เที่ยวทะเลฤดูหนาว .. อาจจะเหงา
แต่ถ้าเป็นทะเลเมืองไทย ฤดูไหน เราก็รัก : )
“เรียบหรูแต่ดูดี” คือคำที่เราอยากนิยามให้ รีสอร์ท สุดชิค บรรยกาศสุดชิลบนเกาะช้าง อย่าง AWA Resort Koh Chang ซึ่งเป็นสถานที่ที่เหมาะเจาะสุดๆ สำหรับการพาร่างแบกหัวใจที่มันเหนื่อยล้ามาตลอดทั้งปี ไปพักผ่อนก่อนจบปีนี้ เพราะ ..
หนึ่ง .. อยู่ไม่ไกลจากกรุงฯ ขับรถไปได้ เดินทางสะดวก
สอง .. บรรยากาศดี อยู่ติดทะเล นอนฟังเสียงคลื่นชิลๆ
สาม .. รีสอร์ทสวย มีมุมถ่ายรูปชิคๆ หลายมุมมากแม่
สี่ .. มีกิจกรรมให้ทำมากมาย สาย Activity ไม่มีเหงา
ที่สำคัญ การเที่ยวทะเลฤดูหนาว นั้นมันยังโคตรจะดีเลยเธอ นอกจากจะไม่ร้อนแล้ว คลื่นลมยังสงบ เวลาที่ได้นั่งมอง มันทำให้ใจที่วุ่นวาย พลอยรู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ ถ้าใครยังไม่เคยไปเที่ยวทะเลฤดูหนาว ลองเปลี่ยนใจจาก “เขา” มาพักผ่อนดูสักครั้ง รับรองว่าเธอจะหลงรักทะเลหน้าหนาวเหมือนกับเรา 😊
ก่อนอื่นมาเริ่มกันที่การเดินทางสู่เกาะช้าง ซึ่งมันสะดวกสบายมากกก เพราะสามารถขับรถไปถึงท่าเรือแล้วเอารถลงเรือข้ามไปยังเกาะได้เลย โดยเราขับรถไปลงเรือกันที่ “ท่าเรืออ่าวธรรมชาติ” จะมีเรือออกทุกๆ 45 นาทีค่ะ ค่าเรือคนละ 80 บาท + ค่ารถอีก 120 บาท/คัน ถ้าไปวันธรรมดาจะจอดรอขึ้นเรือไม่นาน แต่ได้ข่าวว่าวันเสาร์ – อาทิตย์รถจะหนาแน่นหน่อย เพราะท่าเรืออ่าวธรรมชาตินั้นเป็นท่าเรือที่ใช้เวลาเดินทางข้ามไปเกาะช้างเร็วที่สุดค่ะ ประมาณ 30 นาทีเท่านั้น บนเรือมีห้องน้ำ มีร้านขายน้ำ ขายขนม นั่งกินลมชมวิวไม่นานก็ถึงแล้วค่า
หลังจากนั่งเรือข้ามมาถึงเกาะช้างแล้ว เราก็ขับรถต่อไปยัง AWA Resort อีกประมาณ 30 นาที เพราะตัวรีสอร์ทตั้งอยู่ที่หาดไก่แบ้ ค่อนข้างไกลจากท่าเรือเฟอร์รี่ ฉะนั้นบรรยากาศจึงเงียบสงบ เหมาะสำหรับการมาพักใจเป็นที่สุดเลยค่ะ
เราอยากนิยามเอวารีสอร์ทว่า “เรียบหรูแต่ดูดี” เพราะการออกแบบของที่นี่นั้นเน้นความเรียบง่ายสไตล์เซน (Zen) โดยที่มีกลิ่นอายของทางตะวันออกเข้ามาผสาน ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าเป็นการออกแบบที่สวยงามลงตัวตั้งแต่บริเวณล็อบบี้เลยล่ะค่ะ
เอวา นั้นเป็นรีสอร์ทที่ค่อนข้างใหญ่แต่ก็ไม่ใหญ่เกินจนทำให้เรารู้สึกขาดความอบอุ่นค่ะ โดยที่นี่มีห้องพักให้เลือกทั้งหมด 5 แบบ คือ Superior Hillside / Deluxe / Deluxe Premium / Deluxe Beachfront และ Beach Front Suite
น่าอิจฉาห้องนี้จัง จองห้องพักแถมแมวขี้เซาให้ด
้วยหนึ่งตัว ; D
ห้องของเราในทริปนี้ คือ Deluxe Beachfront เป็นห้องที่ใกล้ทะเลที่สุดเลยค่ะ ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ติดซะทีเดียว แต่ก็สามารถเดินไปได้ไม่ไกล ส่วนขนาดห้องนั้นกว้างขวางถึง 54 ตร.ม. แถมมีที่นั่งตรงระเบียงไว้นั่งรับลมเย็นๆ หรือนอนฟังเสียงคลื่นอีก ชิลมากๆ เลยค่ะ
ในห้องพักมีผลไม้ใส่จานวางไ
ว้ต้อนรับด้วย
เราได้ห้องที่อยู่ชั้นหนึ่งเลย พอมองออกไปจากที่นั่งตรงระเบียงก็จะเห็นทะเลอยู่ไกลๆ ข้อดีคือห้องพักมุมนี้เงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน เพราะคนไม่ค่อยเดินผ่าน จึงค่อนข้างเป็นส่วนตัวมากๆ เลยค่ะ
หันขวาจะเป็นมุมระเบียง ส่วนหันซ้ายมาจะเป็นกระจกห้องน้ำ ซึ่งจะมีอ่างอาบน้ำตั้งอยู่ติดริมหน้าต่างเลยค่ะ ตรงบานเกล็ดนั้นสามารถรูดเปิด – ปิดได้ เวลาทำธุระส่วนตัวจะได้ไม่มีใครแอบมอง
ห้องน้ำก็กว้างมากเช่นกัน แยกส่วนแห้ง ส่วนเปียก โดยที่มีอ่างอาบน้ำตั้งไว้ต
รงกลาง สาวติดอ่างอย่างเรา เห็นอ่างแบบนี้แล้วอดใจไม่เ คยไหวเลยค่าา
พักผ่อนในห้องจนหายเหนื่อย ก็ออกมาเดินเล่นรอบๆ รีสอร์ท ซึ่งมีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมากกก แต่มุมที่เราชอบมากกก และเห็นหลายๆ คนที่ไปก็ถ่ายรูปมุมนี้กันเยอะเลย ก็คือต้นมะพร้าวสูงใหญ่ตรงริมทะเลค่ะ .. เห็นท้องฟ้าของทะเลฤดูหนาวมั้ย มันจะสดใสประมาณนี้แหละเธอออ
ห้องอาหารของเอวาตั้งอยู่ติดริมทะเลย ชื่อ The Sala บรรยากาศดีมาก สามารถมาทานอาหารกลางวันหรือดินเนอร์กันที่นี่ได้
ที่นี่เสิร์ฟทั้งอาหารไทย และอาหารฝรั่งนะคะ รสชาติดีทีเดียว
อิ่มแล้วใครขาดกาแฟไม่ได้ หรืออยากเติมความหวานเพิ่มอีกนิด ก็แวะมาที่ The Teas Cafe ซึ่งเป็นคาเฟ่ของรีสอร์ท ตั้งอยู่ตรงบริเวณล็อบบี้ได้เลยค่ะ
อิ่มคาว อิ่มหวาน แล้วอยากเดินย่อย ก็มาเดินเล่นรับลมชิลๆ ตรงสระว่ายน้ำได้ เราว่ามุมนี้ก็สวยมาก ให้อารมณ์เหมือนรีสอร์ทที่บาหลีเลยค่ะ สระว่ายน้ำก็ยาวมากกก ถ้าว่ายน้ำเพื่อออกกำลังกายนี่เผาผลาญได้หลายแคล 555
คนไทยอย่างเรา ถ้าสู้แดดเหมือนฝรั่งเขาไม่ไหว สามารถหลบมานอนนวดชิลๆ ที่ The Spa ได้นะคะ ที่นี่เขามีบริการนวดไทย นวดสปาหลายโปรแกรม สามารถโทรไปจองเวลานวดที่ล็อบบี้ได้เลย
เจ้าเหมียวที่รีสอร์ท เท่าที่มองๆ เห็นมีอยู่ 2 ตัว เดินต้วมเตี้ยมไปซะรอบเลย ทาสแมวอย่างเฮาก็อดใจไม่ไหวจ้า ขออุ้มหน่อยน้าาา
บรรยากาศยามเย็นที่ริมชายหาด พระอาทิตย์ตกสวยมากกก ฟ้าระเบิดกันไปเลยยย
ไม่อยากนั่งดูพระอาทิตย์เฉยๆ อยู่ริมชายหาด สามารถเช่าคายัคพายไปนั่งดูแสงสุดท้ายกลางทะเลได้นะคะ ทางรีสอร์ทมีคายัคให้เช่าด้วยค่ะ ติดต่อกับพนักงานที่เดินอยู่บริเวณริมทะเลได้เลย
หรือถ้าใครพายไม่ไหว จะนั่งไกวชิงช้าชิลๆ ริมทะเลก็ได้ สวยไม่แพ้กัน
พายคายัคจนเหนื่อยก็ได้เวลาอาหารเย็น ซึ่งบางวันทางรีสอร์ทจะจัดบุพเฟ่ต์ริมชายหาดด้วยค่ะ เราไปพัก 3 วัน 2 คืน มีมื้อของวันที่ 2 ที่ตรงกับวันที่ทางรีสอร์ทจัดบุพเฟ่ต์ริมชายหาดพอดี
ถ้าใครไม่ได้มาตรงกับวันที่มีบุฟเฟ่ต์ริมชายหาด เราแนะนำเซ็ตนี้เลยค่ะ Fisherman Feast ราคา 999 บาท มีซีฟู้ดจุกๆ ให้ 1 เซ็ต ข้าวผัดและสลัดเติมไม่อั้น พร้อมกับน้ำมะพร้าวอีก 2 ลูก คุ้มสุดๆ ขอโบกกก
ดนตรีสดมีมาเสิร์ฟพร้อมอาหารอร่อยทุกวัน โดยจะสลับผลัดเปลี่ยนสไตล์เพลงไปเรื่อยๆ ค่ะ เราไปตรงกับวันที่มีวงเร็กเก้มาเล่น โอ๊ย เล่นดีมาก ม่วนจนฝรั่งต้องลุกขึ้นมาแดนซ์
นอกจากนี้ก็ยังมีการแสดงไฟด้วย ตื่นตาตื่นใจสุดๆ เรียกว่าเป็นการแสดงที่เรียกเสียงฮือฮาได้ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ดูกันแบบไม่ละสายตาเลยค่ะ
ทำงานเหนื่อยมาทั้งปี ได้พาใจไปพักที่รีสอร์ทสวยบรรยากาศดี มันดีแบบนี้นี่เอง เรายังคงยืนยันว่าเที่ยวทะเลฤดูหนาวอาจจะเหงา แต่ถ้าเป็นทะเลเมืองไทย ฤดูไหนๆ เราก็รักเสมอ ฤดูหนาวนี้ ลองชวนคนที่รักไปพักที่ AWA Koh Chang กันนะ แล้วเธอจะหลงรักทะเลไทยในฤดูหนาว : )
