
แว่วมาว่าแอร์เอเชีย (Air Asia) กำลังจะกลับมาบินเส้นทางซัปโปโรอีกครั้ง! ได้ยินแบบนี้แล้วตาลุกวาว เพราะ “ฮอกไกโด” กำลังจะกลายมาเป็นเกาะที่ใครๆ ก็เที่ยวได้อีกแล้วหรือนี่!? .. ที่ดีใจเวอร์วังขนาดนี้เพราะฮอกไกโดเป็นภูมิภาคอันดับหนึ่งในใจของเราค่ะ ใครมาถามกี่ครั้งต่อกี่ครั้งว่าชอบที่ไหนมากที่สุดในญี่ปุ่น คำตอบเดียวและคำตอบเดิมก็ยังคงเป็น “ฮอกไกโด” เกาะทางเหนือที่มีภูมิทัศน์และบรรยากาศไม่เหมือนกับแดนปลาดิบสักกะตี๊ด เป็นภูมิภาคที่ธรรมชาติเป็นใหญ่ และมีความหนาแน่นของประชากรน้อยกว่าภูมิภาคอื่นๆ ฉะนั้นสายธรรมชาติอย่างเราต้องเลิฟอยู่แล้ว! ยิ่งหางแดงกำลังจะกลับมาให้บริการเส้นทางบินนี้อีกครั้ง เชื่อว่าต้องมีหลายคนเล็งฮอกไกโดอยู่แน่ๆ เลยเอาไอเดีย แผนเที่ยวซัปโปโร เมืองหลวงของเกาะฮอกไกโดมาฝากกันดีกว่า แผนนี้รับรองเด็ด เพราะสามารถเริ่มเที่ยวได้ตั้งแต่สองเท้าเหยียบลงเกาะฮอกไกโดเลย!

รู้จัก “เกาะฮอกไกโด” กันสักเล็กน้อย
ก่อนจะเริ่มต้นวางแผนเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นสถานที่หรือประเทศใดก็ตาม รากฐานที่สำคัญที่สุดคือ “แผนที่” เพราะการได้รู้ว่าสถานที่ใด เมืองไหน อยู่ตรงไหน จะทำให้เราเห็นภาพรวมซึ่งง่ายต่อการทำแผนเที่ยว ฉะนั้นก่อนจะเริ่มแผนเที่ยวซัปโปโร เรามาทำความรู้จัก “เกาะฮอกไกโด” พร้อมดูแผนที่โดยรวมแบบคร่าวๆ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการเที่ยวซัปโปโรให้มากขึ้นอีกกันก่อนนะ : )

❤️ ฮอกไกโดคือเกาะเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งโอบล้อมด้วยมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลโอค็อตสก์
❤️ ฮอกไกโดแบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ เขตตะวันออก เขตใต้ เขตกลาง และเขตเหนือ แต่ละเขตมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจแตกต่างกันไป แต่การเดินทางระหว่างเขตระหว่างเมืองค่อนข้างใช้เวลานานพอสมควร ฉะนั้นควรวางแผนการเดินทางให้ดีเพื่อจะสามารถเที่ยวฮอกไกโดได้อย่างสนุกสนานและครอบคลุม
❤️ การเดินทางสู่เกาะฮอกไกโดนั้นสามารถบินตรงจากประเทศไทยได้เลย แต่ปัจจุบันมีเพียงสายการบินไทย (Thai Airways) เท่านั้นที่มีบินตรงสู่สนามบินนิวชิโตะเซะ (New Chitose Airport) ของเมืองซัปโปโร (นอกนั้นจะเป็นไฟลท์ต่อเครื่อง แม้แต่สายการบินของญี่ปุ่นเองอย่าง ANA หรือ Japan Airlines ก็ต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่โตเกียวก่อน) ซึ่งส่วนใหญ่ตั๋วเครื่องบินไปซัปโปโรนั้นราคาค่อนข้างสูงทีเดียว ก็ต้องมารอลุ้นกันล่ะว่าหางแดงกลับมาคราวนี้จะเปิดตัวที่ราคาเท่าไร ไม่แน่อาจจะถูกจนทำให้ฮอกไกโดกลายเป็นจุดหมายยอดฮิตก็เป็นด้ายย
การเดินทางจากสนามบินนิวชิโตะเซะเข้าเมือง

1. JR Rapid Airport
รถไฟด่วนของ JR ที่ให้บริการรับส่งผู้โดยสารระหว่างสนามบินนิวชิโตะเซะกับสถานีซัปโปะโระ (Sapporo Station) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 37 นาที มีทั้งที่นั่งแบบจอง (Reserved Seat) ราคา 1,590 เยน และแบบไม่จอง (Non-Reserved Seat) ราคา 1,070 เยน สุดสายที่สถานีซัปโปะโระ แต่มีบางขบวนที่วิ่งต่อไปถึงสถานีโอตะรุ (Otaru Station) ฉะนั้นถ้าใครต้องการเดินทางไปโอตะรุจากสนามบินควรตรวจสอบขบวนรถไฟจากเว็บไซต์ Hyperdia อีกที โดยจะใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ค่าโดยสารที่นั่งแบบจอง (Reserved Seat) ราคา 2,300 เยน และแบบไม่จอง (Non-Reserved Seat) ราคา 1,780 เยน
2. Bus
ใครที่มีสัมภาระเยอะและไม่อยากลากของรุงรังขึ้นรถไฟ บริเวณ Terminal 1 ของสนามบินจะมีรถบัสให้บริการรับ – ส่งผู้โดยสารสู่ย่านสำคัญๆ ของเมืองซัปโปะโระ เช่น สถานีซัปโปะโระ (Sapporo Station) สถานีซูซูกิโนะ (Susukino Station) รวมถึงสถานีรถไฟใต้ดินต่างๆ ดูจุดจอดรถบัสเพิ่มเติมได้ทาง > Click < ใช้เวลาเดินทางประมาณ 70 นาที ราคาเริ่มต้น 1,030 เยน
เตรียมตัวพร้อมแล้วก็ไปเที่ยวกันเลย!
แผนนี้รับรองว่าคุ้มค่าเต็มอิ่มแน่นอน เพราะสามารถเริ่มเที่ยวได้ ณ บัดนาว ตั้งแต่สองเท้าก้าวลงเหยียบเกาะฮอกไกโด ฉะนั้นถ้าใครมีไฟลท์บินถึงสนามบินนิวชิโตะเซะเช้าก็เริ่มต้นเที่ยวได้เลยทันที จะบอกว่าสนามบินแห่งนี้ก็เหมือนห้างสรรพสินค้าดีๆ นี่เอง อันที่จริงอาจจะเป็นมากกว่าห้างด้วยซ้ำ เพราะที่นี่มีแม้กระทั่งโรงแรมชั่วคราวและออนเซนให้แช่! เอาละ .. ไม่พูดพร่ำทำเพลงละ ไปตะลุยซัปโปโรด้วยกันเลยดีกว่า!
09:00 -10:00
New Chitose Airport

ประตูสู่เกาะฮอกไกโด สนามบินหลักที่เปิดรับนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ นับเป็นสนามบินที่มีจำนวนผู้โดยสารมาใช้บริการมากเป็นอันดับสามของประเทศญี่ปุ่น รองจากสนามบินนานาชาตินาริตะและสนามบินฮะเนะดะที่กรุงโตเกียว ที่นี่นอกจากเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางบนเกาะฮอกไกโดแล้ว ด้านในสนามบินยังมีช็อปปิ้งมอลล์ขนาดย่อมที่ใหญ่เกินกว่าจะเป็นร้านขายของฝากในสนามบินไว้ให้ช็อปปิ้งละลายเงินเยนด้วย อ้อ แถมยังมีของฝากขึ้นชื่อของเกาะฮอกไกโดจากแทบทุกจังหวัดมาให้ช็อปโดยไม่ต้องไปเดินหาซื้อจากหลายๆ เมืองให้เมื่อยอีกด้วยนะ

พี่หมีจ๊ะ ขอโปรฯ ไปซัปโปโรราคางามๆ หน่อยนะจ๊ะ .. . อ้าว คนละหมี๊! (แฮร่)

แล้วสนามบินแห่งนี้มีอะไรให้เที่ยวล่ะ? เพราะปกติสนามบินเขาก็มีไว้ช็อปปิ้งซื้อของฝากอย่างเดียวเป็นปกติอยู่แล้วไม่ใช่หรอ .. . โน๊วว! เพราะที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมาให้เปิดซิงถึงสองที่เลยล่ะพวกเท๊อ!
Doraemon Waku Waku Skypark

เรียกว่าเป็นแมวกวักประจำสนามบินนิวชิโตะเซะก็ว่าได้ โดยเฉพาะเหล่าสาวกของเจ้าหุ่นยนต์แมวอ้วนสีฟ้า “โดราเอมอน” เพื่อนซี้ของโนะบิตะและผองเพื่อน การ์ตูนญี่ปุ่นชื่อดังที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก แม้พิพิธภัณฑ์ของผู้ให้กำเนิดโดราเอมอนอย่าง อาจารย์ฟุจิโกะ ฟุจิโอะ จะอยู่ที่กรุงโตเกียว แต่ถ้าใครรักเจ้าเหมียวสีฟ้าและอยากถ่ายรูปกับตัวละครในการ์ตูนอย่างจุใจต้องมาที่ “Doraemon Waku Waku Skypark” ซึ่งตั้งอยู่ในสนามบินนิวชิโตะเซะเท่านั้น! ที่นี่จำลองโลกของโดราเอมอนและผองเพื่อนไว้ให้เข้ามาถ่ายรูปหลายฉาก ไฮไลท์คือฉากห้องนอนของโนะบิตะที่เหมือนซะจนแฟนคลับโดราเอมอนรุ่นเก๋าอย่างเราเผลอกรี๊ดดดด อ้อ นอกจากนี้ยังยังมีโซนของที่ระลึกเกี่ยวกับโดราเอมอน และคาเฟ่เล็กๆ ไว้ให้จิบกาแฟรอรถไฟ หรือไฟลท์บินแบบเพลินๆ อีกด้วยนา


เอ๋ .. ประตูทุกหนทุกแห่งบานนี้จะพาไปไหนหน้อ ?

อ้อ .. ห้องอาบน้ำชิซูกะนั่นเองงง — วั้ย! ตั่ยแล๊วววว : p


พิกัด : Arrival Hall ชั้น 3 โซน Smile Road
เวลาเปิด : 10.00 – 18.00 น. ทุกวัน (เฉพาะโซนขายของที่ระลึกเปิดถึง 18.30 น.)
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 800 เยน / เด็ก 500 เยน
Royce’ Chocolate World

พิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมที่หยิบยกโรงงานผลิตช็อกโกแลตชื่อดังของฮอกไกโดอย่าง Royce’ มาอธิบายขั้นตอนการผลิตให้ดูแบบทุกขั้นตอน พร้อมจัดแสดงแพ็กเกจจิ้งตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมไปถึงมีส่วนร้านค้าที่รวบรวมความอร่อยของช็อกโกแลต Royce’ ไว้ให้เลือกชิมมากกว่าที่อื่นใด บางรสชาติมีขายเฉพาะที่นี่เท่านั้นด้วยนะ ที่เด็ดไปกว่านั้นคือ ส่วนของพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ที่ว่านั้นสามารถชมได้ฟรีเด้อ!


พิกัด : อยู่ใกล้ๆ กับ Doraemon Waku Waku Skypark
เวลาเปิด : ร้านค้า 8.00 – 20.00 น. ทุกวัน / พิพิธภัณฑ์ 8.30 – 17.30 น. ทุกวัน
11:00 -12:00
JR Sapporo Station

เดินทางจาก : New Chitose Airport
วิธีการเดินทาง : รถไฟ JR Rapid Airport จากสนามบิน New Chitose Airport ลงสถานี JR Sapporo
ใช้เวลา : 37 นาที
ค่าเดินทาง : 1,070 เยน (ไม่จองที่นั่ง) / 1,590 เยน (จองที่นั่ง)
ก่อนจะไปเที่ยวยังจุดหมายต่อไป เราว่าจากสนามบิน .. ไม่ว่าใครก็ต้องแวะมาที่สถานี JR Sapporo ก่อนอย่างแน่นอน เพราะที่นี่ไม่ได้เป็นแค่ศูนย์กลางการเดินทางของเมืองเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์รวมความบันเทิงด้วย ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าที่รายล้อมและเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟอย่างห้าง PASEO, ESTA, Diamaru, APIA และ Stellar Place ซึ่งรวบรวมทั้งร้านค้าช็อปปิ้ง และร้านอาหารไว้มากมาย ชนิดที่ว่าออกจากชานชาลาปุ๊บก็สามารถเลือกเดินเข้าห้างได้ทันที! ที่สำคัญยังเป็นดงที่พักของคนมาเที่ยวซัปโปโรด้วย ฉะนั้นใครพักแถวนี้สามารถแวะเข้าไปฝากกระเป๋าที่โรงแรมก่อนได้เลย หรือถ้าโรงแรมอยู่ไกลจากสถานีรถไฟ แนะนำว่าฝากกระเป๋าไว้ในล็อกเกอร์ฝากของก็ได้ จะได้ไม่ต้องหอบกระเป๋าไปเที่ยวด้วยให้เป็นภาระ ราคาอยู่ที่ประมาณ 300 – 600 เยน ขึ้นอยู่กับขนาดของล็อกเกอร์จ้า

Sapporo Ramen Kyowakoku

ฝากกระป๋งกระเป๋าเสร็จแล้ว ถ้ารู้สึกหิวก็ไม่ต้องไปไหนไกล เดินปรี่ขึ้นไปชั้น 10 ของห้างสรรพสินค้า ESTA ได้เลย! ข้างบนมี “Sapporo Ramen Kyowakoku” ซึ่งแปลได้ว่า “Sapporo Ramen Republic” ฉะนั้นจึงไม่ใช่แค่ฟู้ดคอร์ดที่มีร้านราเม็งหลายๆ ร้าน แต่เป็นถึงสาธารณะรัฐราเม็ง! คัดสรรราเม็งเจ้าเด็ดเจ้าดังจากทั่วสารทิศในเมืองซัปโปโรมามากถึงแปดร้าน แต่ละร้านพ่วงดีกรีตำแหน่งแชมป์มาการันตีรสชาติที่หอมมันอร่อย ทั้งน้ำซุป เครื่อง และเส้นราเม็ง ต่างคนต่างขุดสูตรลับพร้อมสร้างสรรค์เมนูที่เป็นเอกลักษณ์มาเอาใจเหล่านักชิมกันน่าดู แต่ถ้าถามว่าร้านไหนอร่อยที่สุด บอกได้เลยว่าอร่อยทุกร้าน เลือกชิมกันตามชอบใจได้เลยจ่ะ : )




พิกัด : สถานี JR Sapporo ร้านอยู่ชั้น 10 ของห้างสรรพสินค้า ESTA
เวลาเปิด : 11.00 – 22.00 น. ทุกวัน (ปิดรับออร์เดอร์ 21.30 น.)
13:00 -14:00
Moerenuma Park

เดินทางจาก : JR Sapporo Station
วิธีการเดินทาง : จากสถานี JR Sapporo เดินไปขึ้นรถไฟใต้ดิน (มีทางเชื่อมจากสถานี JR) นั่งรถไฟใต้ดินสาย Toho Line ลงสถานี Kanjo-Dori Higashi แล้วต่อรถบัส Chuo Bus สาย 69 หรือ 79 ลงป้าย Moerenuma Koen Higashiguchi เดินประมาณ 5 นาที
ใช้เวลา : ประมาณ 30 – 40 นาที
ค่าเดินทาง : ค่ารถไฟ 250 เยน / ค่ารถบัส 210 เยน

แม้จะเป็นเมืองหลวงที่เรียกว่ามีความศิวิไลซ์มากที่สุดในเกาะฮอกไกโด แต่ซัปโปโรมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่เก๋ไก๋น่าไปถ่ายรูปเล่นด้วยนะ .. “Moerenuma Park” คือสวนสาธารณะขนาดใหญ่มากกกก ยึดครองพื้นที่สีเขียวของเมืองซัปโปโรเกินกว่าพันไร่ ด้านในประกอบด้วยภูมิสถาปัตยกรรมหลายจุดซึ่งจัดวางองค์ประกอบไว้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น “HIDAMARI” พีระมิดแก้วที่สามารถขึ้นไปชมวิวได้จากด้านบน “Sea Fountain” น้ำพุขนาดใหญ่ที่มีแรงดันน้ำพ่นได้สูงถึง 25 เมตร “Tetra Mound” ภูเขาจำลองขนาดย่อมที่โค้งคลุมด้วยเสาพีระมิดอีกที และไฮไลท์เด็ด! “Mt. Moere” ภูเขาจำลองขนาดใหญ่และสูงที่สุดในสวนแห่งนี้ ซึ่งการขึ้นไปถึงยอดนั้นจะเรียกว่าเป็นการไฮกิ้งแบบเบาๆ ก็ได้ ถึงแม้จะเหนื่อยนิดๆ แต่ถ้าขึ้นไปถึงแล้วจะร้องโอ้โห! เพราะสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองซัปโปโรได้โดยรอบเลย รับรองว่าแวะมาถ่ายรูปที่นี่ต้องมีรูปมุมสวยแปลกตาไว้อัพขึ้นโซเชียลกันอย่างแน่นวล!

ทางเดินขึ้นไปสู่ Mt. Moere .. เดินชิลๆ ไม่เหนื่อยหรอก เพราะวิวข้างบนสวยมากกกก

วิวนี้เลย! สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองซัปโปโรได้ 360 องศากันเลยทีเดียว

เวลาเปิด : 7.00 – 22.00 น. ทุกวัน (ทางเข้าสวนปิด 21.00 น.)
ค่าเข้า : ฟรี!!
17:00 -18:00
Susukino

เดินทางจาก : Moerenuma Park
วิธีการเดินทาง : นั่งรถบัสสายเดิมจากป้ายรถบัสด้านฝั่งตรงข้ามกับขามากลับไปลงที่สถานี Kanjo-Dori Higashi แล้วต่อรถไฟใต้ดินสาย Toho Line ลงสถานี Sapporo เปลี่ยนรถไฟเป็นสาย Nanboku Line ลงสถานี Susukino
ใช้เวลา : ประมาณ 30 – 40 นาที
ค่าเดินทาง : ค่ารถไฟ 250 เยน / ค่ารถบัส 210 เยน
กลับมาปิดท้ายวันดีๆ ในซัปโปโรด้วยการตะลุยแหล่งท่องราตรีขนาดใหญ่ใจกลางเมืองที่มีความคึกคักมากที่สุดในซัปโปโร! นอกจากจะเป็นย่านกินดื่มที่มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ และแหล่งบันเทิงเรียงรายมากมายแล้ว “ซูซูกิโนะ” ยังเป็นแหล่งช็อปปิ้งหลักที่คร่าคร่ำไปด้วยนักช็อปแดนปลาดิบและนักช็อปขาจรจากทั่วสารทิศด้วย โดยเฉพาะบริเวณ “Tanuki Koji” หรือถนนคนเดินที่ทอดยาวกินพื้นที่ไปหลายบล็อกตามสไตล์ถนนช็อปปิ้งของญี่ปุ่นที่มีอยู่แทบทุกเมือง ฉะนั้นไม่ว่าจะกินหรือช็อป แค่มาย่านซูซูกิโนะรับรองว่าได้อยู่กันยาวววว ปิดจ็อบที่นี่ได้เลย! #ราตรีนี้ยังอีกแสนไกล๊หวังว่าเธอนั้นจะยังไหวและจะยังไม่รีบไปไหน ; p

“WE GO” ร้านนี้ร้านโปรด! มีหลายสาขาทั่วญี่ปุ่น ไปเมืองไหนก็ต้องแวะ เพราะมีเสื้อผ้าแฟชั่นราคาไม่แรงให้เลือกช็อปมากมาย

เซลล์ 90% บร้าไปแล้ววว! ช็อปสิคะอย่างงี้ รออะไร๊!?

Soup Curry & Dining Suage+

ขอแนะนำอีกหนึ่งเมนูที่ต้องลองเมื่อมาเยือนเกาะฮอกไกโด เพราะนับเป็นเมนูพื้นเมืองที่หากินได้เฉพาะที่นี่ นั่นก็คือ “ซุปคาเร่” หรือซุปแกงกะหรี่สไตล์ฮอกไกโด โดยร้าน “Soup Curry & Dining Suage+” เคยครองแชมป์อันดับหนึ่งในหมวดร้านซุปแกงกะหรี่จากเว็บไซต์ Tripadvisor ด้วย ร้านนี้สามารถเลือกวัตถุดิบต่างๆ เองได้ เช่น เนื้อไก่ หรือเนื้อแกะ รวมไปถึงผักต่างๆ ทั้งมันฝรั่ง แครอต หรือจะเพิ่มชีส เพิ่มไข่ ก็เลือกได้ตามต้องการ ส่วนราคาจะเพิ่มขึ้นตามวัตถุดิบที่เลือก ในหนึ่งเซ็ตจะเสิร์ฟข้าว พร้อมซุปแกงกะหรี่ชามใหญ่มากกก นอกจากนี้ยังเลือกระดับความเผ็ดได้ด้วย ฉะนั้นต่อให้คนไม่ชอบกินเผ็ดก็อร่อยได้สบายพุงงง


พิกัด : จากสถานี Susukino เดินตรงไปประมาณ 2 บล็อกตึก ร้านอยู่ชั้น 2 ของด้านหลังตึก
เวลาเปิด : 11.30 – 22.00 น. ทุกวัน (ปิดรับออร์เดอร์ 21.30 น.)
รีวิวฮอกไกโดยังมีอีกเพียบเลยนะ
> ปักหมุดจุดเช็คอินเส้นทางโรแมนติกรับลมหนาวปลายปี
> 5 ที่เด็ดห้ามพลาด! ที่ ‘โอตารุ’ เมืองท่าโบราณสุดโรแมนติค
> ขับรถตะลุยเมืองหนาว “โอบิฮิโระ” เพชรน้ำงามแห่งฮอกไกโดตะวันออก
> เที่ยว ‘ฮอกไกโด’ 3 ฤดู อยากรู้ว่าเที่ยวช่วงไหนดี ลองมาดูเป็นไอเดียได้เลย!
> เที่ยวญี่ปุ่นฟีลใหม่ ไปขับรถบ้านเที่ยวฮอกไกโดกัน!
> แผนขับรถเที่ยว “บิเอะ” เมืองมินิมอลที่มีเส้นทาง ROAD TRIP สวยงามกว้างไกลสุดสายตา
> 9 จุดเช็คอิน ฮอกไกโด สำหรับคนรักธรรมชาติ
> ROAD TRIP HOKKAIDO 4 วัน 3 คืน ฉบับ พาเที่ยวที่ลับ แบบไม่ซ้ำใคร!
> นั่งจิบม็อกเทลในอิกลู ดื่มด่ำกับคาเฟ่สุดคูลที่สุดในเจแปน!