Little Japan in Chiang Mai : รวบ 7 จุดเช็คอิน “เชียงใหม่” ไม่ใช่ญี่ปุ่น แต่ได้ฟีลโอะฮาโยสุดๆ

แอบรู้สึกมานานแล้วว่า “จังหวัดเชียงใหม่” มีกลิ่นอายบางอย่างที่ทำให้นึกถึง “ญี่ปุ่น” รวมไปถึงคนญี่ปุ่นเองหลายคนก็ใฝ่ฝันว่าอยากมีใช้ชีวิตบั้นปลายอยู่ที่เชียงใหม่ด้วย พอตั้งใจลองมองหาเหตุผลดูดีๆ ถึงได้เห็นเสน่ห์บางอย่างของเชียงใหม่ที่มีความใกล้เคียงเมืองชนบทที่ญี่ปุ่นมาก โดยเฉพาะคาเฟ่หลายที่ที่เห็นแล้วอดเข้าใจผิดไม่ได้ว่า เอ๊ะ นี่อยู่ที่ญี่ปุ่นหรือเปล่า!? เราก็เลยอยากรวบรวมสถานที่ที่มีฟีลโอะฮาโยในเชียงใหม่ เอามาฝากไว้ให้คนที่คิดถึงญี่ปุ่น ปีนี้ยังไปเที่ยวญี่ปุ่นไม่ได้ ก็เที่ยวเชียงใหม่ไปพลางๆ ก่อนแล้วกันนะ รับรองชิคไม่แพ้ญี่ปุ่นเลย

การเดินทางไปเชียงใหม่

ทริปนี้เลือกบินกับสายการบิน Thai Smile อีกเช่นเคย เพราะเช็คราคาจากหลายๆ สายการบินแล้วก็ยังถูกที่สุดในช่วงที่เราเดินทาง อยากจะบอกหลายคนที่คิดว่าสายการบิน Full Service แพง เราอยากให้ลองเปรียบเทียบราคาก่อนตัดสินใจจองสายการบินโลว์คอสต์ เพราะหลายครั้งถ้ารวมค่าน้ำหนักกระเป๋า ค่าที่นั่ง เผลอๆ บินโลว์คอสต์ยังแพงกว่าอีกน้า วิธีการเปรียบเทียบราคาก็ไม่ยาก แค่จองตั๋วเครื่องบินผ่าน Traveloka เพราะเขามี Feature ให้เราเทียบราคา และโปรโมชั่นจากสายการบินต่างๆ เพื่อให้เราเลือกราคาที่ดีที่สุด/ถูกที่สุดได้ ไม่ต้องไปเปรียบเทียบเองให้เหนื่อย โดยสามารถลองเข้าไปเปรียบเทียบราคากับสายการบินได้ที่นี่เลยจ้า > Click <

จองตั๋วเครื่องบินไปเชียงใหม่กับ Traveloka

ถึงเชียงใหม่แล้วเราก็เช่ารถขับเหมือนเดิม เพราะสะดวกและอิสระกว่า สำหรับรถเช่า เราก็จองผ่าน Traveloka อีกเช่นกัน คือแค่คลิกเข้าเว็บไซต์ทราเวลโลก้าแค่คลิกเดียว ก็มีครบทุกพาร์ทเกี่ยวกับการเดินทางแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ตั๋วเครื่องบิน โรงแรม รถเช่า รวมไปถึงกิจกรรมและทัวร์ต่างๆ ที่เป็นไฮไลท์ของแต่ละจังหวัดที่เราเดินทางไป สะดวก ครบครันแบบสุดๆ เอาละ .. ในเมื่อตั๋วพร้อม รถพร้อม ก็ได้เวลาไปสัมผัสความญี่ปุ่นที่เชียงใหม่กันแล้ววว ~

จองรถเช่าเชียงใหม่ กับ Traveloka

Mori Natural Farm

ฟาร์มสเตย์ชื่อดังที่ห้องพักคิวแน่นยาวแบบข้ามปีกันไปเลย ฉะนั้นขอออกตัวก่อนเลยว่า มนุษย์เชื่องช้าอย่างเรานั้น .. จองไม่ทันแน่นอน 555 แต่โชคดีที่เขามีโซนคาเฟ่เปิดรับคนที่ไม่ได้มาเข้าพักด้วย เราก็เลยอยากลองไปสัมผัสบรรยากาศด้วยตัวเองหน่อยสิว่าจะเหมือนญี่ปุ่นอย่างที่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างหรือเปล่า?

Mori Natural Farm ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาที่อำเภอแม่ริมค่ะ ขับรถจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปประมาณหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น อันที่จริงที่นี่เขาจะมีบ้านพักทั้งหมด 4 หลัง ซึ่งออกแบบตกแต่งแตกต่างกันไป แต่จะมีบ้านเรียวกังที่ได้ฟีลญี่ปุ่นสุดๆ แน่นอนว่าจองยากสุดๆ เช่นกัน วันที่เราไปก็มีคนเข้าพักค่ะ แต่มองไม่เห็นเจ้าของบ้านก็เลยแอบถ่ายบรรยากาศรอบๆ ตัวบ้านมาสักหน่อย เออ ญี่ปุ่นจริงด้วยแฮะ ให้อารมณ์เหมือนบ้านพักตามชนบทที่เมืองเกียวโตยังไงยังงั้นเลย

สำหรับโซนคาเฟ่นั้นจะตั้งอยู่ด้านบนสุดเลยค่ะ ต้องเดินจากจุดจอดรถไปอีกประมาณ 5-10 นาที ผ่านบ้านพักของโมริ เนเชอรัลฟาร์มไปนี่แหละ แต่โซนที่พักเขาจะปักป้ายไว้ว่าเป็นพื้นที่สำหรับแขกที่มาเข้าพักเท่านั้น บรรยากาศก็เลยไพรเวทพอสมควรเลย ถ้ามีโอกาสก็น่ามาพักสักคืนค่ะ (ถ้าจองทัน 5555)

มีกฎเล็กน้อยสำหรับคนที่มาคาเฟ่ว่า ต้องสั่งอาหาร + เครื่องดื่มแบบจับคู่ ถึงจะไม่เสียค่าเข้าสถานที่ 50 บาท เพราะรวมอยู่ในค่าอาหารแล้ว สำหรับใครที่อยากมาถ่ายรูปหรือสัมผัสบรรยากาศที่ฟาร์มโดยไม่สั่งอาหาร ทางฟาร์มขอเก็บค่าบำรุงสถานที่ 50 บาท ซึ่งรายได้บางส่วนจะนำไปช่วยน้องหมาตามมูลนิธิด้วยค่ะ ส่วนเมนูอาหารนั้นก็มีทั้งคาว หวาน ถ้ายังไม่กินข้าวมาจะสั่งเซ็ตอาหารญี่ปุ่นก็ได้ หรือถ้าอิ่มมาแล้ว จะสั่งของกินเล่นอย่างเช่น เกี๊ยวซ่า หรือขนมหวาน คู่ชาสักแก้วแบบเราก็ได้จ้า

ไฮไลท์อีกอย่างของที่นี่ก็คือน้องหมาพันธุ์อาคิตะที่ทางฟาร์มเลี้ยงไว้ ซึ่งทางฟาร์มอยากให้ช่วยย้ำว่าที่นี่ไม่ใช่คาเฟ่หมา ฉะนั้นอย่าคาดหวังว่ามาถึงแล้วจะเจอน้องหมาทุกครั้งน้า เราจะได้เจอก็ต่อเมื่อเจ้าของพาน้องออกมาเดินเล่นเท่านั้นค่ะ ซึ่งเท่าที่อ่านรีวิวมาเขาบอกว่าจะเจอกันช่วงเช้าไม่ก็ช่วงเย็น ส่วนตัวเราไปถึงประมาณ 4 โมง ก็เจอน้องมิกิที่ราศีไอดอลจับมากกก พอมิกิมาถึงร้านเท่านั้น ทุกคนพากันลุกออกจากโต๊ะเพื่อไปเข้าแถวถ่ายรูปกับมิกิกันทั้งร้านเลย โอ้โห อย่างกะงานจับมือ 5555

เราว่าบรรยากาศที่นี่เหมือนชนบทที่ญี่ปุ่นอยู่เหมือนกันค่ะ แต่ถ้าได้มาพักคงฟินมากกว่า สำหรับใครที่จองห้องพักไม่ทัน แวะมานั่งชิลๆ ที่คาเฟ่ได้ เดี๋ยวนี้ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 09.00 – 17.30 น. โดยไม่ต้องจองล่วงหน้าแล้วจ้า




Magokoro Teahouse

ดื่มด่ำกับบรรยากาศชนบทญี่ปุ่นไปแล้ว ขอพาย้อนกลับเข้าเมืองเชียงใหม่มาจิบมัทฉะฟินๆ กันต่อที่ Magokoro Teahouse หรือ มีใจให้มัทฉะ คาเฟ่ชาเขียวที่โด่งดังไม่แพ้ Mori Natural Farm เพราะคิวแน่นทุกวัน ฉะนั้นแนะนำให้รีบไปตั้งแต่ช่วงเช้าตอนร้านเปิดเลยนะคะ ถ้าไม่อยากรอคิวนาน เพราะเราไปถึงหลังร้านเปิดประมาณครึ่งชั่วโมง พอเข้าไปนั่งที่โต๊ะปุ๊บ คนก็เริ่มมายืนรอต่อแถวกันเพียบเลย เชื่อแล้วว่าร้านนี้เขาดังจริงอะไรจริงจ้า

ที่นั่งมีทั้งโซนอินดอร์ และเอาท์ดอร์ แต่โซนเอาท์ดอร์จะค่อนข้างได้รับความนิยม เต็มเร็วมาก เพราะอยู่ข้างๆ สวนญี่ปุ่น บรรยากาศดีทีเดียว

ไฮไลท์ของที่นี่แน่นอนว่าคือ มัทฉะ หรือ ชาเขียว ซึ่งได้ข่าวว่าทางร้านเขานำเข้ามาจากไร่ชาที่ได้รับรางวัลในประเทศญี่ปุ่นเลยค่ะ ฉะนั้นมั่นใจในคุณภาพได้ว่าแทบจะไม่ต่างที่ญี่ปุ่นเลย ในฐานะที่เราเป็นคนคลั่งมัทฉะ และไปญี่ปุ่นมาหลายครั้ง กล้าการันตีได้เลยว่ามัทฉะที่นี่รสชาติดีจริงๆ มีให้เลือกหลายเกรด และสามารถสั่งความหวานได้ตามที่ต้องการได้ด้วย คนรักชามั่นใจได้เลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่า

ที่ร้านมีขนมหวานให้สั่งด้วยนะ แต่ถ้าไปช่วงเช้าแบบเราจะยังมีให้สั่งไม่กี่อย่างค่ะ เราก็เลยสั่ง Matcha Roll หรือ โรลชาเขียว โอ๊ย อร่อยมาก รสชาติชาเข้มข้นและหวานน้อยกำลังดี เอาจริงๆ ไอศกรีมมัทฉะที่ร้านเขาก็ดังมากนะคะ เห็นว่ามีอีกหลายเมนูเลยที่น่ากิน ใครที่เป็นแฟนคลับมัทฉะคลั่งไคล้ชาเขียวแบบเรา ไปเชียงใหม่ห้ามพลาดเลยน้า ต้องไปโดนให้ได้! ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 – 18.00 น. จ้า




Kōri kōri – こおり

เอาใจคนรักมัทฉะไปแล้ว ขอหันมาเอาใจคนรักเบเกอรี่ญี่ปุ่นอย่าง “ชูครีม” ต่อ เพราะร้านนี้เขาโด่งดังเรื่องชูครีมโฮมเมดมาก แถมยังราคามิตรภาพด้วยค่ะ บางวันถ้าไปช้าหน่อย หมด อดกินเลยน้า โดยชูครีมที่ร้านมีให้เลือกทั้งหมด 5 รสชาติ คือ ครีมโกโก้ ครีมสตรอเบอรี่ ครีมนมฮอกไกโด ครีมมัทฉะ และครีมมะนาว ราคาก็น่ารัก ลูกละ 55 – 65 บาทเท่านั้น ส่วนตัวเราสั่งครีมมะนาว (65 บาท) ตัวแป้งคือเนื้อเนียนนุ่มมาก อร่อยสมคำร่ำลือค่ะ

เมนูเครื่องดื่มเขาก็มี ราคามิตรภาพสุดๆ เริ่มต้น 30 บาทเท่านั้น แต่รสชาติดีทีเดียว ที่สำคัญคือบรรยากาศร้านคาวาอิสุด บวกกับสภาพอากาศของเชียงใหม่ช่วงปลายปีแบบนี้ เผลอนึกว่าตัวเองอยู่ย่าน Kita-sando ที่โตเกียวเลย ถึงแม้ตัวร้านจะไม่ใหญ่โตอะไร แต่ได้ฟีลโอะฮาโยเต็มๆ ไปเลย ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 – 18.30 น. แต่ถ้าอยากกินชูครีมต้องรีบไปเร็วนิดนึงน้า เขาขายถึงประมาณ 16.00 น. หรือจนกว่าขนมจะหมดเท่านั้นจ้า




Nekoemon Cafe

คาเฟ่ขนาดใหญ่เอาใจคนรักญี่ปุ่นตั้งแต่ประตูทางเข้า ให้อารมณ์เหมือนยกเกียวโตมาไว้ที่เชียงใหม่ยังไงยังงั้น ร้านนี้นอกจากจะมีเมนูอาหารทั้งคาว หวาน รวมไปถึงเครื่องดื่มขายแล้ว สเปซของร้านยังกว้างขวางมาก แบ่งออกเป็นหลายโซน ซึ่งแต่ละโซนนั้นแน่นอนว่าตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นจ๋าเลย ไฮไลท์ก็คือที่นี่เขามีร้านสำหรับเช่าชุดยูกาตะเพื่อใส่ถ่ายรูปเพิ่มบรรยากาศอีกด้วย ใครที่อยากเพิ่มฟีลโอะฮาโยให้รู้สึกเหมือนอยู่ญี่ปุ่นเข้าไปอีกก็สามารถเช่าใส่เดินถ่ายรูปได้เลย

สำหรับที่นั่งนั้นมีทั้งโซนอินดอร์ และเอาท์ดอร์เลยค่ะ แต่มาเชียงใหม่ช่วงปลายปี อากาศดีๆ แบบนี้ แนะนำให้นั่งข้างนอกดีกว่า เพราะเย็นสบาย แถมยังชิลสุดๆ เนื่องจากที่นั่งด้านนอกจะตั้งอยู่ติดกับสวนญี่ปุ่นที่จัดไว้สำหรับถ่ายรูปเลย สั่งอาหารมานั่งกินให้อิ่มท้อง เสร็จก็ลุกไปถ่ายรูปต่อ ต้องเติมพลังให้เต็มที่ก่อน เพราะภายในค่อนข้างกว้างและมีมุมให้ถ่ายรูปเยอะเลย ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 09.00 – 20.00 น. จ้า




Transit Number 8

มาถึงเชียงใหม่ ถ้าไม่พามาแวะคาเฟ่ยอดฮิตติดเทรนด์นัมเบอร์วันอย่าง Transit Number 8 คงไม่ได้ ยิ่งใครเป็นสายไอจีด้วยแล้ว ถ้าไม่มีรูปเช็คอินที่นี่คงถูกครหาว่ามาไม่ถึงเชียงใหม่แน่ อ้ะ แต่ถึงจะเป็นร้านดังแต่ก็ถือว่าไม่ผิดคอนเซปต์จุดเช็คอินฟีลญี่ปุ่นของเรานะ เพราะที่นี่มีมุมถ่ายรูปฟีลญี่ปุ่นให้แชะหลายมุมเลย โดยเฉพาะตู้กดน้ำสีแดงที่ทำให้รู้สึกถึงคิดถึงโตเกียวขึ้นมาทันที

ถ่ายรูปเสร็จก็เดินข้ามถนนมาชิมซอฟท์ครีมฝั่งตรงข้ามซะหน่อย อยากจะบอกว่า เฮ้ย มันอร่อยเกินคาดมาก ตอนเราไปเหลือแค่มัทฉะรสเดียว แต่เป็นชาเขียวที่เข้มข้นมาก ราคาแค่ 50 บาทเท่านั้น ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00 – 18.00 น. จ้า




Undostudio

มาต่อกันอีกร้านที่ต้องบอกว่าได้ฟีลญี่ปุ่นผสมเกาหลีนิดๆ แต่ความมินิมอลเก๋ไก๋นี่มาเต็ม คือเก๋ตั้งแต่ที่ตั้งของร้านแล้วจริงๆ เพราะตั้งอยู่บนดาดฟ้าของโกดัง ทางเข้าอาจจะลึกลับซับซ้อนนิดๆ เพราะถ้าไม่เคยอ่านรีวิวมาก่อนจะไม่มีทางรู้เลยว่ามีคาเฟ่อยู่ตรงนี้ด้วย แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะหลงทางหรือไปไม่ถูกนะคะ เพราะเขามีป้ายบอกชัดเจน สามารถจอดรถด้านล่างแล้วเดินตามป้ายขึ้นไปได้เลย (ที่จอดรถมีจำกัด แนะนำไปช่วงเช้าสักหน่อย ช่วงเย็นๆ คนค่อนข้างเยอะค่า)

สำหรับที่นั่งมีทั้งโซนอินดอร์ และเอาท์ดอร์ค่ะ แต่ถ้าคนไม่แน่นจริงๆ แนะนำนั่งข้างในแล้วค่อยออกไปถ่ายรูปดีกว่า เพราะมุมที่นั่งด้านนอกมีคนอยากมาถ่ายรูปค่อนข้างเยอะค่ะ แล้วแดดก็อาจจะแรงด้วย ส่วนเมนูมีทั้งเครื่องดื่ม และขนมหวาน แนะนำ Lemon Tiramisu อร่อยมาก เปรี้ยวนิดๆ กำลังดี กินคู่ชาอัญชัน อร่อยลงตัวเลย อ้อ ร้านปิดทุกวันอังคารนะคะ ส่วนวันอื่นๆ เปิดตั้งแต่ 08.00 – 17.00 น. จ้า




Kumo Bake

ขอปิดท้ายด้วยร้านเบเกอรี่สุดคาวาอิที่ต้องบอกว่าถึงแม้ร้านจะจะเล็กแต่ก็เล็กพริกขี้หนูจริงๆ ค่ะ เพราะขนมอร่อยมากกก ซึ่งที่ร้านจะมีแค่เบเกอรี่ขายอย่างเดียวนะคะ แต่ก็มีคาเฟ่อีกร้านตั้งอยู่ข้างๆ กัน สามารถสั่งเครื่องดื่มจากร้านข้างๆ มานั่งกินได้ เราสั่ง New york cheese cake อร่อยถูกปากสุดๆ หวานน้อยกำลังดี กินแล้วไม่เลี่ยน ราคาก็ไม่แพงค่ะ แถมเขายังหัก 1 บาทจากทุกเมนูเพื่อบริจาคทุกเดือนตามความเหมาะสมด้วย

ตัวร้านนี่คือฟีลญี่ปุ่นมาเต็ม ไม่บอกไม่รู้สึกว่าอยู่ย่านนากา เมกุโระ ที่โตเกียว เราว่าแค่แวะไปกินขนมอร่อยๆ ก็คุ้มแล้วค่ะ ร้านปิดทุกวันพุธ ส่วนวันอื่นๆ เปิดตั้งแต่ 10.00 – 17.00 น. ค่า

Niichiiz *
Niichiiz *http://www.movearound-journey.com
IG : https://www.instagram.com/niichiiz13

Related Stories

Discover

เที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ 3 วัน 2 คืน ในนางาซากิ คิวชู

เราเคยไปเที่ยวคิวชูมาทั้งหมดสามครั้ง แต่ไม่เคยเห็นนางาซากิอยู่ในสายตา ล่าสุดเลยลองแวะไปนอนเล่นสัก 2-3 คืน ไปแบบไม่มีแผนเที่ยว อะไรในหัว นอนตื่นสายๆ เดินเล่นไปเรื่อยๆ เปื่อยๆ เมื่อยก็ขึ้นรถราง กระโดดขึ้นรถเมล์บ้าง ถ่ายรูปบ้านเมืองที่ลดหลั่นเป็นเอกลักษณ์ หาคาเฟ่นั่งพักกินกาแฟแล้วเดินเล่นต่อ...

ไอเดียเที่ยวเกียวโต 2 วัน 1 คืน เดินทางชิลๆ เปลี่ยนฟีลจากโอซาก้า

เกียวโต เมืองหลวงเก่าแห่งวัฒนธรรมของภูมิภาคคันไซ ได้ลองไป เที่ยวเกียวโต อีกครั้งก็ยังชอบ เพราะเป็นเมืองที่มีเสน่ห์มากจริงๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนักท่องเที่ยวถึงแน่นมหาศาลตลอดกาล เพราะมีดีทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรมเลย เรามีโอกาสได้ลองไปเที่ยวเกียวโตมาสองฤดู คือ ช่วงซากุระ และใบไม้เปลี่ยนสี สวยได้ฟีลคนละแบบเลยค่ะ แต่อากาศใกล้เคียงกันอยู่นะ...

นั่งรถไฟเที่ยว Kamakura-Enoshima อีกหนึ่งที่เที่ยวใกล้โตเกียวที่มองเห็นฟูจิซัง!

ใครกำลังมองหาที่เที่ยวใกล้โตเกียว ลองจัดแพลนชิลๆ สักครึ่งวัน นั่งรถไฟไปเที่ยวจังหวัดคานางาวะ (Kanagawa) กันดีกว่า ฟังจากชื่ออาจจะไม่ค่อยคุ้นหูใช่ไหมคะ แต่อันที่จริง คานางาวะคือจังหวัดที่หลายคนคุ้นเคยมากเลยนะ เพราะคานางาวะเป็นจังหวัดที่ตั้งของเมืองฮาโกเน่ (Hakone) และโยโกฮามา (Yokohama) สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของญี่ปุ่นนั่นเอง...

Mojiko Retro เมืองท่าบรรยากาศยุโรป อีกหนึ่งเมืองถ่ายรูปสวยในคิวชู

ใครที่กำลังมองหาแพลนเที่ยว One Day Trip ชิลๆ จากฟุกุโอกะ แนะนำให้ปักหมุดที่เมืองนี้เลยค่ะ Mojiko Retro เมืองท่าที่บรรยากาศโรแมนติกแบบเกินเบอร์! ตั้งอยู่ในเมืองคิตะคิวชู (Kitakyushu) ซึ่งอยู่ห่างจากฟุกุโอกะเพียงนิดเดียวเท่านั้น สามารถนั่งรถไฟมาเที่ยวแบบเช้า...

รวม 9 มุมถ่ายรูปภูเขาไฟฟูจิ แบบสวย Unseen ไม่ซ้ำใคร

เคยมีคำถามกับตัวเองตอนไปญี่ปุ่นครั้งแรกว่า “ทำไมคนเขาถึงตื่นเต้นกับภูเขาไฟฟูจินักหนานะ” ถึงกับพูดกันปากต่อปากว่า ถ้าไปญี่ปุ่นครั้งแรกแล้วได้เห็นฟูจิซัง ก็จะได้ไปญี่ปุ่นซ้ำอีก ทำไมภูเขาไฟลูกนี้ถึงสำคัญกับคนญี่ปุ่นมากขนาดยกให้เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่เปรียบเสมือนศูนย์รวมพลังใจของประเทศญี่ปุ่น .. เราไม่เคยเข้าใจ จนกระทั่งได้ไปเห็นภูเขาไฟฟูจิด้วยตาตัวเอง จากคนที่เคยมีคำถามมากมายในวันนั้น รู้สึกตัวอีกที เราก็กลายมาเป็นคนที่ตามล่าหามุมถ่ายรูปภูเขาไฟฟูจิแบบ Unseen เหมือนช่างภาพคนญี่ปุ่นบางคนที่ทุ่มเททั้งชีวิตถ่ายแต่รูปฟูจิซังแล้วล่ะโพสต์นี้ก็เลยอยากมาแชร์...

วิธีลงทะเบียน Visit Japan Web แบบละเอียด พร้อมอัพเดทขั้นตอนเข้าประเทศญี่ปุ่น

กลับมาทวงบัลลังก์ "ประเทศในฝันของคนไทย" หลังจากเริ่มกลับมาเปิดประเทศและเปิดฟรีวีซ่าให้คนไทยอีกครั้ง "ญี่ปุ่น" ก็กลายเป็นประเทศที่หลายคนปักหมุดไว้อย่างรวดเร็ว! แต่ถึงแม้ว่าจะกลับมาเปิดฟรีวีซ่าให้คนไทย 15 วัน เหมือนเดิม แต่ก็มีอะไรที่เพิ่มเติมมาจากเดิมเยอะเลยนะ โพสต์นี้เราก็เลยจะมาอัพเดทมาตรการการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นหลังกลับมาฟรีวีซ่าให้แบบละเอี๊ยดละเอียด ทุกขั้นตอนแบบ Step by...

Popular Categories

Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่