เคยได้ยินมาว่า “กาลเวลาจะพรากทุกอย่างไปจากเรา กาลเวลาอาจทำให้เราสูญเสียบางอย่าง หรือมีบางสิ่งที่อาจเปลี่ยนแปลงไป .. ตามกาลเวลา” แต่เราว่า มีสิ่งนึงที่กาลเวลาไม่อาจทำลายหรือเปลี่ยนแปลงได้ นั่นก็คือ เรื่องราวและความทรงจำ .. เหมือนบูติกโฮเทลดีไซน์สุดเท่ บรรยากาศหรูหราแต่ราคาน่าคบ ที่เพิ่งเปิดใหม่ในเมืองที่ดูเหมือนจะหยุดนิ่งไว้ในความทรงจำของใครบางคน และใครบางคนนั้นก็อยากบอกเล่าทุกเรื่องราวของเมืองตะกั่วป่าแห่งนี้ ผ่านช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนภายในโรงแรม “กาล”



Hotel Gahn คือโรงแรมน้องใหม่ล่าสุดแห่งเมืองตะกั่วป่า เขาหลัก จังหวัดพังงา ที่ถึงแม้จะไม่ได้ตั้งอยู่ติดริมทะเล แต่ก็มีบรรยากาศที่เงียบสงบสมเป็นสเปซแห่งการพักผ่อน เหมาะสำหรับคนที่อยากหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองภูเก็ตมาพักใจ

เท่ตั้งแต่ป้ายชื่อโรงแรมเลยทีเดียว

อย่างที่บอกว่าตัวโรงแรมนั้นไม่ได้อยู่ติดทะเล แต่ถ้าใครอยากฟังเสียงคลื่นก็เดินทางต่อไปไม่ไกล เพราะใกล้ๆ มีหาดนางทองที่อยู่ห่างออกไปเพียง 3 กิโลเมตร ใช้เวลาขับรถประมาณ 5 นาทีเท่านั้นเอง

ความพิเศษของหาดนางทองคือที่นี่มีหาดทรายสีดำ! ซึ่งต้องอาศัยโชคพอสมควรเลยนาจาถึงจะได้สัมผัสกับทรายสีดำ เพราะบางวันก็ดำ บางวันก็ไม่ดำ ขึ้นอยู่กับจำนวนของขี้แร่ที่จะพัดขึ้นมากับน้ำทะเล สะท้อนถึงเรื่องราวของตะกั่วป่าในอดีตได้เป็นอย่างดี เนื่องจากตะกั่วป่านั้นเคยเป็นเมืองเหมืองแร่มาก่อน ฉะนั้นใครผ่านมาแถวหาดนางทองแล้วเจอทรายสีดำก็อย่าได้แปลกใจ มันไม่ได้สกปรกแต่อย่างใด กลับกัน ยิ่งถ้ามาในช่วงปลายปีและวันไหนแดดดี แสงแดดก็จะสะท้อนหาดทรายสีดำนี้จนเกิดประกายคล้ายเพชรระยิบระยับสวยงามน่าประทับใจมากทีเดียวเชียว

พูดถึงตะกั่วป่าในอดีต ถ้าใครเป็นคนชอบเดินทางเพื่อเก็บสะสมความทรงจำ เราว่าถ้าเธอได้มาพักที่โฮเทลกาลสัก 2-3 คืน เธอจะรู้จักตะกั่วป่าดีขึ้นประหนึ่งได้เดินเข้าไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งประวัติศาสตร์ของตะกั่วป่าเลยทีเดียว เพราะคุณปีย์ เจ้าของโฮลเทลกาล มีความตั้งใจที่จะสร้างโรงแรมแห่งนี้ขึ้นเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวและวัฒนธรรมที่แสนอบอุ่นของชาวตะกั่วป่า ดังจะเห็นได้จากรายละเอียดของการออกแบบโรงแรมทั้งภายนอกและภายใน ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความนัยแฝงไว้ทั้งสิ้น

ตั้งแต่บริเวณล็อบบี้ส่วนกลางที่มีการออกแบบให้แขกผู้มาพักรู้สึกเหมือนมาเยี่ยมญาติ ทำให้เรานึกไปถึงบ้านต่างจังหวัดในสมัยก่อนที่มีโถงใต้ถุน และโต๊ะกลางวางไว้สำหรับนั่งพูดคุยหรือทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งคุณปีย์เองก็บอกว่า ผมตั้งใจให้เป็นแบบนั้นเลย เพราะโต๊ะกลางตรงล็อบบี้นี้มีทั้งหมากรุกและหนังสือวางไว้ให้แขกที่เข้าพักลงมารีแล็กซ์หรือทำกิจกรรมด้วยกันที่ตรงนี้ได้

มาถึงเหนื่อยๆ ได้ welcome drink เป็นน้ำมะตูมแบบไทยๆ ดื่มแล้วชื่นใจ หายเหนื่อยเลย

ตัวโรงแรมมีทั้งหมด 5 ชั้น เป็นบูติกโฮเทลขนาดกลางที่มีบรรยากาศอบอุ่นมาก

เราสังเกตได้ถึงความใส่ใจในการออกแบบ คือเขามีลิฟท์แต่แอบซุกซ่อนไว้เพื่อให้ความสำคัญกับกลิ่นอายของบ้านในความทรงจำ เพราะคุณปีย์เองเป็นคนตะกั่วป่ามาตั้งแต่เด็ก คุ้นเคยกับบรรยากาศบ้านๆ ในสมัยก่อน แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะถ่ายทอดเรื่องราวความคลาสสิคของเมืองตะกั่วป่าแห่งนี้ แต่ก็ไม่ทิ้งความสะดวกสบายแบบคนเมืองในสมัยใหม่ ถือเป็นการออกแบบที่ลงตัวมากๆ เลยนะเนี่ย

ถ้าใครอยากออกกำลังกาย จะเดินขึ้นบันไดก็ได้นะ

ตรงบริเวณล็อบบี้นั้นมีมุมคาเฟ่เล็กๆ ตั้งอยู่ด้วยค่ะ ใครเดินผ่านไปผ่านมา ถึงจะไม่ได้เข้าพักก็สามารถแวะมานั่งพักขาจิบกาแฟกันได



ถัดจากล็อบบี้คือ ร้านอาหารจุมโพ่ (Juumpo Family Recipes by Hotel Gahn) ซึ่งเปิดให้คนนอกที่ไม่ได้เข้าพักได้เข้ามาลิ้มรสความอร่อยของอาหารพื้นถิ่นของตะกั่วป่าด้วย

อาหารที่นี่รสชาติดีมาก เราฝากท้องที่นี่ทุกมื้อเลย ยิ่งได้มารู้ว่าสูตรอาหารนั้นเป็นสูตรที่สืบทอดมาจากก๋ง ซึ่งเป็นคุณทวดแท้ๆ ของคุณปีย์ มีดีกรีเป็นพ่อครัวที่ทุกคนต่างยกนิ้วให้ในฝีมือการทำอาหาร ยิ่งมั่นใจในรสชาติดั้งเดิมแท้ๆ แบบชาวตะกั่วป่า ไม่มีการปรับสูตรเพื่อเอาใจชาวต่างชาติ เพราะอยากให้ทุกคนได้ลิ้มรสชาติแบบชาวตะกั่วป่าแท้ๆ เลย

โดยเฉพาะบางเมนูที่หาทานที่อื่นไม่ได้แล้ว เช่น จอแร้ง ชื่อแปลกๆ แต่เด็ดดวงสุด มีรสความนัวของกะทิ ผสานความหอมของตะไคร้ ตักใส่บนข้าวสวยร้อนๆ คือที่สุดของแจ้แล้วจริงๆ

อีกหนึ่งวัตถุดิบที่หาได้ง่ายในตะกั่วป่าคือ สับปะรด ฉะนั้นสับปะรดจึงกลายมาเป็นอาหารหลายเมนู เช่น แกงสับปะรด หรือผัดสับปะรดใส่กุ้ง กินแล้วก็สะดุ้งในความหวานหอมกลมกล่อม ยิ่งได้กินคู่กับหมูฮ้อง อาหารพื้นเมืองขึ้นชื่อของที่นี่ อยากบอกว่าโคตรลงตัว! โอ๊ย หิวอีกแล้ววว


อิ่มแล้วก็เดินตัวหนักขึ้นห้องพัก ของเราได้ห้องที่อยู่ชั้น 5 ชั้นบนสุดเลยค่ะ

แม้กระทั่งเลขชั้นก็ยังออกแบบได้เก๋ไก๋ไปอี๊กกก


ห้องพักของเราในทริปนี้คือ Deluxe with Bathtub type-B เห็นเตียงใหญ่ๆ แบบนี้ ราคาแค่ 2,800 บาท/คืน เท่านั้น!

มีมุมนั่งเล่นริมหน้าต่างด้วย

อีกหนึ่งความใส่ใจในการออกแบบของโฮเทลกาล แม้กระทั่งกาต้มน้ำไฟฟ้ายังเป็นเซรามิก เพื่อไม่ให้ดูขัดตากับบรรยากาศคลาสสิคภายในห้องพัก

แม้กระทั่งเตียงนอน คุณปีย์ก็ตั้งใจบอกเล่าความเป็นอยู่ของชาวตะกั่วป่าในอดีต เพราะมีม่านรอบด้าน เปรียบเสมือนมุ้งที่ทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกผ่อนคลายและปลอดภัย พร้อมด้วยเตียงคิงไซส์ขนาดใหญ่ กับหมอนใบนุ่มอีกหลายใบ ถูกใจคนรักโรงแรมที่มีหมอนให้หลายใบแบบเรามาก เตียงนอนดูดวิญญาณสุดๆ ไปเลย

ระหว่างเข้าพัก เราจะสัมผัสได้ถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียดของการออกแบบ ถึงแม้จะเป็นบูติกโฮเทลขนาดกลางซึ่งราคาไม่แพง แต่สิ่งของทุกอย่างในโรงแรมล้วนเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ แม้กระทั่งชุดคลุมอาบน้ำยังตัดเย็บเป็นแบรนด์ของ Hotel Gahn เอง เก๋จริงๆ

ห้องน้ำแยกโซนแห้ง โซนเปียก และไม่ทิ้งคอนเซปต์การออกแบบที่มีกลิ่นอายความคลาสสิคอย่างชัดเจน

มาถึงไฮไลท์ของห้องนี้ เป็นสิ่งที่เราชอบมากกกก นั่นก็คืออาบน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งมันใหญ่มากกกก ใหญ่แบบลงไปนอนได้ 2-3 คนเลย

ขนาดก๊อกน้ำยังสวยเลย ดีไซน์เท่มากๆ

ความพิเศษก็คืออ่างอาบน้ำนั้นวางอยู่ริมหน้าต่าง สามารถนอนแช่น้ำดูวิวไปแบบชิลๆ ได้เลย

ฮัลโหลๆ ไหนใครเรียกเจ๊ไปเก็บค่าแชร์จ้ะ

อีกมุมที่โปรดไม่แพ้อ่างอาบน้ำคือหน้าต่างบานใหญ่มากกก เราชอบหน้าต่างบานใหญ่แบบนี้ เวลานั่งทำงาน ดูวิวไปเพลินๆ แล้วรู้สึกรีแล็กซ์ดีจริงๆ

แจกความเขียววว ถึงจะไม่มีวิวทะเล แต่ได้วิวแบบนี้มาทดแทน เรายอมมม

อาหารเช้าก็ทานตรงร้านอาหารจุมโพ่เลยค่ะ

อาหารเช้าเป็นแบบบุพเฟ่ต์ มีให้เลือกหลายสไตล์ ทั้งอาหารไทยพื้นบ้านแบบชาวตะกั่วป่า และสไตล์ฝรั่ง เช่น พวกขนมปัง ซีเรียล

ขนมไทยอย่าง ข้าวต้มมัด หรือข้าวเหนียวปิ้งก็มีนาจา นึกถึงสมัยเด็กๆ เลย เพราะเราไประนองบ่อย (แม่เราเป็นคนระนอง) ทุกเช้าจะต้องมีพวกข้าวเหนียวปิ้งหน้าต่างๆ มาวางไว้บนโต๊ะกินข้าว เราว่าคนใต้ชอบกินอาหารเช้าแบบนี้ น่าจะเพราะว่ามันอยู่ท้อง

อาหารเช้าแบบไทยๆ สไตล์ตะกั่วป่าก็จะมีหมี่กะทิกับข้าวต้มหมู เราชอบหมี่กะทิมาก เส้นมันหนึบหนับ ตบท้ายด้วยข้าวเหนียวปิ้ง เป็นมื้อเช้าที่เพิ่มพลังสุดๆ ไปเลย!

ที่นี่มีสระว่ายน้ำด้วยนะคะ แต่ขนาดไม่ใหญ่มาก ตั้งอยู่ข้างๆ โซนร้านอาหารนั่นแล ถ้าใครไม่ว่ายน้ำจะมานั่งชิลๆ ตรงนี้ก็ได้ ตอนเช้าๆ กับช่วงเย็นอากาศดีมากกก เย็นสบายทั้งกายใจ ถือว่าเป็นบูติกโฮเทลราคาน่าคบที่มีครบทุกอย่างแบบเกินราคาจริงๆ ใครแวะไปเที่ยวเขาหลักหรือตะกั่วป่า เลือกมาพักที่นี่รับรองว่าคุ้มค่า ไม่ผิดหวังแน่นอนค่า

อย่าให้กาลเวลาพรากอะไรไปจากเรา โดยเฉพาะ .. ตัวเราเอง : )
