เคล็ด (ไม่) ลับ
การเลือกย่านที่พักของ 4 เมืองยอดฮิตในแดนปลาดิบ
Best areas to stay in Japan
- October, 2017 -
“จะไปเที่ยวญี่ปุ่น พักที่ไหนดี ?” เป็นอีกหนึ่งคำถามยอดฮิตที่เชื่อว่าทุกคนต้องเคยเอื้อนเอ่ยตอนวางแผนเที่ยว ก็นะ.. ที่หลับที่นอนนี่เป็นเรื่องสำคัญพอๆ กับเรื่องปากท้องเลยนี่เนอะ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะต้องหาที่พักให้ได้ก่อนเป็นอันดับต้นๆ เราเลยของัดเอาเคล็ด (ไม่) ลับ ในการเลือกย่านที่พักของ 4 เมืองยอดนิยมในประเทศญี่ปุ่นที่ขึ้นแท่นเป็นเมืองท่องเที่ยวในลิสต์ ‘The Best’ ซึ่งคนไทยแทบทุกคนต้องเคยปักหมุดเอาไว้ว่าจะไปเยือนหรือเคยไปเยือนกันมาแล้ว ได้แก่ โตเกียว โอซาก้า ฟุกุโอะกะ และซัปโปโร ซึ่งเป็น 4 เมืองที่นับเป็นฐานหลักของแต่ละภูมิภาคในการปักหลักนอนพักเพื่อวางแผนไปเที่ยวยังเมืองใกล้เคียง มะ! เราจะขอบอกทั้งเคล็ดลับในการเลือกย่านที่พักโดยรวมว่าควรคำนึงถึงปัจจัยอะไรบ้าง ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับทุกประเทศเลยนะ รวมถึงชี้จุดย่านที่พักน่าสนใจของ 4 เมืองยอดฮิตที่ว่านี้ว่าย่านไหนกันนะ ที่เหมาะกับสไตล์การเที่ยวของคุณ!

เทคนิคการเลือกย่านที่พัก ควรคำนึงถึงปัจจัยอะไรบ้างนะ

เดินทางจากสนามบินสะดวก ไม่ควรต่อรถไฟหลายต่อ
ก้าวแรกหลังจากเท้าแตะผืนแผ่นดินแดนอาทิตย์อุทัย สิ่งที่จะต้องทำหลังจากผ่านด่าน ตม. คือเดินทางเข้าเมืองที่ปักหมุดเอาไว้ว่าจะนอนพัก ฉะนั้นย่านที่เลือกควรมีวิธีการเดินทางจากสนามบินที่ค่อนข้างสะดวก ไม่ต้องต่อรถไฟหลายต่อกว่าจะถึงที่พัก เพราะวันแรกคือวันที่เหนื่อยที่สุด ไหนจะต้องลากกระเป๋าเดินทาง ปรับตัว ปรับโหมดให้ชินกับบรรยากาศบ้านเรือนที่แปลกตา ไม่คุ้นถิ่น ไม่คุ้นภาษา ฉะนั้นถ้าเลือกย่านที่มีรถไฟ หรือรถบัสวิ่งตรงสู่ย่านนั้นได้เลยก็สบายกว่านะ

ใกล้สถานีรถไฟไว้ดีที่สุด
ญี่ปุ่นนับเป็นประเทศที่มีระบบคมนาคมสาธารณะสะดวกครอบคลุมมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก ฉะนั้นจะเดินทางไปไหนมาไหนจึงเป็นเรื่องง่ายดาย เพียงแค่เลือกย่านที่พักที่ตั้งอยู่ใกล้ชุมทางการเดินทางอย่างสถานีรถไฟ โดยเฉพาะสถานีรถไฟใหญ่ๆ ที่มีทางเชื่อมระหว่างสถานีรถไฟ JR กับรถไฟใต้ดิน หรือรถไฟเอกชนสายอื่นๆ ด้วยยิ่งดี เท่านี้จะเดินทางไปเที่ยวในเมืองหรือนอกเมืองก็ไม่ต้องเหนื่อยลากกระเป๋าเดินทางไกลๆ แล้วล่ะ

เล็งย่านที่มีร้านอาหารหรือคอนบินิ
คอนบินิ (コンビニ) แปลเป็นภาษาไทยแบบง่ายๆ ก็คือร้านสะดวกซื้อนั่นเอง เพียงแต่ร้านสะดวกซื้อของญี่ปุ่นไม่ได้มีแค่ 7-11 หรือมินิมาร์ทเหมือนบ้านเรา แต่ยังมี Lawson, Mini Stop รวมไปถึงแบรนด์อื่นๆ ซึ่งนับเป็นร้าน Local ของแต่ละเมืองด้วย ที่สำคัญคอนบินิยังเป็นขุมทรัพย์สำคัญสำหรับเติมพลัง เพราะร้านอาหารที่ญี่ปุ่นส่วนใหญ่เปิดช้า (ประมาณ 11 โมง) และปิดค่อนข้างเร็ว (ประมาณ 1-2 ทุ่ม) ฉะนั้นเชื่อเถอะว่าจะต้องได้ฝากท้องที่คอนบินิอยู่บ่อยๆ แน่นอน ย่านที่พักที่เลือกจึงควรมีคอนบินิหรือร้านอาหารอยู่ใกล้ๆ (มีร้านอาหารญี่ปุ่นหลายร้านที่เปิด 24 ชั่วโมงนะ เช่น Yoshinoya) ทั้งนี้ก็เพื่อเติมเต็มศักยภาพในการเดินทางท่องแดนปลาดิบของเรา ยังไงซะ “กองทัพก็ต้องเดินด้วยท้อง” เนอะ ^^
เที่ยวเมืองนี้ พักย่านไหนดีที่เข้ากับไลฟ์สไตล์การเที่ยวของเรา
โตเกียว (Tokyo)
เมืองหลวงของแดนปลาดิบ ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันโต ติดกับอ่าวโตเกียว มหานครแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการคมนาคมภายในประเทศและระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นที่สุด รวมถึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของแดนอาทิตย์อุทัยแห่งนี้ด้วย

ย่านชิบุยะ (Shibuya)
เหมาะสำหรับ : สายช็อป สายกิน ผู้หลงใหลความคึกคัก
จุดเด่น : เป็นย่านที่เปรียบเสมือนสยามของกรุงเทพฯ เต็มไปด้วยร้านรวงไว้ช็อปปิ้งละลายทรัพย์ รวมถึงมีร้านอาหารอัดแน่นเรียงราย การเดินทางก็สะดวกสบาย เพราะมีทั้งสถานีรถไฟ JR และรถไฟใต้ดิน
จุดด้อย : ที่พักส่วนใหญ่ราคาค่อนข้างสูง และเต็มเร็ว เพราะเป็นย่านยอดนิยม

สถานีชิบุยะ ช่วงเวลาเลิกงาน หนาแน่นสมชื่อมหานครโตเกียวจริงๆ

ย่านชินจูกุ (Shinjuku)
เหมาะสำหรับ : คนขี้เหงาที่โหยหาความเจริญ
จุดเด่น : เป็นย่านเศรษฐกิจที่เปรียบเสมือนหัวใจของกรุงโตเกียวเพราะเป็นแหล่งศูนย์รวมความเจริญทุกสิ่งอย่าง ทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร แหล่งช็อปปิ้ง ทั้งยังนับเป็นชุมทางการเดินทางที่สำคัญของเมืองอีกด้วย
จุดด้อย : ที่พักส่วนใหญ่ราคาค่อนข้างสูง รวมถึงสถานีชินจูกุ (Shinjuku Station) เป็นสถานีที่มีความซับซ้อนและมีทางออกเยอะมากกก ฉะนั้นคนที่ไปครั้งแรกอาจมีหลงทางตอนหาที่พักเอาได้ง่ายๆ


ย่านอุเอะโนะ และอาซากุสะ (Ueno and Asakusa)
เหมาะสำหรับ : คนรักความสงบ เน้นกินถูก อยู่สบาย
จุดเด่น : นับเป็นสองย่านที่ขึ้นชื่อเรื่องความสงบ ไม่วุ่นวายพลุกพล่านเหมือนย่านใจกลางเมืองอย่างชินจูกุ หรือชิบุยะ ฉะนั้นใครเลือกพักย่านนี้ มันก็จะเงียบสงบหน่อยๆ แถมที่พักส่วนใหญ่ยังราคาถูกกว่าพักใจกลางเมืองอีกด้วย
จุดด้อย : ตกดึกอาจจะเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยวไปหน่อย คนญี่ปุ่นนอนเร็วมากกก แค่ 2 ทุ่ม สองข้างทางก็เงียบสงัดแล้ว แน่นอนว่ารวมถึงร้านอาหารด้วย ฉะนั้นถ้าจะเลือกพักในย่านนี้ก็ควรเลือกที่พักที่มีคอนบินิอยู่ใกล้ๆ นะ

ย่านอุเอะโนะมีสวนสาธารณะชื่อดังอย่าง สวนอุเอะโนะ (Ueno Park) ไว้ให้นั่งชิล เดินชิล ในวันที่อากาศดีด้วยน้า

ย่านอาซากุสะก็มีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง วัดเซนโซจิ ฉะนั้นพักย่านนี้ก็ไม่มีเงียบเหงาเกินไปแน่นวล นักท่องเที่ยวเพี๊ยบ!


โอซาก้า (Osaka)
โอซาก้า ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของภูมิภาคคันไซ อีกหนึ่งเมืองเศรษฐกิจที่ฮ็อตฮิตไม่แพ้กรุงโตเกียว ฉายาของโอซาก้าคือ “ครัวของชาติ” ฉะนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องปากท้อง เพราะที่นี่มีของกินอร่อยๆ เพียบ! นับเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางสำคัญที่นักท่องเที่ยวหลายคนอยากบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปเช็คอิน!

ย่านอุเมะดะ (Umeda)
เหมาะสำหรับ : คนที่มีแผนเดินทางไปเที่ยวยังเมืองรอบๆ ของคันไซ
จุดเด่น : นับเป็นชุมทางการเดินทางของคันไซก็ว่าได้ เพราะย่านอุเมะดะมีสถานีรถไฟแทบทุกสายตั้งอยู่ ไม่ว่าจะเป็น JR (Osaka Station) หรือรถไฟใต้ดิน รวมไปถึงรถไฟเอกชนอย่าง Hankyu ที่ใช้เดินทางไปเที่ยวยังเมืองใกล้เคียงอย่างเกียวโตด้วย ฉะนั้นแถวนี้จึงค่อนข้างคึกคักพอสมควร ที่กิน ที่ช็อป พร้อม!
จุดด้อย : ที่พักส่วนใหญ่ราคาค่อนข้างสูง และอาจไม่ใช่แหล่งรวมสถานที่ท่องเที่ยว เพราะส่วนใหญ่เป็นห้างสรรพสินค้า


ย่านนัมบะ และชินไซบาชิ (Namba and Shinsaibashi)
เหมาะสำหรับ : สายช็อป สายกิน ผู้หลงใหลความคึกคัก
จุดเด่น : จะบอกว่าเป็นย่านที่คึกคักที่สุดในโอซาก้าก็คงไม่ผิด เพราะเป็นพื้นที่ที่รวมสองย่านแห่งความคึกคักอย่างนัมบะ และชินไซบาชิ ไว้ด้วยกัน สถานที่ซึ่งนับเป็นสวรรค์ของนักช็อป และนักท่องเที่ยวสายกิน ทั้งยังเป็นจุดแลนด์มาร์กสำคัญที่ไม่ว่าใครก็ต้องมาถ่ายรูป เช็คอินด้วย
จุดด้อย : ที่พักส่วนใหญ่เต็มค่อนข้างเร็ว เพราะเป็นย่านยอดนิยม ฉะนั้นควรจองล่วงหน้านานสักหน่อยนะ

ชินไซบาชิ ถนนสายช็อปปิ้งที่ยาวววววว ได้ใจนักช็อป แถมยังมีแลนด์มาร์กอย่าง ป้ายกูลิโกะ ตั้งอยู่ตรงบริเวณโดทงโบริอีกด้วย

ชิน โอซาก้า (Shin-Osaka)
เหมาะสำหรับ : คนที่มีแผนเดินทางเที่ยวหลายภูมิภาค
จุดเด่น : Shin-Osaka Station คือสถานีที่มีชินคันเซ็นหรือรถไฟความเร็วสูงวิ่งผ่าน ฉะนั้นย่านนี้จึงเหมาะสำหรับคนที่เดินทางมาจากเมืองของภูมิภาคอื่น เช่น โตเกียว หรือต้องนั่งชินคันเซ็นลงไปเที่ยวที่คิวชูต่อ รวมถึงคนที่มี JR Pass และต้องนั่งชินคันเซ็นหรือรถไฟสาย JR บ่อยๆ ด้วย
จุดด้อย : นอกจากสถานีรถไฟชินคันเซ็นแล้ว รอบๆ ไม่ค่อยมีสถานที่ท่องเที่ยวอะไร ฉะนั้นจึงค่อนข้างเงียบเหงากว่าย่านอื่นๆ


ฟุกุโอะกะ (Fukuoka)
ฟุกุโอะกะ คือ ประตูสู่ภูมิภาคคิวชู เกาะทางใต้ที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ รวมถึงมีกิมมิคในการท่องเที่ยวที่น่ารักน่าค้นหาอย่างขบวนรถไฟซึ่งได้รับการออกแบบอย่างสวยงามเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว อาจเพราะเป็นด่านแรกของเส้นทางรถไฟชินคันเซ็นสายคิวชูซึ่งเชื่อมระหว่างเกาะคิวชูกับฮนชู ฟุกุโอะกะจึงกลายเป็นเมืองหลวงของเกาะคิวชูไปโดยปริยาย

สถานีรถไฟฮะกะตะ (Hakata Station)
เหมาะสำหรับ : คนที่ต้องการความสะดวกในการเดินทาง
จุดเด่น : สถานีฮะกะตะ นับเป็นชุมทางการเดินทางที่สำคัญ เป็นประตูสู่ภูมิภาคคิวชู ฉะนั้นจึงสะดวกสบายต่อการเดินทางเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในภูมิภาคที่มี “ขบวนรถไฟ” เป็นตัวเอกอย่างคิวชูด้วยแล้ว เราเชื่อว่าหลายคนคงวางแผนเพื่อนั่งรถไฟสวยหลายขบวนไปเที่ยวยังเมืองใกล้เคียง ฉะนั้นย่านนี้จึงรายล้อมไปด้วยที่พักมากมายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกสรรกันจ้า
จุดด้อย : เนื่องจากเป็นชุมทางการเดินทาง จึงค่อนข้างมีบรรยากาศวุ่นวายอยู่พอตัว


หล่อเลย รถไฟคิวชู พระเอกของภูมิภาคนี้ เท่าที่สังเกตดู เราว่าคนในสถานีฮะกะตะจะสะพายกล้องกันหนาตากว่าสถานีรถไฟที่ภูมิภาคอื่นน้า

ย่านเทนจิน (Tenjin)
เหมาะสำหรับ : สายช็อป สายกิน ผู้หลงใหลความคึกคัก
จุดเด่น : ถ้าถามหาความคึกคักและแสงสีในเมืองที่ได้ชื่อว่าน่าอยู่แห่งหนึ่งของโลกอย่างฟุกุโอะกะ ต้องปักหมุดที่ย่านเทนจินเลย เพราะเป็นย่านที่อัดแน่นด้วยความคึกคัก ทั้งห้างสรรพสินค้า แหล่งช็อปปิ้ง รวมถึงร้านอาหารมากมายเรียงรายให้ฝากท้อง เลือกพักย่านนี้รับรองไม่มีเหงา!
จุดด้อย : การเดินทางอาจไม่สะดวกสบายเท่ากับพักแถวสถานีรถไฟฮะกะตะ ฉะนั้นจึงเหมาะสำหรับคนที่ไม่มีแผนเดินทางเปลี่ยนเมืองบ่อยๆ มากกว่า

สาวๆ อย่าลืมปักหมุดที่ห้าง Tenjin Core มีร้าน Super Spinns ตั้งอยู่บนชั้น 8 ร้านใหญ่แบบกินพื้นที่ทั้งชั้น ช็อปกันให้กระเป๋าฉีกไปเล้ย!

ซัปโปโร (Sapporo)
ถ้าคิดจะไปเยือนเกาะที่ตั้งอยู่เหนือสุดของแดนอาทิตย์อุทัยอย่าง ‘ฮอกไกโด’ คงไม่มีใครมองข้ามชื่อ ซัปโปโร ไปได้ เพราะซัปโปโรนับเป็นเมืองหลวงของเกาะเหนือแห่งนี้ อีกทั้งยังเป็นจุดศูนย์รวมความเจริญ และชุมทางของระบบคมนาคมสาธารณะ ฉะนั้นไม่ว่าใครที่มาเยือนฮอกไกโดก็จะต้องแวะมาซัปโปโรก่อนจะเดินทางไปเมืองอื่นอย่างแน่นอน

สถานีรถไฟซัปโปโร (JR Sapporo Station)
เหมาะสำหรับ : คนที่มีแผนเที่ยวต่อไปยังเมืองอื่นๆ และต้องการความสะดวกในการเดินทาง
จุดเด่น : เรียกว่าเป็นชุมทางของเกาะฮอกไกโดก็ว่าได้ เพราะรถไฟแทบทุกสายจะต้องมาหยุดที่สถานี JR Sapporo บริเวณรอบๆ สถานีจึงรายล้อมไปด้วยที่พักให้เลือกหลากหลาย ทั้งโรงแรม โฮสเทล ราคาถูก ราคาแพง นับเป็นย่านที่พักที่เหมาะสำหรับคนมีแผนไปเที่ยวยังเมืองอื่นๆ เพราะสามารถลากกระเป๋าเดินเข้าสถานีรถไฟได้เลย
จุดด้อย : เราคิดว่าไม่มีนะ หนำซ้ำยังคิดว่าเป็นย่านที่เหมาะสำหรับการเลือกพักมากที่สุดของซัปโปโรด้วยซ้ำ เพราะไม่ใช่แค่เดินทางสะดวก แต่แถวนี้ยังรายล้อมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งด้วย : )


ย่านซูซูกิโนะ (Susukino)
เหมาะสำหรับ : คนรักแสง สี เสียง โหยหาความคึกคัก และมีแผนเที่ยวในตัวเมืองเป็นหลัก
จุดเด่น : นับเป็นย่านที่คึกคักที่สุดในซัปโปโร รายล้อมด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ และแหล่งบันเทิง มีให้เลือกอิ่มกันหลายร้านยันดึกดื่น รวมถึงเป็นแหล่งละลายทรัพย์ของหนุ่มสาวที่รักการช็อปปิ้งด้วย ^^
จุดด้อย : ถ้ามีแผนจะเดินทางไปเที่ยวเมืองอื่นด้วย ไม่ควรพักย่านนี้เพราะต้องนั่งรถไฟใต้ดินไปขึ้นรถไฟที่สถานี JR Sapporo อยู่ดี ฉะนั้นจึงเหมาะสำหรับคนที่มีแผนเที่ยวในตัวเมืองซัปโปโรแบบยาวๆ มากกว่า

