3 แหล่งชมงานศิลปะสุดเซอร์ไพรส์ใกล้โตเกียว
3 Surprise Art Gallery nearby Tokyo
- July, 2017 -
อย่าเพิ่งร้องยี้! เมื่อเราบอกว่าจะพาไปทำความรู้จักกับ Art Gallery เพราะนี่จะเปลี่ยนมุมมองที่มีต่องานแสดงศิลปะของคุณไปตลอดกาล!!!

01
The World Fastest Art Gallery ‘Genbi Shinkansen’
Echigo - Yuzawa


‘แกลเลอรี่ศิลปะที่เคลื่อนที่ได้เร็วที่สุดในโลก’ คือสมญานามของรถไฟ Genbi Shinkansen ขบวนนี้ ซึ่งเป็นขบวนพิเศษที่รวบรวมงานศิลปะร่วมสมัยเอาไว้ให้ผู้โดยสารได้ชื่นชมขณะเดินทาง ประกอบไปด้วยตู้โดยสาร 6 ตู้ โดยแต่ละตู้จัดแสดงผลงานที่แตกต่างและหมุนเวียนกันไปในแต่ละช่วงเวลา มีให้บริการทั้งตู้ที่ต้องจองตั๋วที่นั่งล่วงหน้าและที่ไปซื้อเอาหน้าสถานี แถมยังมีร้านให้บริการเครื่องดื่มและของหวานให้เราได้ซื้อหาไปนั่งชิมระหว่างชมงานอาร์ต หรือจะชิมไปชมวิวนอกหน้าต่างไปก็ไม่ว่ากัน ที่นั่งในขบวนก็แตกต่างจากเก้าอี้บนรถไฟทั่วไป เพราะแลดูคล้ายการนั่งเล่นบนโซฟาที่บ้านมากกว่าการโดยสารรถไฟที่เราเคยชิน นั่งจิบกาแฟ กินขนม เม้าท์มอยกันไป ตาซ้ายก็เหลือบดูวิวธรรมชาตินอกหน้าต่าง ฝั่งตาขวาก็แลดูงานอาร์ต โอ๊ยยยยย ฟิน!
รถไฟขบวนนี้วิ่งระหว่างเส้นทางจาก Echigo – Yuzawa ถึงปลายทางสถานี Niigata เฉพาะแค่เสาร์และอาทิตย์เท่านั้น และเพิ่งเปิดให้บริการได้แค่ปีกว่าๆ ยังถือได้ว่าใหม่ในระดับนึงอยู่นะ จะมาเป็นหมู่คณะ หรือจะควงคู่กันมาออกเดทกระจุ๋งกระจิ๋งก็ได้หมด รับรองว่าสดชื่นนน


การเดินทาง: จากสถานีรถไฟ Tokyo Station นั่งชินคันเซ็นมาลงยังสถานี Echigo – Yuzawa ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ ถ้ามาถึงไม่ตรงกับวันเสาร์ – อาทิตย์ แวะนอนค้างเมืองนี้ซักคืนก็ยังได้ เพราะเดินเที่ยวง่าย สะดวกสบาย แถมของกินอร่อยด้วยนะ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : http://www.jreast.co.jp/genbi/en/
02
Sex Gallery
Ikaho, Gunma


แค่เห็นคำว่าเซ็กส์อย่างเดียว ก็ตาลุกกันแล้วใช่มั้ย — จะว้าวไปกว่านั้นถ้ารู้ว่าแกลเลอรี่แห่งเซ็กส์นี่มันอยู่ในศาลเจ้าอีกต่างหาก!! — แต่ไม่ต้องทำเป็นอุ๊ยตายว้ายกรี๊ดไปจ้ะ เพราะแม้ชื่อจะดูหวาดเสียวไปซักนิด แต่จริงๆ แล้วเซ็กส์ที่เรากำลังจะพามาดูนี้ มันอยู่ในรูปแบบของงานศิลป์ต่างหาก ตัวแกลเลอรี่ตั้งอยู่ในศาลเจ้า Chinpo แห่งเมืองอิคาโฮ จังหวัดกุนมะ ทันทีที่ซื้อตั๋วแล้วก้าวเท้าเข้าไปในศาลเจ้านี้ สิ่งที่จะกระแทกตาเราเป็นอย่างแรกคือหินสองอันที่จัดวางไว้คู่กัน เป็นรูปอวัยวะส่วนสำคัญของชายและหญิงจ้ะ ถ้าจำไม่ผิด สองอันนี้เกิดจากธรรมชาติด้วยนะ เหมือนว่าจะเป็นการกัดเซาะของลาวาภูเขาไฟ อะไรประมาณนั้น ถ้าผิดจากนี้ ก็ขออภัยเถอะ เพราะคุณป้าที่เป็นเจ้าหน้าที่พร้อมไกด์นำเที่ยวไปในคนเดียวกันน่ะแกบรรยายเป็นญี่ปุ่นรัวๆ คนที่แปลให้ฟังก็แปลแทบไม่ทัน ดังนั้น #เข้าใจตรงกันนะ
ด้านในมีชิ้นงานศิลปะหลากหลายจัดแสดงอยู่ ทั้งรูปวาด รูปปั้น แบบโบราณและแบบร่วมสมัย เอาจริงๆ แต่ละชิ้นศิลปินซ่อนอะไรไว้หลายสิ่งนะ ถ้าดูด้วยแง่มุมของศิลปะแล้ว บางชิ้นก็เจ๋งมากนะคุณ คือไม่รู้จะอธิบายยังไง ให้รูปมันบรรยายตัวมันเองก็แล้วกันเนอะ
ส่วนที่แซ่บที่สุดของพิพิธภัณฑ์นี้ ก็ต้องยกให้คุณป้าผู้นำชมนั่นละ เท่าที่สังเกตคือนอกจากแกจะพูดจาแซวนักท่องเที่ยวที่แวะมาแบบทะลึ่งตึงตังตลอดเวลาแล้ว อย่าไปท้าอะไรแกเชียวนา เพราะแกคนจริง นึกอยากคว้าอะไรแกก็คว้าหมับเข้าให้เลยทีเดียวละ … เอาน่ะ ทำใจสบายๆ อย่าไปถือสานะ เพราะนี่คืออีกหนึ่งวัฒนธรรมของชาวปลาดิบเค้า ที่เราอาจจะแค่ไม่คุ้นเท่านั้นเอง ถ้าไม่คิดอะไรมาก บอกเลยว่าที่นี่ก็มันไปอีกแบบนะเอ้า!!


การเดินทาง: จากสถานีรถไฟ Tokyo Station นั่งชินคันเซ็นสาย Joetsu Shinkansen หรือ Nagano Shinkansen ไปลงที่สถานี Takasaki จากนั้นต่อรถบัสไปอีกประมาณ 50 นาที แล้วลงป้าย Ueno hara ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถหรอกน่า จริงมั้ย!
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : http://chinpoukan.com หรือ https://www.facebook.com/chinpoukan/
03
Echigo - Tsumari Art Field
Tokamachi - Tsunan, Niigata
[ Photo by : RockzHeart เพจเที่ยวรั่วทั่วญี่ปุ่น ]



นี่คืออาร์ตแกลเลอรี่ที่มีพื้นที่สุดสายตา เพราะกระจัดกระจายใช้พื้นแสดงเรียกได้ว่าเกือบจะครอบคลุมเมืองทั้งเมือง! ซึ่งงานอาร์ตสุดอลังการงานนี้จะเกิดขึ้นทุก 3 ปี โดยมีการจัดแสดงทั้งกลางแจ้งและในร่ม แต่ละแห่งจะมีคอนเซ็ปท์แตกต่างกันไป โดยพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะส่วนใหญ่ เป็นพื้นที่และอาคารสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่ถูกทิ้งให้รกร้าง เนื่องจากผู้คนในเมืองมีการอพยพทิ้งถิ่นที่อยู่ไปใช้ชีวิตในเมืองใหญ่กันเยอะ จนประชากรในเมืองนี้ลดลง ซึ่งแนวคิดนี้ก็ประสบผลสำเร็จในการดึงดูดผู้คนจากทุกสารทิศ ให้เดินทางมายังเมืองนี้เพื่อชมงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ พื้นที่จัดแสดงมีตั้งแต่ทุ่งนา พื้นที่ที่เคยถูกทิ้งร้างว่างเปล่าจนเป็นแหล่งเสื่อมโทรมหรือกลายเป็นที่ทิ้งขยะ อุโมงค์สำหรับเดินออกไปชมวิวเทือกเขา ไปจนถึงอาคารโรงเรียนร้าง แหม … เค้าก็ขยันมีให้เลือกหลายอารมณ์ สมคำร่ำลือที่ว่าเมืองนีงาตะ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองอาร์ตสุดฮิปสเตอร์แห่งหนึ่งของแดนปลาดิบจริงๆ




การเดินทาง: จากสถานีรถไฟ Tokyo Station นั่งชินคันเซ็นมาลงยังสถานี Echigo – Yuzawa จากนั้นต่อรถไฟท้องถิ่นสาย Hoku Hoku มายังสถานี Tokamachi ซึ่งสถานีนี้ จะเป็นศูนย์รวมการเดินทางไปยังจุดต่างๆ ของพื้นที่แสดงงาน เนื่องจากพื้นที่ของ Echigo – Tsumari เป็นพื้นที่ที่ต่อเนื่องคาบเกี่ยวกันระหว่างเมือง Tokamachi และหมู่บ้าน Tsunan ดังนั้น วางเป้าหมายไว้เลยว่าอยากไปดูงานอาร์ตในส่วนไหน แล้วกระจายตัวจากสถานีนี้ได้เลย
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : http://www.echigo-tsumari.jp/eng/
เหมือนจะจบ แต่ยังไม่จบ เพราะทีเด็ดของงานนี้อยู่ตรงที่ ถ้าคิดว่าแค่เดินดูยังไม่สะใจ นี่เลย... คุณสามารถเข้าพักในส่วนที่เป็นงานแสดงบางที่ได้ด้วยละ ยกตัวอย่างมาแนะนำกันซัก 2 - 3 แห่ง พอเป็นกระสัยแล้วกันเนอะ
Sansho House

เป็นการนำอาคารเรียนเก่าของโรงเรียนประถมซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขามารีโนเวทใหม่ ให้กลายเป็นอาคารที่พัก น่าจะให้ความรู้สึกคล้ายการมานอนเข้าค่ายค้างคืนในโรงเรียนดีนะ ที่นี่มีผลงานศิลปะชื่อ ‘Lost Winter’ ของ Leandro Erlich ซึ่งจะร่วมแสดงในงาน Echigo – tsumari Art Field ปี 2018 นอกจากนั้นยังมีห้องยิม ห้องสมุด แกลเลอรี่ และประทานโทษ นางมีบ่อออนเซ็นบนดาดฟ้าด้วยจ้ะ ห้องพักถูกดัดแปลงจากห้องเรียน เหมาะมากกกกก หากอยากรำลึกความหลังในวัยเยาว์
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : http://www.sanshohouse.jp/english.html
[ Photo by : www.sanshohouse.jp ]
Dream House

ที่พักแห่งนี้เกิดขึ้นมาภายใต้คอนเซ็ปท์ประมาณว่าอยากให้คุณเผชิญหน้าและดื่มด่ำจดจำกับความฝันของตัวเองได้อย่างเต็มที่ เพราะที่นี่คุณต้องนอนใน ‘โลง’! — ศิลปินเจ้าของไอเดียอย่าง Marina Abramovic ศิลปินชาว Yugoslavia เจตนาให้เป็นโลงหรือเปล่า อันนี้ก็สุดจะคาดเดาได้ แต่ที่แน่ๆ ถ้ามันไม่ใช่ก็คล้ายมากกกกกละค่ะ แต่ละห้องที่คุณเข้าพัก จะมีการเล่นกับแสงเป็นหลัก โดยแบ่งห้องตามสี คือ แดง น้ำเงิน เขียว ม่วง ซึ่งเป็นสีที่ชวนนอนมากกกกกกก (เหรอ?) เรื่องของเรื่องจริงๆ ที่เค้าบอกไว้คือ อยากให้เราได้ลองอยู่กับตัวเองนั่นละ เพราะว่าในชีวิตปกติน่ะ วันทั้งวัน เราต้องอยู่กับความอึกทึกวุ่นวายของโลกภายนอกมากมายเหลือเกินจนไม่มีเวลาคิดถึงตัวเอง ที่เก๋คือเค้ามี Dream Book ไว้ให้เราได้จดความฝันที่นิมิตขึ้นเวลาที่นอนอยู่ที่นี่ลงไปกันลืมด้วยนะ ใครสนใจลองจองไปเลย ครั้งหนึ่งในชีวิตน่า หาประสบการณ์แบบนี้ไม่ได้จากที่อื่นนะคุณ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : http://www.tsumari-artfield.com/dreamhouse/en/
[ Photo by : www.tsumari-artfield.com ]
House of Light

หากอยากนอนหลับไปภายใต้บ้านที่เต็มไปด้วยศิลปะแห่งแสงสี ที่นี่คงเหมาะที่สุดแล้วละ เพราะนี่คือบ้านหลังใหญ่สไตล์ญี่ปุ่นที่ James Turrell ศิลปินชาวอเมริกันจับมาผสานกับการใช้ศิลปะของแสงและสีได้อย่างน่าทึ่ง ในบ้านหนึ่งหลังกว้างๆ ที่เราเห็นอยู่นี้ มีทั้งห้องนอนที่หลังคาสามารถเปิดโล่ง ให้เราอิ่มเอมกับการนอนดูแสงสีของธรรมชาติที่ค่อยๆ เปลี่ยนไปตามช่วงเวลาของวัน แถมยังนอนเอกเขนกดูดาวได้แบบสบ๊ายยย สบาย ทั้งที่เราอยู่ภายใต้หลังคาบ้านแบบญี่ปุ๊นญี่ปุ่น! หรือถ้ายังไม่สะใจกับแสงของธรรมชาติ ลองลงไปแช่น้ำใน Light Bath ดูบ้างเป็นไร ด้วยเทคนิคใยแก้วนำแสง จะทำให้ทุกการเคลื่อนไหวใต้น้ำของเรามีแสงสีวูบวาบเรียกความประหลาดใจไปอีกแบบเลยละ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : http://hikarinoyakata.com/eng/
[ Photo by : hikarinoyakata.com ]
AUTHOR

S.J.
สาว (เหลือ) น้อย ที่ชอบคิดว่าตัวเองยังเอ๊าะ
รักการแบกเป้ตะลุยโลก (โดยเฉพาะฝั่งเอเชีย) ชอบที่จะได้
เรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่างของแต่ละตารางเมตรบนแผนที่ผ่าน
อาหารการกินและการเม้าท์มอยกับผู้คนท้องถิ่นเป็นอย่างยิ่ง
แต่ยังไปได้ไม่กี่ประเทศเพราะทุนยังไม่อำนวย …
รวยเมื่อไหร่จะพาทุกคนในเว็บนี้ไปให้ได้ ไม่เชื่อคอยดู!