เป็นประเทศที่มีโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินราคาถูกออกมาบ่อยมากกก บางช่วงราคาถูกกว่าบินไปต่างจังหวัดซะอีก! ที่สำคัญยังใช้เวลาเดินทางไม่นาน แค่ประมาณสองชั่วโมงนิดๆ เท่านั้น จึงเหมาะสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นเที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก แม้จะเป็นประเทศเล็กๆ แต่บ้านเมืองก็สะอาดสะอ้าน ระบบคมนาคมสะดวกสบาย เดินทางเที่ยวเองได้ง่าย ไม่ซับซ้อน สิ่งที่เราชอบมากที่สุดก็คือในความทันสมัยของสิ่งปลูกสร้างทั้งหลายนั้นยังคงแทรกแซมไปด้วยพื้นที่สีเขียวเยอะมาก สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีสวนสาธารณะให้แวะพักแทบทุกหย่อมหญ้า ด้วยความที่มีต้นไม้เยอะก็เลยช่วยลดอุณหภูมิร้อนๆ ลงไปได้นีสนึง (อย่างน้อยก็มีร่มเงาให้หลบแดด) ที่สำคัญใครเป็นช่างภาพสาย Cityscape เราว่าไปแล้วต้องชอบสิงคโปร์ เพราะประเทศนี้มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปเยอะไม่แพ้ฮ่องกงเลย

คนไทยไปสิงคโปร์ต้องขอวีซ่าไหม?

แน่นอนว่าสิงคโปร์ก็เป็นหนึ่งในประเทศฟรีวีซ่ายอดนิยมสำหรับคนไทย เราจึงบอกว่าสิงคโปร์เหมาะสำหรับการไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกมาก เพราะคนไทยสามารถเดินทางท่องเที่ยวอยู่ในประเทศสิงคโปร์ได้ถึง 30 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่า แถม ตม. ก็ผ่านค่อนข้างง่าย เพราะคนไทยไปเที่ยวเยอะอยู่แล้ว ตอนเราไป ตม. ก็ไม่ได้ถามอะไรสักคำ ปั๊มผ่านอย่างรวดเร็ว แต่สำหรับคนที่ไปครั้งแรกแล้วกังวล แนะนำว่าเตรียมตอบคำถามง่ายๆ เช่น อยู่กี่วัน หรือเตรียมแผนเที่ยวเอาไว้เผื่อ ตม. ถามก็ดีจ้า

เวลา และสภาพอากาศของประเทศสิงคโปร์

ถึงแม้จะตั้งอยู่ไม่ไกลจากประเทศไทยเท่าไร แต่เวลาของสิงคโปร์ก็เร็วกว่าบ้านเรา 1 ชั่วโมง ฉะนั้นอย่าลืมปรับเวลากันด้วยนะ ส่วนสภาพอากาศและฤดูกาลนั้นไม่ต้องคาดเดาอะไรมากมายเหมือนประเทศอื่น เพราะสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีอากาศร้อนชื้นแทบตลอดทั้งปี แถมยังขึ้นชื่อเรื่องฝนตกบ่อยติดอันดับต้นๆ ของโลกด้วย ฉะนั้นสามารถแต่งตัวชิลๆ เหมือนเที่ยวในประเทศไทยได้เลย ส่วนตัวเราแอบรู้สึกว่าสิงคโปร์ร้อนกว่าไทยอยู่หน่อยนึง แต่ด้วยความที่บ้านเขาต้นไม้เยอะ ก็เลยจะมีร่มเงาให้หลบมากกว่ากรุงเทพฯ แต่เวลาไปเที่ยวเตรียมร่มติดไปด้วยก็ดี เผื่อฝนตกค่ะ : )

สายการบิน และราคาตั๋วเครื่องบินเฉลี่ยในการบินไปสิงคโปร์

เพราะใช้เวลาแค่ประมาณ 2.30 ชั่วโมง จากประเทศไทยถึงสนามบินชางฮี (Singapore Changi Airport) หนึ่งในสนามบินที่ดีที่สุดในโลก! ฉะนั้นจึงมีสายการบินที่ให้บริการบินตรงให้เลือกมากมาย ไม่จำเป็นต้องเลือกบินแบบต่อเครื่องเลย โดยราคาตั๋วเครื่องบินเฉลี่ยสำหรับการบินไปสิงคโปร์ปกติจะเริ่มต้นที่ 3,xxx – 8,xxx บาท แล้วแต่สายการบิน อาจมีโปรฯ 2,5xx บาท หลุดมาให้ตาลุกวาวบ้างแต่ก็น้อยมาก ถ้าหาได้ประมาณ 3,5xx – 4,xxx บาท ก็ถือว่าถูกมากแล้ว โดยสายการบินที่ให้บริการเส้นทางบิน BKK – SIN จะมีทั้งสายการบินแบบ Full Service และ Low Cost ฉะนั้นเวลาจองตั๋วอย่าลืมดูให้ดีๆ นะ เพราะถ้าเป็น Low Cost ราคาส่วนใหญ่จะยังไม่รวมค่าน้ำหนักกระเป๋าและที่นั่ง แต่ถ้าใครสัมภาระไม่เยอะ จะแบกเป้ขึ้นเครื่องโดยไม่โหลดกระเป๋าก็ได้ แต่น้ำหนักต้องไม่เกิน 7 กิโลกรัมนาจา

สายการบิน Full Service

ราคาเฉลี่ย : 6,xxx – 8,xxx บาท
หมายเหตุ : รวมน้ำหนักกระเป๋าสำหรับโหลดใต้ท้องเครื่อง อาหาร และที่นั่งเรียบร้อยแล้ว

การบินไทย (Thai Airways)
Singapore Airlines
Cathay Pacific

สายการบิน Low Cost

ราคาเฉลี่ย : 3,xxx – 5,xxx บาท
หมายเหตุ : ยังไม่รวมน้ำหนักกระเป๋าสำหรับโหลดใต้ท้องเครื่อง ที่นั่ง และอาหาร สามารถซื้อเพิ่มได้ตอนจองตั๋วเครื่องบิน

Thai Lion Air
Jetstar Asia
Nokscoot
AirAsia

วิธีการเดินทางเข้าเมืองจากสนามบินชางฮี

1. เดินทางเข้าเมืองด้วย MRT
จากสนามบิน มีรถไฟใต้ดิน MRT East West Line (สายสีเขียว) วิ่งสู่สถานีต่างๆ ภายในตัวเมืองสิงคโปร์ โดยสถานี Changi Airport จะตั้งอยู่ที่เทอร์มินอล 2 ใครที่ลงเทอร์มินอลอื่นก็สามารถใช้บริการรถไฟวิ่งระหว่างเทอร์มินอลได้ฟรี แล้วเดินตามป้าย Train to City มารอขึ้นรถไฟไปลงที่สถานี Tanah Merah แล้วต่อรถไฟไปลงยังสถานีปลายทางตามที่พักที่จองไว้ได้เลย เช็คราคาล่วงหน้าได้ที่ลิงก์นี้ > Click <

** ทั้งนี้รถไฟใต้ดินจะให้บริการตั้งแต่เวลา 5.30 – 23.18 น. ฉะนั้นถ้าใครเดินทางด้วยสายการบินที่ถึงสิงคโปร์หลังจากเวลา 23.00 น. ก็สามารถใช้บริการ Airport Shuttle Bus แทนได้ค่ะ **

2. เดินทางเข้าเมืองด้วย Airport Shuttle Bus
ใครมีไฟลท์บินมาถึงสิงคโปร์ช่วงดึก สามารถใช้บริการ Airport Shuttle Bus แทนรถไฟใต้ดินได้ โดยสามารถติดต่อได้ที่ Counter Ground Transport Desk ซึ่งจะมีอยู่ทุกเทอร์มินอล แจ้งชื่อโรงแรมกับเจ้าหน้าที่แล้วจ่ายค่ารถคนละ 9$ รถจะพาไปส่งถึงหน้าโรงแรมเลย (ยกเว้นบางโรงแรมที่อยู่นอกพื้นที่ให้บริการ สอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ก่อนได้เลย) รายละเอียดเพิ่มเติมคลิกลิงก์เลยจ้า > Click <

สกุลเงิน และค่าครองชีพของประเทศสิงคโปร์

สิงคโปร์ใช้สกุลเงิน ดอลลาร์สิงคโปร์ (SGD) ปัจจุบันค่าเงินอยู่ที่ 1 SGD เท่ากับ 23 – 24 บาท ซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่มีค่าครองชีพสูงทีเดียว ฉะนั้นถึงแม้จะได้ตั๋วเครื่องบินราคาถูก แต่ส่วนใหญ่ก็จะมาเปลืองงบประมาณกับค่าที่พัก เพราะค่าโรงแรมค่อนข้างแพง อาหารการกินก็ราคาไม่เบา อาจจะหาวิธีประหยัดด้วยการกินข้าวตามศูนย์อาหาร หรือพกขวดน้ำเล็กๆ ติดไปด้วย เพราะน้ำปะปาที่ประเทศสิงคโปร์สามารถดื่มได้ ตามร้านอาหารที่มีบริการน้ำดื่มฟรี เขาก็จะเอาน้ำปะปานี่แหละมาเสิร์ฟเรา แต่ส่วนตัวเราแอบรู้สึกว่าก็ยังมีรสชาติปะแล่มๆ อยู่ดี เลยชอบซื้อน้ำเปล่าเป็นขวดมากกว่า แต่ก็ต้องทำใจเพราะส่วนใหญ่จะเจอราคา 1$ ขึ้นไป แต่ขวดขนาดเท่ากับน้ำเปล่าขวดละ 7 บาท บ้านเรา T^T ส่วนค่าอาหารขั้นต่ำจะอยู่ที่จานละ 4$ ขึ้นไปจ้า  

การเดินทางในประเทศสิงคโปร์

ที่เกริ่นเอาไว้ว่าสิงคโปร์เปรียบเสมือนโรงแรมประถมสำหรับนักเดินทางที่เริ่มต้นเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกก็เพราะว่าเป็นประเทศที่มีขนาดเล็กและการเดินทางไม่ยุ่งยากซับซ้อน แทบจะเหมือนกรุงเทพฯ เกือบทุกประการ คือ มีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ให้บริการทั่วเมืองและครอบคลุมทุกสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม โดยมีเพียง 6 สาย แต่สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราจะใช้จริงๆ ก็แค่ประมาณ 2-3 สายเท่านั้น คือ East West Line (สายสีเขียว) วิ่งจากสนามบิน / North South Line (สายสีแดง) วิ่งไปย่านช็อปปิ้ง Orchard / Downtown Line (สายสีน้ำเงิน) วิ่งไป Chiatown / Bayfront สามารถดูและดาวน์โหลดแผนที่รถไฟใต้ดินของรถไฟทุกสายได้ที่ลิงก์ > Click < หรือเช็คราคาตั๋วก่อนได้ที่ลิงก์ > Click <

ปล. ประเทศสิงคโปร์เองก็มี Card หรือบัตรเหมาจ่ายที่คอยอำนวยความสะดวกสำหรับการจ่ายค่าเดินทางเหมือนประเทศอื่นๆ เรียกว่า EZ-Link Card สามารถใช้ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT รวมถึงรถบัส แท็กซี่ และใช้จ่ายค่าสินค้ากับร้านสะดวกซื้อบางแห่งได้ ใครที่ลงจากเครื่องแล้วพอมีเวลาก็หาซื้อได้ที่ Passenger Service ที่สนามบินได้เลย ราคา 12$ เป็นค่าบัตร 5$ ที่เหลือคือจำนวนเงินที่สามารถใช้ได้ ถ้าเงินในบัตรหมดก็เติมเงินได้ตามเครื่องเติมเงินอัตโนมัติหรือเติมกับพนักงานที่สถานีต่างๆ ก็ได้ ถ้าเงินเหลือสามารถขอคืนเงินจากพนักงานได้เลย แต่จะไม่ได้ค่าบัตร 5$ คืนจ้า

เที่ยวสิงคโปร์ พักย่านไหนดี?

ย่านที่พักยอดนิยมของสิงคโปร์ที่คนไทยส่วนใหญ่นิยมไปพัก คือ

  • Geylang เป็นย่านที่มีที่พักราคาไม่แพง แต่ข้อเสียคือเป็นย่านกลางคืน มีแหล่งอบายมุขค่อนข้างเยอะ
  • Chinatown เป็นย่านที่หาของกินง่าย เดินทางสะดวก เพราะอยู่ในเส้นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ซึ่งวิ่งผ่านย่านท่องเที่ยวหลายแห่ง

ทั้งนี้การเลือกที่พักอาจขึ้นอยู่กับงบประมาณด้วย เพราะบางย่านก็มีแต่โรงแรมหรูราคาแพง แต่สิ่งที่อยากให้คำนึงถึงมากที่สุดเวลาเลือกที่พักก็คือ ควรติดหรือใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน และเดินทางไป – กลับสนามบินได้สะดวกค่ะ

แถม! 3 จุดเช็คอินสุดพีคที่ต้องปักหมุดเมื่อไปเที่ยวสิงคโปร์!

Gardens by the Bay

Gardens by the Bay คือสวนสาธารณะขนาดใหญ่และทันสมัย มีโดมจัดแสดงดอกไม้และพันธุ์พืช 2 โดม คือ Flower Dome และ Cloud Forest สามารถเลือกเข้าโดมใดโดมนึงได้ ราคาจะอยู่ที่ 28$ สำหรับ 2 โดม และ 11$ สำหรับเลือกเข้าโดมเดียว ส่วนสวนสาธารณะโดยรอบสามารถเข้ามาเดินเล่น ถ่ายรูปได้ฟรี มีการแสดงแสงไฟ Supertrees Music & Lights Dancing ซึ่งจะจัดแสดงให้ชมฟรี! ทุกวัน เวลา 19.45 น. และ 20.45 น. รอบละ 15 นาที บริเวณ Supertree Grove .. ที่นี่นับเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของสิงคโปร์ที่ไม่ว่ายังไงก็ต้องปักหมุด!

ถ้าอยากขึ้นไปเดินบน OCBC Skyway ก็ต้องเสียค่าตั๋วเพิ่ม ราคา 6$ ต่อคนจ้า

วิธีการเดินทาง : รถไฟใต้ดิน Downtown Line สายสีน้ำเงิน ลงสถานี Bayfront (Exit B) แล้วเดินตามทางเชื่อมใต้ดินไปเรื่อยๆ จะออกมาสู่ทางเข้า Gardens by the Bay

Marina Barrage

เป็นอีกหนึ่งจุดที่แนะนำแรงๆ เพราะสามารถมองเห็นและเก็บช็อตได้ครบทุกจุดแลนด์มาร์กของสิงคโปร์ ทั้ง Supertree Grove, Marina Bay Sands รวมไปถึงชิงช้าสวรรค์ Singapore Flyer โดยบริเวณเขื่อนมารีนาแห่งนี้จะเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวสิงคโปร์ โดยเฉพาะช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ที่นี่จะเต็มไปด้วยครอบครัวหลากหลายรุ่นที่พากันมาปูเสื่อปิกนิค เราว่าเป็นภาพอีกมุมของประเทศสิงคโปร์ที่น่ารักมาก ตรงจุดนี้สามารถเดินจาก Gardens by the Bay ไปได้ หรือจะทุ่นแรงขาด้วยการปั่นจักรยานไปก็ได้ ที่สิงคโปร์เขามีจักรยานสาธารณะแบบไร้สถานี คือ จอดคืนตรงไหนก็ได้ สะดวกมากกก ลองอ่านรีวิวเพิ่มเติมที่เราเคยเขียนไว้ได้จากลิงก์นี้เลย > Click <

Merlion Park

เยือนแลนด์มาร์กแห่งใหม่แล้วก็อย่าลืมแลนด์มาร์กแห่งเก่าสุดคลาสสิกของประเทศสิงคโปร์อย่าง ‘สิงโตพ่นน้ำ’ ที่ Merlion Park ซึ่งเราแนะนำให้ตื่นแต่เช้าตรู่สักวัน แล้วรีบไปให้ถึง Merlion Park ก่อนเวลาพระอาทิตย์ขึ้น เพราะตรงนี้เป็นอีกหนึ่งจุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นได้อย่างสวยงาม แถมช่วงเช้าคนยังไม่ค่อยเยอะ ส่วนใหญ่เป็นช่างภาพที่มาตั้งกล้องถ่ายรูปแสงเช้า และคนสิงคโปร์ที่มาวิ่งออกกำลังกาย นับเป็นบรรยากาศที่สโลว์ไลฟ์ ผิดจากสิงคโปร์ในช่วงกลางวันมากทีเดียวจ้า

วิธีการเดินทาง : รถไฟใต้ดิน East West Line สายสีเขียว หรือ North South Line สายสีแดง ลงสถานี Raffles Place ทางออก H เดินผ่านโรงแรม Fullerton เลียบแม่น้ำไปเรื่อยๆ ประมาณ 5 – 10 นาที

Niichiiz *
Niichiiz *https://movearound-journey.com
IG : https://www.instagram.com/niichiiz13

Related Stories

Discover

รวม 10 พิกัด ที่เที่ยวเซี่ยงไฮ้ ถ่ายรูปสวยชิค

หลังจากจีนฟรีวีซ่าก็ทำเอาเราหยุดเที่ยวจีนไม่ได้เลย หลงเสน่ห์ประเทศนี้เข้าเต็มเปา! ใครที่กำลังลังเลใจ กล้าๆ กลัวๆ ว่าจะไปเที่ยวจีนด้วยตัวเองครั้งแรกดีมั้ย? แนะนำลองจองตั๋วบินไปเที่ยว “เซี่ยงไฮ้” ก่อนเป็นที่แรกเลยค่ะ เพราะเที่ยวง่าย การเดินทางสะดวกสบาย มีรถไฟใต้ดินไปถึงทุกที่ บ้านเมืองสะอาดสะอ้าน ไฮเทค...

วิธีขึ้นรถไฟความเร็วสูงประเทศจีน สำหรับเดินทางข้ามเมือง

หลังจากจีนฟรีวีซ่าให้คนไทยได้เข้าไปเที่ยวประเทศจีนอย่างสะดวกโยธินมากยิ่งขึ้นแล้ว เชื่อว่ามีสายเที่ยวหลายคนที่กำลังเมียงมองประเทศจีนไว้เป็นหนึ่งใน Destination List อาจจะตั้งคำถามว่า เที่ยวจีนด้วยตัวเองยากมั้ย? เราอยากจะย้ำความมั่นใจให้ว่า "เที่ยวจีนด้วยตัวเองไม่ยากอย่างที่คิด" เลยค่ะ โพสนี้เราก็เลยอยากมาแชร์ วิธีขึ้นรถไฟความเร็วสูงประเทศจีน ไว้ให้เป็นข้อมูล สำหรับคนที่มีแพลนอยากไปเที่ยวจีนด้วยตัวเอง อยากจะบอกว่าการเดินทางไปเมืองใกล้เคียงด้วยรถไฟความเร็วสูงนั้นเป็นวิธีที่คนจีนใช้กันเป็นเรื่องปกติมากๆ...

รีวิว ซัวเถา (Shantou) กิน เที่ยว มู รับเฮงปีมังกร 3 วัน...

ยินดีกับนักท่องเที่ยวไทยทุกคนที่กำลังจะมีประเทศฟรีวีซ่าให้เที่ยวเพิ่มอีกหนึ่งประเทศแล้ววว นั่นก็คือ “ประเทศจีน” นั่นเอง โพสนี้ก็เลยจะขอพาไปเปิดม่านเมือง "ซัวเถา" บ้านเกิดของคนไทยเชื้อสายจีนในอดีตที่โล้สำเภาเดินทางแบบเสื่อผืนหมอนใบมาตั้งรกรากในประเทศไทย จะขอพาไป กิน เที่ยว มู ในเมืองซัวเถา และแต้จิ๋ว หนึ่งในที่เที่ยวเมืองจีนที่เหมาะสำหรับคนที่เริ่มต้นเที่ยวเมืองจีนด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกแบบเราที่สุด...

รีวิว Sea Season Pool Villas ที่พักสวยติดทะเลพัทยา

วันหยุดว่างๆ ทีไร เราล่ะชอบพาตัวเองไปพักผ่อนชิลๆ ที่พัทยามากจริงๆ อาจเพราะเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปไม่ไกล ก็ได้นั่งมองทะเลสวยๆ แล้ว โพสนี้ก็เลยอยากมารีวิวที่พักติดทะเลพัทยาที่เพิ่งไปมาแล้วชอบมากอย่าง Sea Season Pool Villas Pattaya...

รีวิว เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) อัพเดทมุมถ่ายรูปชิค

นี่คือการมาเที่ยว “เซี่ยงไฮ้” ประเทศจีน เป็นครั้งแรกในชีวิตของเรา อยากจะบอกว่าเปิดมุมมองมากกก เซี่ยงไฮ้เป็นเมืองไวบ์ดีกว่าที่คิด ไลฟ์สไตล์ของที่นี่ก็ชิลสุดอะไรสุด บ้านเมืองสะอาดสะอ้าน มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เยอะ ที่สำคัญคือเป็นประเทศจีนที่เที่ยวง่ายมากค่ะ มีรถไฟใต้ดินหลายสาย การเดินทางไม่ซับซ้อน คนจีนที่นี่ส่วนใหญ่สื่อสารภาษาอังกฤษง่ายๆ...

แผนเที่ยวฟุกุอิ (Fukui) ดื่มด่ำธรรมชาติ ย่ำรอยประวัติศาสตร์ ในเมืองสุดอันซีนของญี่ปุ่น

แผนเที่ยวฟุกุอิ เล่มนี้ จะพาคุณนั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปสูดกลิ่นอายอดีต ย่ำรอยประวัติศาสตร์ที่น่าค้นหาของแดนปลาดิบ พร้อมดื่มด่ำกับธรรมชาติให้ฉ่ำปอด ในจังหวัดสุดอันซีนที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทรงเสน่ห์อย่าง ‘ฟุกุอิ’ ฟุกุอิ เป็นจังหวัดที่มีเสน่ห์หลายหลากซุกซ่อนไว้อย่างคาดไม่ถึง ที่นี่เป็นที่ตั้งของศูนย์กลางการวิจัยฟอสซิลไดโนเสาร์ ซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง ‘Fukui Prefectural Dinosaur Museum’...

Popular Categories

Comments