
อันยอง ปูซาน (Busan) เมืองมินิมอลที่ท้องฟ้าสีหวานมาก เราเคยไปเที่ยวโซลอยู่หลายครั้ง แต่เพิ่งเคยมาเที่ยวปูซานครั้งแรกเลย หลายคนบอกชอบปูซานมากกว่าโซล มาถึงก็ไม่แปลกใจ เพราะชิลดีจริงๆ ปูซานเหมือนมี vibe เป็นของตัวเอง คือถ่ายรูปมุมไหนก็ออกมาปูซ๊านปูซาน ใครยังไม่เคยมาก็อยากแนะนำให้ลองมาสักครั้ง แล้วจะไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใครๆ ก็ชอบปูซาน

การเดินทางมาปูซานนั้นสามารถเลือกบินตรงมาจากไทยก็ได้ แต่ช่วงนี้ไฟลท์บินตรงยังน้อยมากค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นสายการบินของเกาหลี ราคาแรงอยู่ ส่วนตัวเราบิน Vietnam Airlines แวะเปลี่ยนเครื่องที่โฮจิมินห์ ราคาหมื่นต้นๆ ก็ยังมีอยู่นะ หรือถ้ามีไฟลท์บินลงโซล จะนั่ง KTX มาปูซานก็ได้ค่ะ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้นเอง

เข้าเกาหลีล่าสุด ต้องเตรียมพร้อม 2 อย่าง คือ
1. ลงทะเบียน K-ETA (https://www.k-eta.go.kr/portal/apply/index.do) สามารถลงทะเบียนขอได้เลยค่ะ ผ่านแล้วจะบินมาเมื่อไรก็ได้ภายในระยะเวลา 2 ปี
2. ลงทะเบียน Q-Code ก่อนเดินทางทุกครั้ง อย่างน้อยประมาณ 3 วัน ก่อนออกเดินทางค่า
รีวิวเที่ยวเกาหลียังมีอีกนะ
เที่ยวปูซานด้วยบัตร Krungthai Travel Card

มาเกาหลีรอบนี้พก Krungthai Travel Card มาใบเดียว ใช้จ่ายในเกาหลีสะดวกมาก ที่นี่เดี๋ยวนี้แทบไม่ใช้เงินสดแล้วค่ะ เราแลกเงินบางส่วนมาสำหรับใช้เติมบัตร T-Money (บัตรเติมเงินสำหรับขึ้นรถสาธารณะของเกาหลี) นอกนั้นใช้ Krungthai Travel Card แตะอย่างเดียวเลย การสมัครก็ง่ายมาก สามารถสมัครด้วยตัวเองผ่านแอป Krungthai NEXT ได้เลย แล้วก็รอรับบัตรที่บ้านชิลๆ ส่งมาเร็วมาก แค่ 2 วันก็ได้รับบัตรแล้วค่ะ สามารถดูวิธีสมัครบัตรได้จากที่นี่เลยน้า > Click <

ความคูลของ Krungthai Travel Card อีกอย่างคือ เราสามารถไปถอนเงินสดตามสกุลเงินที่แลกไว้ผ่านแอปที่สาขาก่อนเดินทางได้ด้วย อันนี้คือดีและสะดวกมากๆ ส่วนเอกสารก็ใช้แค่บัตรประชาชน และ Krungthai Travel card เท่านั้นเอง สามารถถอนได้ 4 สาขา คือ สาขานานาเหนือ, สาขาสยามพารากอน, สาขาห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และสาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว สามารถถอนได้ 25,000 บาทต่อครั้ง ไม่เกิน 2 ครั้งต่อวัน ถ้าแลกเงิน 25,000 บาทต่อเดือน จะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ซึ่งแต่ละสกุลเงินจะมีค่าธรรมเนียมแตกต่างกัน สามารถเช็คก่อนได้ที่นี่เลยค่า > Click <

สำหรับวิธีการแลกเงินก็ง่ายๆ ค่ะ อยากจะบอกว่าเรทดีจนตกใจเลย เราลองเปรียบเทียบกับร้านแลกเงินดู ปรากฏว่าของ Krungthai Travel Card เรทดีกว่าจ้า ส่วนวิธีการก็ง่ายแสนง่ายค่ะ
- เข้าแอป Krungthai Next เลือก “บริการ” และเลือก “Travel Card” หน้าจอจะแสดงข้อมูล Krungthai Travel Card ทั้งหมดของเรา
- คลิกที่ “อัตราแลกเปลี่ยน” จะมีเรทสกุลเงินให้เลือกถึง 19 สกุลเงิน แบ่งเป็นราคาแลกซื้อ และราคาขายคืน เราก็เลือกสกุล KRW ที่ต้องการได้เลย
- จากนั้นใส่จำนวนเงินที่ต้องการแลก แอปจะคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนของวันนั้นๆ ออกมาให้ ถ้าพอใจก็กดแลก เท่านี้เราก็จะมีเงินวอนอยู่ใน Krungthai Travel Card ของเราแล้วล่ะค่า
Huinnyeoul Culture Village

แลกเงินพร้อมแล้ว เราไปเที่ยวที่แรกกันเลยดีกว่า “Huinnyeoul Culture Village” เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ริมทะเลที่ vibe ดีมากกก ปูซานสุด รักเกาหลีก็ตรงนี้ คือเขาสามารถหยิบจับสิ่งที่มีขึ้นมาเติมแต่งสตอรี่และดึงดูดให้คนมาเที่ยวได้เก่งจริงๆ จากเดิมที่เป็นหมู่บ้านธรรมดา มีคนอาศัยอยู่จริง ตอนนี้บ้านหลายหลังปรับเปลี่ยนเป็นคาเฟ่ สร้างรายได้ให้กับคนในหมู่บ้าน กลายเป็นธุรกิจแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน

สำหรับวิธีการเดินทางมาที่นี่ (รวมถึงการเดินทางในปูซานและเมืองอื่นๆ ในเกาหลี) แนะนำให้โหลดแอป Naver Map มาเสิร์ชเลยค่ะ เพราะคนเกาหลีไม่ใช้ Google Map กัน ใน Naver Map จะบอกวิธีการเดินทางอย่างละเอียดเลย เราอยู่ตรงไหนก็ปักจุดที่อยู่ไปถึงจุดที่จะไปได้เลยค่ะ ในปูซานส่วนใหญ่นั่งรถเมล์จะสะดวกกว่ารถไฟใต้ดิน เพราะสถานที่ส่วนใหญ่ นั่งรถเมล์ถึงหมดค่ะ สามารถใช้บัตร T-Money แตะขึ้นด้านหน้า และลงทางประตูหลังได้เลย

ที่นี่มีมุมถ่ายรูปเยอะมาก เขาแบ่งเป็นจุดๆ พร้อมมีแผนที่ให้ดูเลยค่ะ ทำดีมากๆ นอกจากนี้ก็ยังมีร้านอาหาร และคาเฟ่เรียงราย ถ้าอยากได้แสงสวยๆ หน่อย แนะนำให้มาช่วงเย็นๆ นะคะ สักประมาณ 4 โมง เป็นต้นไป แสงและเงาละมุนมาก busan vibes สุดๆ


ด้านล่างเลียบไปกับทางเดินหมู่บ้านด้านบน เขาก็ทำเป็นทางเดินเลียบทะเลคู่ขนานกันไปด้วย คือสามารถเดินเล่นด้านบนไปจนสุดทางของหมู่บ้านแล้วลงบันไดไปเดินกลับตรงทางเดินเลียบทะเลก็จะได้สองบรรยากาศเลย

เสียดายเรามาเร็วไปหน่อย ซากุระเพิ่งเริ่มบานบางต้นเองค่ะ กว่าจะบลูมก็ได้เวลากลับแล้ว แต่ช่วงนี้อากาศดีมาก ไม่หนาวเกินไป ประมาณ 15-19 องศา เดินเล่นสบายเลยค่ะ


อันที่จริงเดินไปจนสุดทางของหมู่บ้านจะเจออีกมุมถ่ายรูปฮิตๆ ในไอจี แต่เรามาวันเสาร์ค่ะ สาวๆ เกาหลีต่อคิวถ่ายรูปกันหนักมาก เลยไม่ได้แชะภาพมาฝาก แต่เดี๋ยวจะพาไปดูอีกหนึ่งมุมที่ฮิตไม่แพ้กัน อยู่สุดทางของทางเดินเลียบทะเล สามารถเดินลงบันไดแล้วเดินไปจนสุดทางก็จะเจอเลย

มุมนี้นั่นเองงง ตรงนี้ก็ต้องต่อคิวถ่ายรูปเหมือนกันค่ะ ยิ่งช่วงแสงเย็นๆ แบบนี้ คู่รักเกาหลีเขาจะมาตั้งกล้องถ่ายรูปคู่กัน แต่ทุกคนดีมาก ต่อคิว ไม่มีใครแซงใคร แต่พอถึงคิวก็ต้องรีบแชะนะ อย่างรูปนี้ก็คือ 1 แชะถ้วนที่ได้มา โอกาสมีครั้งเดียวเท่านั้น ก็มุมฮิตอ่ะเน้ออ

Gwangalli Beach

มาถึง ปูซาน ไม่มาเช็คอินที่นี่คงไม่ได้ “Gwangalli Beach” นั่นเอง จะบอกว่าเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของปูซานไปแล้วก็ว่าได้ค่ะ เป็นหาดที่ฟีลลิ่งปูซานสุดๆ ถ่ายรูปออกมายังไงก็ดูมินิมอล เกาหลี เกาใจ หาดค่อนข้างกว้างเลยนะคะ แล้วก็คึกคักน่าดูเลย มีคาเฟ่ และร้านอาหารเรียงราย ที่พัก Airbnb ปูซานปังๆ ก็อยู่หาดนี้นี่แหละค่า


Casa Busano Espresso Bar หนึ่งในคาเฟ่ดังของหาดควางอันลี คนจะแน่นๆ นิดนึงนะ อยากได้ที่นั่งริมถนนเพื่อดูวิวชายหาดชิลๆ ต้องแย่งชิงกันพอตัวล่ะค่ะ

Movement Lab

มาถึงคาเฟ่แลนด์อย่างเกาหลีทั้งที ขอพาไปคาเฟ่ที่มี vibe ปูซาน แบบสุดๆ อย่าง Movement Lab (무브먼트랩) ภูมิใจนำเสนอมากๆ ค่ะ ชอบมากกก เพราะมีทั้งคาเฟ่ ทั้งช้อปขายของ ขายเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงมี Rooftop สวยๆ ให้ถ่ายรูปด้วย

คาเฟ่อยู่ชั้นล่างสุดนะคะ ส่วนชั้นสอง ชั้นสาม เป็นช็อปขายของและเฟอร์นิเจอร์ ถ้าใครจะมาคาเฟ่ เตรียม Google Translate ไว้เลย เพราะไม่มีเมนูภาษาอังกฤษเลยค่ะ ภาษาเกาหลีล้วน จะสั่งใส่แก้วแบบ Take away ขึ้นไปนั่งกินบนดาดฟ้าก็ได้นะ ช่วงนี้อากาศกำลังดีเลยค่า





การเดินทางมาที่นี่ ถ้าไม่มีรถก็อาจจะลำบากหน่อยนะคะ คือสามารถนั่งรถเมล์มาได้ล่ะ แต่จากป้ายรถเมล์ต้องเดินไกลพอประมาณเลย แต่เราว่าคุ้มค่าเดินนะ มาเถอะ เพราะเป็นคาเฟ่ที่ไวป์ดีงามจริงๆ ค่ะ

แผนที่ Movement Lab
Haeundae Sky Capsule

มาถึงไฮไลท์ของการมาปูซานครั้งนี้ และกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนที่มาปูซานต้องทำ นั่นก็คือ Haeundae Sky Capsule หรือรถไฟปุ๊กปิ๊กนั่นเองค่า โดย Haeundae Blueline Park นั้นมีรถไฟให้เลือกนั่งชมวิวสองแบบ คือ Sky Capsule วิ่งรางบน ส่วนรางข้างล่างจะเป็น Beach Train ใช้เส้นทางเดียวกันเลยค่ะ เลียบทะเลเหมือนกัน เขามีขายเป็นแพ็คเกจคู่ด้วยนะ คือ Sky Capsule ขาไป ส่วนขากลับก็นั่ง Beach Train หรือจะนั่งรถไฟแบบเดียว ไป-กลับ หรือนั่งแค่ขาเดียวก็ได้ แล้วแต่เราเลยค่ะ

Sky Capsule จะวิ่งไป – กลับ สองสถานี คือ Mipo Station และ Cheongsapo Station ถ้าใครจะนั่งขาเดียว เราสามารถเลือกได้นะคะว่าจะนั่งจากสถานีไหน รถไฟนั่งได้ทั้งหมด 4 คน แต่จะเป็นการเหมาคันไปเลย มา 2 คนก็นั่งแค่ 2 คน มา 3 คนก็นั่ง 3 คน ถ้ามา 4 คนก็อาจจะแน่นๆ หน่อย
ราคา : 2 คน 30,000 วอน / 3 คน 39,000 วอน / 4 คน 44,000 วอน

อย่างที่เคยเกริ่นไว้ว่าอยู่เกาหลี ใช้ Krungthai Travel Card สะดวกมากๆ ไม่ว่าจะเป็นจ่ายค่า Sky Capsule เข้าร้านอาหาร เข้าคาเฟ่ หรือช้อปปิ้งที่ไหนก็สามารถใช้ Krungthai Travel Card จ่ายได้เลย โดยไม่ต้องใส่ pin ใดๆ สะดวกมากๆ เลยล่ะค่ะ

การซื้อตั๋ว Sky Capsule นั้น สามารถวอร์คอินมาซื้อก็ได้ แต่เต็มเร็วมากๆ ค่ะ ถ้าอยากวอร์คอิน แนะนำให้ซื้อจากสถานี Cheongsapo ตั๋วจะเหลือมากกว่า ส่วน Mipo ที่เป็นต้นสายนั้น ต้องเป็นวันธรรมดาถึงมีลุ้น ส่วนเสาร์ – อาทิตย์ เต็มล่วงหน้ากันเลยทีเดียว ฉะนั้นถ้าใครไม่อยากไปลุ้นเอาหน้างานก็สามารถจองผ่านเว็บไซต์ได้นะคะ สามารถเข้าไปเช็ครอบ และเลือกจองตามแพ็คเกจที่ต้องการได้ที่นี่เลยค่า > https://www.bluelinepark.com/eng/booking.do

ที่สถานี Cheongsapo มีมุมฮิตที่ต้องมาถ่ายรูปรถไฟริมทะเลแบบนี้ ฉะนั้นไม่ว่าจะมาเริ่มต้นจากสถานีนี้ หรือนั่งมาจาก Mipo ก็อย่าลืมแวะออกมาถ่ายรูปมุมนี้กันด้วยน้า

วิว Cheongsapo ตอนนั่งอยู่บน Sky Capsule เป็นเมืองเล็กๆ น่ารักดีค่ะ

มีเคล็ดลับเล็กน้อย สำหรับคนที่อยากถ่ายรูป Sunset บน Sky Capsule แนะนำให้เลือกรอบ 17:30 – 18:00 และให้เลือกนั่งจากสถานี Cheongsapo ไปลง Mipo รถไฟจะวิ่งไปทางที่พระอาทิตย์ตกพอดีค่ะ
ปล. ช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกอาจเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ยังไงลองเช็คเวลาก่อนได้จากเว็บพยากรณ์อากาศนะคะ ในรูปนี้คือช่วงเดือนมีนาคม เป็นฤดูใบไม้ผลิ พระอาทิตย์ตกประมาณ 18:30 น. ฉะนั้นแสงช่วงก่อนหกโมงจะสวยที่สุดค่า

Haeundae Beach

ใครที่นั่ง Sky Capsule จากสถานี Cheongsapo มาลง Mipo แล้ว ลองเดินต่อไปอีกสักนิด จะถึง “Haeundae Beach” หนึ่งในหาดยอดนิยมของปูซาน บรรยากาศดีไม่แพ้ Gwangalli Beach เลยค่ะ เราเดินมาถึงตอนพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าพอดี สีท้องฟ้าที่ปูซานนี่มันหวานดีจริงๆ น้า

จากหาดแฮอึนแด เดินมาอีกนิดก็จะเจอย่านช็อปปิ้งที่แสนคึกคักของแฮอึนแดค่ะ แถวนี้ที่พักเยอะแยะเต็มไปหมด ร้านอาหารก็เพียบ ใครชอบความคึกคักจะมาพักแถวนี้ก็ได้นะคะ นับว่าเป็นย่านที่มีแสงสีตลอดคืนของปูซานเลย


เที่ยวเกาหลี เงินหมด ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ ถึงแม้จะสามารถใช้ Krungthai Travel Card แตะจ่ายได้ทุกอย่างอยู่แล้ว แต่ถ้าเงินสดสำหรับเติม T-Money หรือบางร้านเล็กๆ ที่ไม่รับบัตรหมด สามารถใช้ Krungthai Travel Card กดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มที่เกาหลีได้เลยนะคะ ขั้นตอนก็ง่ายมากๆ เพราะบางตู้มีภาษาไทยด้วยค่ะ

- มองหาตู้ ATM ที่มีคำว่า Global ATM และสัญลักษณ์ VISA มีหลายธนาคารมากๆ ค่ะ ถ้าหาไม่เจอ จะใช้ Naver เสิร์ชหาเลยก็ยังได้
- ใส่ Krungthai Travel Card เข้าไป แล้วกดเลือกเมนูภาษาไทย
- สำหรับรหัสบัตรให้ใช้รหัส 4 หลักแรกของรหัส 6 หลักที่กดตอนสมัครบัตร ถ้าใครลืมรหัสก็สามารถไปที่เมนู “ตั้งรหัส PIN” ในแอป แล้วกำหนดรหัส PIN ที่จะใช้ได้เลย สามารถดูวิธีเปลี่ยนรหัสได้ที่นี่ http://bit.ly/3TEMFh4
- เลือก “กดเงินสดล่วงหน้าจากบัตรเครดิต”
- ระบุจำนวนเงินที่ต้องการกด เท่านี้ก็จะได้เงินสดออกมาใช้จ่ายที่เกาหลีแล้วล่ะค่า
Gamcheon Culture Village

มาเช็คอินที่สุดท้ายในปูซานกับแลนด์มาร์คที่ไม่ว่าใครปูซานก็ต้องแวะมาที่นี่ “Gamcheon Culture Village” หรือหมู่บ้านสีลูกกวาด ฉายาซานโตรินีแห่งเกาหลีนั่นเองค่ะ

เห็นบ้านเรือนสีหวานๆ แบบนี้ ที่นี่มีประวัติที่ค่อนข้างคอนทราสเลยนะคะ เพราะเคยเป็นหมู่บ้านอพยพมาก่อน หลังถูกทิ้งร้างมาสักพัก ก็ได้มีการรวมพลังจากศิลปินหลากหลายคนมาช่วยกันแต่งเติมสีสันหลากหลายให้กับหมู่บ้านแห่งนี้ จนปัจจุบันได้กลายมาเป็นจุดเช็คอินแลนด์มาร์คของปูซานที่ใครไม่แวะมาก็คงต้องบอกว่ามาไม่ถึงปูซานล่ะค่า


เดินเล่นเพลินมากๆ หมู่บ้านนี้ มีหลายจุดให้แวะถ่ายรูป มีร้านค้าเรียงราย รวมไปถึงคาเฟ่ ร้านอาหารมากมายให้แวะ แต่ต้องเตรียมกำลังขามาให้ดีๆ ด้วยนะคะ เพราะอาจจะต้องเดินขึ้นลงเนินกันนิดนึงค่ะ


มุมที่ใครๆ ก็ต้องมาถ่ายรูป เจ้าชายน้อยนั่นเองค่า รอคิวหนักมาก พอว่างได้แปบก็มีคนมานั่งคู่ตลอดๆ เลยทำได้แค่ถ่ายรูปเธอจากไกลๆ ไม่ได้เข้าไปนั่งข้างๆ เหมือนคนอื่นๆ เค้าบ้างเลยยย

จบทริป ปูซาน งานนี้ทำให้หายคิดถึงเกาหลีไปได้เยอะเลยล่ะค่ะ หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเกาหลีเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เราเที่ยวบ่อยมาก พอๆ กับญี่ปุ่นเลย ฉะนั้นใครยังไม่เคยมา แนะนำให้ลองมาเที่ยวเองสักครั้งน้า แล้วจะติดใจ

สุดท้าย กลับมาถึงไทยแล้ว เรายังสามารถใช้ Krungthai Travel Card กับร้านค้าในเมืองไทยได้ด้วยนะคะ เป็นบัตรที่เริ่ดมาก เพราะบัตร Travel Card อื่นๆ ไม่สามารถใช้งานที่ไทยได้ ส่วนวิธีการใช้งานก็ง่ายๆ ค่ะ แต่เติมเงินบาทเข้าไปในบัตร แต่ยังไม่ต้องนำไปแลกเป็นเงินสกุลอื่น เท่านี้ก็สามารถนำ Krungthai Travel Card ไปใช้จ่ายในร้านอาหาร หรือร้านค้าที่เมืองไทยได้เหมือนใช้ที่เมืองนอกเลยล่ะค่า ใครสนใจ สามารถสมัครบัตรด้วยตัวเองได้ง่ายๆ ผ่านแอป Krungthai NEXT เลยนะคะ มีไว้อุ่นใจแน่นอน บัตรเดียวพร้อมบินไปเที่ยวได้หลายประเทศเลย