ปีที่แล้วแค่ปีเดียว เราไปเที่ยว กระบี่ ถึงสองครั้ง! เหตุผลก็เพราะไปแค่ครั้งเดียว มันยังเที่ยวไม่เต็มอิ่ม ทั้งที่เคยเมมโมรี่ไว้ว่ากระบี่เป็นแค่จังหวัดเล็กๆ แต่เอาเข้าจริง มันไม่ใช่เลยเด้อออ ~ กระบี่เป็นจังหวัดที่มีที่เที่ยวเยอะมาก! แถมยังมีหลากหลายฟีล ไม่ได้มีแค่ทะเลให้ไปนั่งโต๋เต๋ฟังเสียงคลื่นเท่านั้น รีวิวนี้ก็เลยอยากจะรวบรวมที่กิน ที่เที่ยว ที่พักของจังหวัดกระบี่มาไว้เผื่อเป็นไกด์ให้คนที่กำลังมีแพลนลงใต้ไปสัมผัสมนต์เสน่ห์ของกระบี่ เพราะช่วงนี้สถานการณ์ต่างๆ ในบ้านเราเริ่มดีขึ้นมากแล้ว ธรรมชาติก็ฟื้นตัว ชาวต่างชาติก็ไม่ค่อยมี นาทีนี้ประเทศไทยเป็นของเรา! ฉะนั้นจึงถือเป็นช่วงเวลาดีๆ ที่จะชวนคนข้างๆ ออกไปเที่ยวกัน มามะ มามุงกันตรงนี้ เราจะพาไปเที่ยวกระบี่แบบโพสต์เดียวจบไปเลย!

การเดินทางไปกระบี่
จากกรุงเทพฯ ถึงกระบี่ ระยะทางห่างกันประมาณเกือบ 800 กิโลเมตร ฉะนั้นถ้าขับรถไปคงเหนื่อยน่าดู จากประสบการณ์ที่ขับรถไประนองบ่อยๆ (เพราะบ้านยายอยู่ที่นั่น) อยากจะบอกว่าเวลานั่งรถนานๆ นี่มันกินพลังงานสุดๆ เพราะงั้นนั่งเครื่องบินเถอะลูกกก ใช้เวลาเดินทางแค่หนึ่งชั่วโมงนิดๆ เท่านั้นเอง ตอนนี้มีเที่ยวบินไปกระบี่ถี่ขึ้นแล้วด้วย ถ้ายังไม่ชัวร์ว่ามีสายการบินไหนเปิดบินไปกระบี่แล้วบ้าง ลองเข้าไปเช็คแล้วจองผ่านเว็บไซต์ Traveloka เลยก็ได้ แค่คลิกเดียวก็มีเที่ยวบินขึ้นมาให้เลือกทุกเวลา ทุกสายการบิน พร้อมบอกราคาเสร็จสรรพ จองง่าย ไม่วุ่นวาย แล้วก็นอนรอวันเดินทางแบบสวยๆ ได้เลย ~
จองตั๋วเครื่องบินไปกระบี่กับ Traveloka

ที่พักในกระบี่
ที่พักในกระบี่มีให้เลือกเยอะมากกก ราคาก็เป็นมิตรสุดๆ บางที่ราคาไม่ถึงหนึ่งพันบาทต่อคืนด้วยซ้ำ โดยส่วนใหญ่ เขาจะนิยมพักกันแถวๆ อ่าวนางค่ะ ตรงนั้นจะมีโรงแรม/รีสอร์ทตั้งอยู่เยอะมาก ฉะนั้นก็เลยคึกคักทั้งคืน หาของกินง่าย เดินทางไปไหนก็สะดวก ส่วนใหญ่โรงแรมที่พักเขาจะมีรถรับ – ส่งฟรีระหว่างที่พักกับอ่าวนางอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทาง หรือถ้าอยากไปเที่ยวนู้นเที่ยวนี่สะดวกหน่อยจะเช่ารถขับก็ได้ค่ะ ราคาไม่แพง ตกประมาณหกถึงเจ็ดร้อยบาทต่อวัน แต่ถ้าใครไม่สะดวกเช่ารถขับ แนะนำให้จอง Airport Transfer กับเว็บไซต์ทราเวลโลก้า เป็นรถรับ – ส่งระหว่างสนามบินกับที่พัก ราคาไม่แพงมากค่ะ ยิ่งถ้าไปกันหลายคน หารกันคุ้มสุดๆ ลงจากเครื่องปุ๊บ มีคนมารอรับที่ทางออกเลย สะดวกมากๆ ใครสนใจคลิกเข้าไปจองได้เลยที่ลิงก์นี้จ้า > Click <


ส่วนที่พักในกระบี่ที่เราเคยพักมี 2 โรงแรม คือ Centra by Centara Phu Pano Krabi (ภาพด้านบน) และ Sea Seeker Krabi Resort (ภาพด้านล่าง) ดีงามทั้งสองที่ค่ะ แต่ Sea Seeker จะใกล้อ่าวนางมากกว่า ราคาถูกกว่า ประมาณ 800 บาท/คืน ส่วน Centra by Centara Phu Pano จะอยู่ไกลออกไปจากอ่างนางอีกนีส ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,xxx บาท/คืน ข้อดีคือเงียบสงบและได้มาตรฐานตามแบรนด์ Centara เขาละ แต่ค่อนข้างเหมาะสำหรับคนเช่ารถขับมากกว่าค่ะ เพราะยิ่งไกล ร้านอาหารก็ยิ่งมีตัวเลือกน้อยลง ถ้าเน้นคึกคักๆ หน่อย Sea Seeker จะค่อนข้างตอบโจทย์กว่าค่า


ที่เที่ยวในกระบี่
หนึ่งเหตุผลที่เราชอบมากๆ ของจังหวัดกระบี่ก็คือที่นี่ไม่ได้มีดีแค่ทะเล แต่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็น บ่อน้ำพุร้อน คลอง น้ำตก หรือจะซื้อทัวร์ออกไปเที่ยวเกาะก็ได้ ใครเป็นสาย Cafe Hopping ก็ไม่ผิดหวัง เพราะกระบี่เองก็มีคาเฟ่ชิคๆ อยู่มากมายหลายร้าน ฉะนั้นมาเที่ยวกระบี่ รับรองว่าไม่มีเบื่อสักวันแน่นอนค่ะ
► ท่าปอม คลองสองน้ำ ◄


จะเรียกว่าเป็นอีกหนึ่ง Unseen ของประเทศไทยก็ไม่ผิดนัก เพราะคลองท่าปอมนั้นเป็นทั้งคลองน้ำจืดและน้ำเค็ม เวลาที่น้ำทะเลขึ้นก็จะไหลเอ่อเข้ามาในคลอง ทำให้น้ำในคลองเป็นน้ำเค็มและน้ำกร่อย แต่เมื่อน้ำทะเลลง ท่าปอมก็จะกลับมาเป็นคลองน้ำจืดอีกครั้ง นี่จึงเป็นที่มาของชื่อ ‘ท่าปอม คลองสองน้ำ’ นั่นเอง ได้ลองมาเที่ยวด้วยตัวเองแล้วรู้สึกได้เลยว่า เมืองไทยเรามีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าอัศจรรย์อยู่หลายแห่งจริงๆ
► หนองทะเล ◄

ค่อนข้างเป็นสถานที่แรร์ไอเท็มพอสมควรสำหรับ ‘หนองทะเล’ หนองน้ำขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ภายในชุมชนบ้านหนองทะเล ถึงแม้จะมีคำสร้อยว่าทะเล แต่พื้นที่ตรงนี้ไม่ใช่ทะเลนะ ฉะนั้นมนต์เสน่ห์ของหนองทะเลจึงแตกต่างจากสถานที่อื่นๆ ในกระบี่อยู่มาก ยิ่งถ้าใครเป็นช่างภาพสายแลนด์สเคป ยิ่งต้องปักหมุดที่นี่ไว้เป็นหนึ่งในลิสต์เลย กะเวลามาถ่ายแสงเช้าให้ทัน รับรองว่าจะได้ภาพที่พูดได้คำเดียวเลยว่า “สวยมากกกกกกกก” เรางี้ยังประทับใจไม่รู้ลืมเลย สำหรับเช้าวันนั้นที่หนองทะเล : )


► วัดถ้ำเสือ ◄
เคยเห็นภาพภาพนึงในอินเทอร์เน็ต เป็นภาพเจดีย์ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาโดยมีทะเลหมอกลอยขาวอยู่เบื้องหน้า จำได้ว่าตราตรึงใจมาก รีบหาว่ามันคือที่ไหนกันนะ แล้วก็เจอว่าภาพที่เห็นคือ ‘พระธาตุเจดีย์ยอดเขาแก้ว’ ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดถ้ำเสือนั่นเอง ฉะนั้นพอมีโอกาสได้ไปกระบี่ เราก็เลยไม่พลาด รีบตื่นแต่เช้า ขับรถไปถึงวัดถ้ำเสือตอนที่พระท่านยังทำวัตรเช้ากันอยู่เลย รอบข้างนี่มืดไปหมด เดินไปก็ได้ยินเสียงสวดมนต์ระคนเสียงหมาหอน หวั่นๆ ในใจอยู่เหมือนกัน แต่หวังเอาไว้ว่าอยากมาเห็นหมอก พยายามกลั้นใจลากสังขารพาตัวเองขึ้นไปให้ได้! สรุปเดินขึ้นไปถึงยอดตอนฟ้าสว่างพอดี .. ไม่มีหมอก จบจ้า! 5555


แต่ถามว่าคุ้มค่าไหมกับการพาตัวเองเดินขึ้นบันได 1,237 ขั้นมา ก็ต้องยอมรับว่าคุ้มค่ามาก เพราะด้านบนนอกจากจะมองเห็นวิวเมืองกระบี่ได้โดยรอบแล้ว ยังเป็นที่ประดิษฐานของรอยพระพุทธบาทจำลองอีกด้วย แต่ถ้าใครอยากขึ้นไปก็ต้องฟิตๆ หน่อยน้า เพราะทางขึ้นค่อนข้างชั้น แล้วก็เป็นบันไดทุกขั้น ก็เลยเหนื่อยกว่าเดินขึ้นเขาปกติจ้า


► เกาะห้อง ◄
เกาะห้อง เป็นอีกหนึ่งเกาะที่เราได้ยินมาหนาหูว่าสวยเหลือเกิน ใครไปกระบี่ต้องห้ามพลาด ซึ่งก็ต้องบอกว่าหลังจากที่ได้มีโอกาสมาเห็นเกาะห้องด้วยตาของตัวเอง ขอยอมรับเลยว่า เฮ้ย มันสวยกว่าที่คิดมาก น้ำทะเลอาจจะไม่ได้ใสอลังการเหมือนทางฝั่งเกาะพีพี แต่เป็นทะเลที่เงียบสงบ มองแล้วสบายตา แถมยังทำให้เราได้มีโอกาสเห็นระบบจัดการการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ว่าทำได้ดีมาก ขยะบนเกาะนี่แทบไม่มีเลย มีเวลาเปิดปิดเกาะชัดเจน ถือว่าประทับใจเกินคาดค่ะ ถ้าใครไม่ค่อยชอบทำกิจกรรมหนักๆ เช่น ดำน้ำ แต่อยากเดินเล่น พักผ่อน ถ่ายรูปสวยๆ แนะนำทัวร์เกาะห้องเลย ไม่ผิดแน่นอนจ้า



ที่กินในกระบี่
สายคาเฟ่อย่าเพิ่งร้องเอ๋ ~ นึกสงสัยว่า ถ้ามากระบี่แล้วจะมีคาเฟ่ดีๆ ให้นั่งจิบกาแฟ ถ่ายรูป เช็คอินหรือเปล่า? ขอบอกตรงนี้เลยว่า มี! และมีให้เลือกหลายร้านหลายฟีลด้วย ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นสายคาเฟ่หรือสายกิน บินข้ามน้ำมากระบี่ รับรองว่าไม่มีผิดหวังแน่นอนจ่ะ : )
► Tew Lay Bar ◄

คาเฟ่ลับที่จะไม่ลับอีกต่อไป เพราะฮ็อตมากกกกก โดยเฉพาะมุมถ่ายรูปสุดชิคบนเก้าอี้ต้นไม้ที่ยื่นออกไปในทะเล คาเฟ่นี้ตั้งอยู่ที่หาดไร่เลย์นั่นเอง ต้องนั่งเรือจากอ่าวน้ำเมาไป ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 15 นาที ค่าเรือไป – กลับ 200 บาท ซึ่งจากคำบอกเล่าในรีวิวอื่นๆ เขาบอกว่าหลังจากเรือจอดเทียบท่าจะต้องเดินไปทางขวาอีกประมาณ 5 นาที แต่ตอนเรานั่งเรือ มีเด็กที่ทำงานในร้านนั่งไปด้วยพอดี คิดว่าเขาน่าจะบอกคนขับเรือให้แวะจอดตรงหน้าร้านด้วย เราก็เลยได้อานิสงส์ผลบุญ ส่งตรงลงถึงหน้าร้านโดยที่ไม่ต้องเดินเลย ฉะนั้นถ้าใครจะไปลองกระซิบถามคนขับเรือดูก่อนก็ได้ว่าสามารถแวะส่งที่ร้าน Tew Lay Bar เลยได้ไหม จะได้ไม่ต้องเดินไป เพราะไกลกว่า 5 นาทีแน่นอน ตอนเราเดินกลับไปขึ้นเรือเพื่อกลับฝั่งอ่าวน้ำเมาคิดว่าน่าจะเดินประมาณ 10 นาทีได้ ถ้าไปตอนกลางวันอากาศร้อนมากๆ ด้วยค่า


สิ่งสำคัญคือควรเช็คเวลาน้ำขึ้น น้ำลง ก่อนไป เพราะถ้าไปผิดเวลา เจอช่วงน้ำลงจะถ่ายรูปออกมาไม่สวย เช็คพยากรณ์น้ำขึ้น – ลง ก่อนได้ที่นี่เลยจ้า > Click <
► The Boat coffee by the nine thipthara ◄

เป็นร้านที่บรรยากาศดีมากกกกกกก บวกสิบๆๆ ไปเลย เราไปถึงช่วงเย็นๆ อากาศไม่ร้อน นั่งชิลอยู่นานเลยค่ะ โดย The Boat coffee ตั้งอยู่ที่หาดคลองม่วง ค่อนข้างไกลจากอ่าวนางพอสมควร แต่บรรยากาศเงียบสงบ ผิดกับอ่าวนางเลย หน้าหาดโค้งยาว นั่งชิลที่คาเฟ่เสร็จยังเดินเล่น ดูพระอาทิตย์ตกได้อีก

ร้านนี้ฝรั่งเยอะกว่าที่คิดค่ะ เพราะขนาดเราเป็นคนไทยยังเพิ่งรู้เลยว่ามีร้านชิลๆ แบบนี้อยู่ในกระบี่ด้วย ส่วนอาหาร เครื่องดื่มก็ถือว่ารสชาติใช้ได้เลย เราไปถึงช่วงเย็นแล้วเลยไม่อยากกินกาแฟ สั่งอาหารเบาๆ อย่างปอเปี๊ยะผักมารองท้อง กินกับน้ำแดงโซดา โอ๊ย ชื่นใจ ใครไปเที่ยวกระบี่แล้วอยากหาที่นั่งแฮงค์เอาท์ริมหาดบรรยากาศชิลๆ แนะนำที่นี่เลยจ้า

► TAN Hostel X Cafe ◄
โฮสเทลแถวอ่าวนางที่มีคาเฟ่ในตัว บรรยากาศชิคมาก นั่งแล้วรู้สึกเหมือนอยู่ในคาเฟ่ที่บาหลีเลย ราคาอาจจะค่อนข้างสูงตามค่าครองชีพของอ่าวนาง แต่กาแฟรสชาติดีค่ะ เราสั่ง Matcha Latte Espresso (130 บาท) กินคู่ French Toast อร่อยมากกกกกกก ผลไม้สด หอมไซรัป สั่งมากินเป็นอาหารเช้านี่อิ่มไปได้อีกมื้อเลย




► บ้านต้นไม้ ◄
ร้านดังของกระบี่ คนเยอะและเดินเข้าร้านไม่ขาดสายขนาดว่าเป็นวันธรรมดาและเป็นช่วงโลว์ซีซั่นก็ยังเยอะค่ะ แต่ดีที่ภายในร้านเขากว้างขวางใหญ่โต มีหลายโซนให้เลือกนั่ง ฉะนั้นก็เลยไม่เบียดเสียด แต่กลับรู้สึกชิลด้วยบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติ ทั้งตั้งไม้และลำธาร



ไฮไลท์คือ บ้านต้นไม้ ซึ่งตั้งเอาไว้ให้ถ่ายรูปโดยเฉพาะเลย เพราะเขาจะไม่เสิร์ฟอาหารบนนี้ สามารถนั่งกินที่โต๊ะให้เสร็จก่อนแล้วแวะมาถ่ายรูปบนบ้านต้นไม้ก่อนกลับได้ รับรองว่าได้รูปสวยๆ ไปอัพขึ้นโซเชียลหลายใบเลยจ้า

► เบอร์เกอร์บัง ◄
แอบคิดว่ากระบี่เป็นจังหวัดที่ค่าครองชีพสูงไม่แพ้ภูเก็ตเลย แต่ก็เข้าใจได้ว่าเป็นเมืองท่องเที่ยว ฝรั่งเยอะ ฉะนั้นก็เลยยากที่จะคุมงบให้อยู่ในเกณฑ์ประหยัด แต่ ‘เบอร์เกอร์บัง’ เป็นหนึ่งในร้านดังที่ได้ใจเราไปเต็มๆ เพราะนอกจากจะมีเมนูให้เลือกหลากหลายแล้ว รสชาติยังอร่อยและราคาถูกมาก ถ้าเทียบกับค่าครองชีพของกระบี่ สารภาพว่าไปกินทุกเย็นเลยจ้ะ เพราะไม่มีตังค์กินข้าวแล้ว 5555

แม้ร้านจะชื่อว่า เบอร์เกอร์บัง แต่ที่ร้านมีเมนูหลากหลายมาก แน่นอนว่าไม่มีหมูนะ เพราะตั้งอยู่ในย่านของชาวมุสลิม ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม เราเองก็เพิ่งสังเกตว่ากระบี่เป็นจังหวัดที่ชาวมุสลิมอาศัยอยู่เยอะจริงๆ แต่เมนูที่ร้านก็ไม่ได้มีแต่อาหารมุสลิมนะคะ มีทั้ง เบอร์เกอร์ สเต็ก โรตี มะตะบะ รวมไปถึงอาหารไทยประเภทอาหารจานเดียว เช่น ข้าวกุ้งผัดซอสมะขาม ยำ ข้าวผัด ในราคาจานละ 55-60 บาทเท่านั้นเอง ฉะนั้นถ้าใครไปกระบี่แล้วอยากเซฟค่าใช้จ่าย แวะไปฝากท้องกับเบอร์เกอร์บังได้เลยจ้ะ มื้อนึงไม่เคยเกิน 300 บาทสักครั้งเลย

