
มันก็นานแล้วนะ .. ที่ไม่ได้ไปเดินเล่นเตร็ดเตร่ สูดกลิ่นอายบรรยากาศบ้านเมืองของแดนปลาดิบ หลังจากรอคอยญี่ปุ่นกลับมาเปิดประเทศและให้ฟรีวีซ่าคนไทยอีกครั้งมานานเกือบสามปี ในที่สุดก็ได้เวลาเก็บกระเป๋ากลับบ้านเก่าสักที! โพสต์นี้ก็เลยจะพาไปสูดกลิ่นอายแดนปลาดิบกันให้เต็มปอดกับ 5 จุดเช็คอิน เมืองเก่าญี่ปุ่น ฟีลคลาสสิคย้อนยุค เผื่อใครคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ อยากสัมผัสกับความเป็นญี่ปุ๊นญี่ปุ่นให้หายคิดถึง โพสต์นี้น่าจะตรงใจอยู่น้า : )

ญี่ปุ่นกลับมาเปิดประเทศอีกครั้งในรอบเกือบสามปีทั้งที มีหรือคนไทยจะพลาด! ตามล่าหาตั๋วเครื่องบินกันให้จ้าละหวั่น มาค่ะ ก่อนจะไปสูดกลิ่นอายแดนปลาดิบให้หายคิดถึงกัน เราจะมาบอกเคล็ดลับการหาตั๋วเครื่องบินราคาดีให้ก่อน ถึงแม้ตอนนี้ราคาจะพุ่งทะลุเพดานจากตอนก่อนปิดประเทศไปก็ตาม แต่ถ้าเราวางแผนดีๆ ก็ยังพอมีทางได้ตั๋วเครื่องบินที่ราคาไม่แรงเกินไปอยู่น้า ~
-
- หารูทเดินทางที่สายการบินกำลังโปรโมทเส้นทาง เช่นช่วงนี้รูทที่น่าจะราคาถูกที่สุดก็น่าจะเป็น กรุงเทพ – ฟุกุโอกะ หาดีๆ ราคาเริ่มต้นแค่หลักหมื่นกลางๆ เท่านั้นค่ะ
- จองตั๋วเครื่องบินผ่านเว็บไซต์ Traveloka เพราะระบบจะช่วยประมวลหาราคาตั๋วเครื่องบินที่ถูกที่สุดในช่วงนั้นๆ ให้กับเรา อีกทั้งยังแสดงราคาทั้งเดือนเพื่อให้เราเลือกวันที่ราคาต่ำที่สุดได้ พร้อมแสดงราคาของแต่ละสายการบิน โดยเราสามารถเลือกและจองตั๋วเครื่องบินในราคาที่ต้องการผ่านทาง Traveloka ได้อย่างสะดวกรวดเร็วมาก จองตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว ยังสามารถเลือกจองโรงแรมต่อได้เลยอีกด้วย เพราะทราเวลโลก้ามีทุกอย่างที่สายเที่ยวอย่างเราต้องการ ไม่ว่าจะเป็นตั๋วเครื่องบิน ที่พัก รวมไปถึงกิจกรรมหรือการเดินทาง เช่น รถรับ – ส่งสนามบิน ฯลฯ ก็จองได้ง่ายๆ ผ่านทางทราเวลโลก้าที่เดียว! สะดวกสบาย ง่ายดายต่อคนชอบเดินทางจริงๆ
จองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่น กับ Traveloka
นอกจากจะเป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมไอเทมสำหรับนักเดินทางไว้มากมายแล้ว ทราเวลโลก้ายังมีบทความเกี่ยวกับการท่องเที่ยวมากมายรวบรวมไว้ให้เป็นไอเดียด้วยนะคะ โดยเฉพาะบทความเกี่ยวกับ TravelGlobal ต่างแดนแสนสุข รวมที่เที่ยวห้ามพลาดในต่างประเทศ เที่ยวได้ไม่เกินงบ! ตามไปอ่านบทความไปเที่ยวต่างประเทศ กันได้ที่นี่เลย > Click < สำหรับมาตรการสนามบินก่อนเดินทางไปญี่ปุ่น กับ Traveloka Travel & Lifestyle Super App สามารถเช็คได้ที่นี่เลยค่า > Click <
Gujo Hachiman

ได้ตั๋วเครื่องบินราคาดีแล้ว ก็ได้เวลาเก็บกระเป๋าเดินทางไปสัมผัสกลิ่นอายแดนปลาให้หายคิดถึงกัน! เริ่มต้นกันที่นี่เลย “Gujo Hachiman” เมืองเล็กน่ารักท่ามกลางขุนเขาและสายน้ำในเมืองกุโจ จังหวัดกิฟุ ถ้าใครปักหมุดจะมาที่นี่ แนะนำให้เลือกบินลงสนามบินนาโกยาจะสะดวกที่สุดค่ะ หลังจากนั้นจะเช่ารถขับมา หรือสะดวกเดินทางด้วยรถสาธารณะก็แค่นั่งรถไฟ LTD. EXP. (WIDE VIEW) HIDA จากสถานี JR Nagoya ลงสถานี Minoota แล้วต่อรถไฟสาย Nagaragawa ลงสถานี Gujo-hachiman จากนั้นนั่งแท็กซี่ต่อมาอีกนิด หรือถ้าใครฟิตจะเดินก็ได้ค่ะ ประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงบริเวณสะพานริมแม่น้ำโยชิดะเหมือนในรูปเลยค่ะ





ไหนๆ ก็มาถึงเมืองกุโจแล้ว แนะนำให้นอนค้างที่นี่สักคืนนะคะ จะได้มีเวลาเดินเล่นชิลๆ สูดกลิ่นอายความคลาสสิคเคล้าธรรมชาติของ Gujo Hachiman ให้เต็มปอดเลย ที่นี่มีโรงแรมและเรียวกังให้เลือกหลายที่เลยค่ะ เราเคยพักที่ Yoshidaya Ryokan (吉田屋) ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับแม่น้ำโยชิดะเลย สามารถเดินถึงกันได้แบบชิลๆ แม้จะเป็นเรียวกังขนาดกลางค่อนไปทางเล็กแต่ก็อบอุ่น และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ห้องพักกว้างขวาง ออกแบบสไตล์ตะวันตกแบบผสมญี่ปุ่น คือมีเตียงแต่ใช้ฝูกนอนแบบเรียวกังสไตล์ญี่ปุ่นค่า


Takayama

มาเยือนจังหวัดกิฟุทั้งที ถ้าไม่แวะมาเช็คอินที่ “Takayama” คงเหมือนมาไม่ถึงถิ่นนะคะ โดยเฉพาะคนที่ชอบบรรยากาศคลาสสิค ฟีลแบบจำลองบ้านเมืองยุคโบราณของแดนปลาดิบมาให้เราได้สัมผัสกัน น่าจะถูกใจทาคายามาแน่นอนค่ะ ที่นี่เขาโด่งดังมากทั้งในหมู่นักท่องเที่ยวและคนญี่ปุ่นเลยน้า ฉะนั้นบรรยากาศจึงคึกคักน่าดู ถ้าใครไม่ค่อยชอบความวุ่นวาย แนะนำให้นอนพักที่นี่สักคืนแล้วตื่นมาเดินเล่นช่วงเช้าๆ จะเลี่ยงช่วงเวลาไพรม์ไทม์ของนักท่องเที่ยวได้ค่ะ สำหรับการเดินทางนั้นก็สะดวกสบายค่ะ เพราะสามารถนั่งรถไฟลงสถานี Takayama ได้เลย หลังจากนั้นก็เดินเที่ยวได้แบบชิลๆ เพราะใช้เวลาประมาณ 5 นาทีก็จะเดินถึงถนนซันมาจิ หรือย่านเมืองเก่าที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่แล้ว




มาถึงทาคายามา อย่าลืมชิมของขึ้นชื่อของที่นี่อย่าง “เนื้อฮิดะ” ด้วยน้า มันช่างนุ่มละมุนลิ้นแบบแทบละลายดีแท้ สายเนื้อห้ามพลาดเลยล่ะค่า

Magome-juku

ลองจิตนาการถึงเมื่อประมาณหลายร้อยปีที่แล้วในยุคสมัยเอโดะที่คนญี่ปุ่นยังคงใช้วิธีเดินทางด้วยเท้ากันอยู่สิคะว่าบรรยากาศและเส้นทางจะเป็นยังไง แล้วถ้าเรามีโอกาสได้ลองย้อนเวลากลับไปในยุคนั้น ได้เดินอยู่บนเส้นทางเดียวกันนั้น มันจะรู้สึกดีแค่ไหนกันนะ .. ใครชอบเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และมีจิตนาการแบบที่เราพูดไว้ข้างต้น แนะนำให้ปักหมุดที่นี่เลยค่ะ “Magome-juku” จุดพักระหว่างทางของคนญี่ปุ่นในยุคสมัยเอโดะที่ต้องเดินทางด้วยเท้าระหว่างโตเกียวกับเกียวโต ฉะนั้นมั่นอกมั่นใจได้เลยว่าบรรยากาศที่นี่จะเต็มไปด้วยมวลสารแห่งความคลาสสิคแน่นอน





ช่วงปลายปีแบบนี้ บรรยากาศที่นี่ดีงามมากเลยนะคะ อากาศกำลังดี เดินเล่นได้แบบชิลๆ เลย ระหว่างทางก็มีร้านรวงให้ได้ช็อปปิ้ง รวมไปถึงของกงของกินก็มีพร้อม ใครที่ปกติแล้วเป็นคนชอบเดินเล่นไปเรื่อยๆ เปื่อยๆ เหนื่อยก็แวะพัก หามุมถ่ายรูปสวยๆ มาที่นี่รับรองเพลิดเพลินจนลืมเหนื่อยล่ะค่า สำหรับการเดินทาง ถ้าไม่ได้เช่ารถขับมาก็แนะนำให้นั่งรถบัสจากนาโกยามาลงที่เมือง Nagatsugawa หลังจากนั้นต่อรถบัสอีกหนึ่งกรุ๊บมาลงที่ Mogome-juku ได้เลยจ้า



Kawagoe

อยากมีฟีลแบบได้ใส่ชุดยูกาตะเดินเล่นในบ้านเมืองสมัยเอโดะเหมือนในการ์ตูนญี่ปุ่น แนะนำปักหมุดที่นี่เลยค่ะ “Kawagoe” จังหวัดไซตามะ นอกจากจะได้สัมผัสบรรยากาศคลาสสิคและอินกับสถาปัตยกรรมโบราณของแดนอาทิตย์อุทัยแล้ว ที่นี่ยังอยู่ใกล้โตเกียวมากกว่าที่คิด แถมยังเดินทางไปไม่ยากด้วยค่ะ สามารถนั่งรถไฟ Tobu Tojo Line จากสถานี Ikebukuro ลงที่สถานี Kawagoe โดยใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วต่อรถเมล์ไปลงยังย่านเมืองเก่าได้เลย รับรองว่ากลิ่นอายแดนปลาดิบนี่มีให้สัมผัสตั้งแต่ย่างเท้าลงจากรถเมล์แน่นอนค่ะ



คาวาโกเอะนี่ได้รับฉายาว่า “เอโดะจิ๋ว” นะคะ ที่นี่เขาจำลองบรรยากาศบ้านเมืองสมัยโบราณเอามาให้นักท่องเที่ยวอย่างเราได้สัมผัสกัน ใครอยากอินมากหน่อยก็สามารถเช่าชุดยูกาตะมาใส่เดินเล่น ถ่ายรูปสวยๆ ลงโซเชียลได้ หรือจะมาเดินชิลๆ แวะชิมของอร่อยๆ ที่มียั่วยวนกระเพาะอยู่รายทางก็ได้เช่นกัน สามารถจัดเป็น One Day Trip จากโตเกียวได้เลย น่าจะถูกใจคนรักบรรยากาศเก่าๆ ของญี่ปุ่นค่า
ดูรีวิว Kawagoe ฉบับเต็ม > One Day in Kawagoe บุกเมืองเอโดะจิ๋ว ชิล ชิค ถ่ายรูปสวย





Kyoto


ขอปิดท้ายความอิ่มเอมกับ เมืองเก่าญี่ปุ่น บรรยากาศคลาสสิคกันที่เมืองยอดฮิตตลอดกาลของคนรักญี่ปุ่น จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก “เกียวโต” เมืองเก่าของเราแต่ก่อนนั่นเองค่า โดยเกียวโตนั้นเป็นเมืองที่ค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียวนะ และจุดเช็คอินต่างๆ ก็แฝงกลิ่นอายความคลาสสิคเอาไว้แทบทั้งสิ้น ฉะนั้นใครอยากอิ่มเอมแบบเต็มอิ่ม แนะนำให้มานอนค้างที่นี่เลยยิ่งดี เพราะเกียวโตมีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างเช่น วัด ศาลเจ้า รวมไปถึงธรรมชาติที่สวยงามอย่างเช่น อาราชิยามะ ฉะนั้นแพลนมาเที่ยวแบบ One Day Trip ไม่น่าจะพอแน่นอนจ้า




